ปตท.รุกตลาด รับอาเซียนหวังเป็นผู้นำขายพลังงานข้ามชาติ
เผยกัมพูชาการขยายตัวเศรษฐกิจท่องเที่ยวเติบโตดันผลประกอบการอันดับ 2 ในอาเซียน
แย้มแผนย้ายคลังลำปางเพิ่มกำลังสำรอง
นายกฤษณ์ อิ่มแสง
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ปฏิบัติการจัดหาและคลัง บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยในโอกาสนำคณะสื่อมวลชนไปศึกษาดูงานภารกิจของ
ปตท. ที่สถานีเติมน้ำมันอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ว่า
จากการดำเนินงานของ ปตท. ตลอดระยะเวลา 36
ปีที่ผ่านมา ปตท.ได้พัฒนาและขยายงานด้านความมั่นคงทางพลังงานอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยและทั่วโลกรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านแถบ
อาเซียนกำลังเติบโตและมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น
จึงมีการขายตลาดและบริการ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
ทั้งนี้สถานีสถานีเติมน้ำมันอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
ในนามบริษัท
ปตท.(กัมพูชา) จำกัด
ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจของปตท.ให้เติบโตไปพร้อมกับการขยายตัว
ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคอาเซียน

“ภาพรวมของการท่องเที่ยวที่กัมพูชา
โดยเฉพาะที่เสียมเรียบเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
มีสายการบินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบการของ
สถานีบริการน้ำมันอากาศยานค่อนข้างมีความต้องการใช้น้ำมันสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในส่วนของคลังน้ำมันที่สถานีท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ
กัมพูชา มีถัง 2 ใบ กำลังความจุ ใบละ 5 แสนลิตร รวมความจุ 1 ล้านลิตร ที่ผ่านมาช่วงฤดูการท่องเที่ยว มีการจ่ายน้ำมันมากที่สุด
ถึง 4 ล้านลิตรต่อเดือน ซึ่งต้นปี 58
มีแผนจะเพิ่มกำลังสำรองปิโตรเลียม โดยเพิ่มถังบรรจุ อีก 2 ใบ รวมกำลังสำรองน้ำมัน
3 ล้านลิตร ผลประกอบการปี 2557
ตัวเลขขณะนี้ประมาณ 136 ล้านลิตร และมีเป้าหมาย จะพัฒนาธุรกิจให้เป็นผู้นำปิโตรเลียมข้ามชาติ”
นายไพศาลกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า
จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้บริหาร ปตท.เกี่ยวกับแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับ
คลังปิโตรเลียมลำปาง พบว่า ในส่วนคลังลำปางในอนาคตจะมีการย้ายแหล่งที่ตั้งคลัง
และมีการวางแผนเพิ่มกำลังสำรอง น้ำมันและก๊าซ LPG เพื่อ
ตอบสนองความต้องการใช้พลังงานในเขตภาคเหนือตอนบนเช่นเดียวกับที่
จังหวัดขอนแก่นกำลังดำเนินการย้ายคลังขณะนี้
โดยส่วนของคลังลำปางจะพัฒนาให้สอดรับการขายตัวทางเศรษฐกิจและการเชื่อมโยง
เส้นทางเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) และภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับแหล่งที่ตั้งคลังแห่งใหม่
รวมถึงแผนงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการสอดรับนโยบายจังหวัด
หรือนโยบายระดับภาคที่จะเชื่อมโยงการความเป็นศูนย์กลางขนส่งทางบก (LAND
LOGISTIC HUB ) ของจังหวัดลำปาง และยังเชื่อมั่นว่าลำปางมีศักยภาพทุกด้านในความเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและการขนส่งทางบก
ที่สามารถขนส่งทางบกไปยังจังหวัดอื่นๆได้ ขณะเดียวกันฝ่ายบอร์ดบริหารพยายามติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเมือง เพื่อให้การขายตัวในการบริหารจัดการทรัพยากรพลังงานของ
ปตท.ให้สอดรับกับความต้องการบริโภค นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการต่อท่อ
น้ำมันมายังจังหวัดกำแพงเพชร ส่วนจะขยายโครงการมาที่ลำปางหรือไม่
จะต้องรอให้แผนการย้ายคลังลำปางชัดเจนก่อน
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1002 ประจำวันที่ 31 ตุลาคม - 6 พฤศจิกายน 2557)