วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

แปรซากจอกเป็นปุ๋ยค่านับล้านแจก4ตำบล-กิ่วลมเดินหน้าปราบต่อ






ผู้ว่าฯลำปาง นำทีมแปลงซากจอกหูหนู 1.3 พันตันเป็นปุ๋ยหมักมูลค่า 4 ล้านบาท แจกจ่ายเกษตรกรพื้นที่ 4 ตำบล ขณะที่เขื่อนกิ่วลมยังคงเดินหน้ากำจัดจอกอย่างต่อเนื่อง เผยเหลือพื้นที่อีก 1 กิโลเมตร อีก 2 สัปดาห์เปิดเดินแพได้เต็มเส้นทาง

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.57 ที่สนามโรงเรียนเมืองมายวิทยา ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ลำปาง นายธานินทร์ สุภาแสน  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เข้าตรวจรับฝังผลการทำงานและติดตามความคืบหน้าการกำจัดจอกหูหนูที่ระบาดอย่างหนักเหนือเขื่อนกิ่วลม โดยมีเกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำปางและ พัฒนาที่ดินจังหวัดลำปางได้รายงานผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งโครงการนี้ได้เปิดโครงการไปเมื่อวันที่ 28 ต.ค.57 ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อโครงการ เขื่อนสวย น้ำใส คืนความสุขให้ประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระชนมายุ 87 พรรษา 5 ธ.ค. 57  โดยมีแผนปฏิบัติการ ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.57 ถึง 5 ธ.ค.57 ที่ผ่านมา ซึ่งผลการทำงานทีผ่านมาบรรลุวัตถุประสงค์ผลเป็นที่น่าพอใจ ปรากฏว่าจอกหูหนูที่ระบาดอย่างหนักทางเจ้าหน้าที่สามารถจัดเก็บออกมาจากเขื่อนได้มากกว่า 8,000 ตัน(สด) และนำมากองรวมกันไว้ที่สนามโรงเรียนเมืองมาย เมื่อจอกหูหนูได้รับแสงแดดและแห้งลง จากการคำนวณจากขนาดกองที่มีความยาว 87 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 1.50 เมตร  เหลือซากจอกหูหนูอยู่ประมาณ 1,300 ตัน

จังหวัดลำปางจึงร่วมกับหลายหน่วยงานนำจอกหูหนูที่เก็บกวาดมาจากเขื่อนกิ่วลมมาทำเป็นปุ๋ยหมัก เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระชนมายุ 87 พรรษา  โดยได้มีการจัดทำปุ๋ยหมักจากเศษวัชพืชจอกหูหนูแห้ง จำนวน 1,300 ตัน โดยใช้สาร พด. ซึ่งเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการย่อยสลายวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร และอุตสาหกรรมแปรรูป ผลผลิตทางการเกษตรเพื่อผลิตปุ๋ยหมักในเวลารวดเร็วและมีคุณภาพสูงขึ้น ประกอบด้วยเชื้อรา และแอคติโนมัยซีสที่ย่อยสารประกอบเซลลูโลส และแบคทีเรียที่ย่อยไขมัน   รวมทั้ง ปุ๋ยคอก และเศษวัชพืชบางส่วน มาผสมเพื่อช่วยในการย่อยสลายให้เกิดปุ๋ยหมักที่ดีมีคุณภาพสามารถนำไปใช้ประโยชนได้จริง และในเวลาอีก 1 เดือนจะได้ปุ๋ยหมักที่มีคุณภาพ ซึ่งจะได้ แจกจ่ายไปให้ประชาชนในพื้นที่ 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.บ้านแลง ต.ทุ่งฝาย ต.บุญนาคพัฒนา และ ต.บ้านเสด็จ ได้ใช้ประโยชน์ต่อไป

สำหรับมูลค่าซากจอกหูหนูที่นำมาทำปุ๋ยในครั้งนี้ ได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินว่า หากเปลี่ยนเป็นปุ๋ยหมักแล้วจะขายในราคากิโลกรัมละ 3 บาท  1 ตันอยู่ที่ราคา 3,000 บาท ดังนั้นปุ๋ยจอกหูหนูทั้งหมด 1,300 ตัน มีมูลค่าถึง 3.9 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของการกำจัดจอกหูหนูยังคงเดินหน้าต่อไป ซึ่งความคืบหน้า นายวศิน ลีลาชินาเวศ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการในส่วนที่กั้นไว้ล็อกที่ 4 แล้ว เหลือปริมาณจอกหูหนูอีก 1 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เวลาเก็บประมาณ 2 สัปดาห์  ตอนนี้มีโป๊ะรถแบ็คโฮ 2 คัน และเรือกำจัดวัชพืช 3 ลำ โดยจะเร่งมือให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเปิดทางให้แพล่องได้ตลอดเส้นทาง อีก 2 สัปดาห์ก็คงเปิดทางได้ แต่จะมีส่วนด้านข้างที่ยังกักไว้ก็จะดำเนินการต่อไปให้เสร็จ รวมทั้งในส่วนของซากจอกที่ลอยกระจายมาทางหน้าเขื่อนบ้างส่วน ก็จะทยอยเก็บรายละเอียดหลังจากกำจัดล็อกที่ 4 เสร็จแล้ว 


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1008ประจำวันที่ 12 - 18 ธันวาคม  2557)



Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์