สุดสลด
อดีต ผญบ.ถูกลูกชายทรพีคว้าขวานจามหลังไม่ยั้งดับอนาถคาถ้วยข้าว
แม่พยายามเข้าช่วยแต่สู้แรงไม่ไหว หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป แต่ยังย้อนกลับมาดูผลงาน
ชาวบ้านจึงช่วยกันจับตัวก่อนรุมประชาทัณฑ์ ตำรวจจึงต้องรีบนำตัวแยกไปสอบสวนที่
สภ.เกาะคา เบื้องต้นคาดโรคประสาทกำเริบ
จึงลงมือก่อเหตุ
เมื่อเวลาประมาณ
18.50 น.วันที่ 6 ธ.ค.57 ร.ต.อ.สมบัติ พุ่มเพ็ชรษา ร้อยเวรสอบสวน สภ.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง
ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 425
บ้านจู้ดทุ่ง หมู่ 10 ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
ก่อนจะประสานแพทย์เวร รพ.เกาะคา เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาะคา ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุก่อสร้างขึ้นเป็นบ้านปูนชั้นเดียว
ด้านในเป็นห้องโล่ง มีโต๊ะอาหารอยู่มุมขวาของห้อง ที่พื้นข้างโต๊ะ พบศพนายน้อย
สุขสวัสดิ์ อายุ 60 ปี เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านจู้ดทุ่ง นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนตะแคง
สวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงขายาวลายทหาร ถูกฟันด้วยของมีคมด้านหลังท้ายทอย หัวไหล่
กลางหลัง รวม 7 แผล เลือดไหลนองเต็มพื้น โดยมีนางทองเพียร สุขสวัสดิ์ ภรรยา
เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนเลือด นั่งร้องไห้อยู่ใกล้ๆ
นางทองเพียร
ให้การด้วยน้ำตานองหน้าว่า ผู้ก่อเหตุคือ
นายเอกชัย สุขสวัสดิ์ อายุ 40 ปี ลูกชายของตน ซึ่งก่อนเกิดเหตุก็ไม่ได้มีเรื่องราวทะเลาะเบาะแว้งใดๆ
นายน้อยได้เตรียมกับข้าวเพื่อจะกินข้าวเย็นด้วยกัน ตนเองก็นั่งอยู่ในบ้านด้วย
จากนั้นนายน้อยได้เรียกนายเอกชัยให้มากินข้าว แต่ปรากฏว่าลูกชายได้เดินออกไปหลังบ้าน
และได้ถือขวานวิ่งเข้ามาฟันนายน้อยที่กำลังยืนหันหลังอยู่
โดยที่นายน้อยไม่ทันตั้งตัว จนล้มลง ตนเองได้เข้าไปห้ามแต่สู้แรงไม่ไหว
ลูกชายก็ยังเงื้อขวานฟันพ่ออยู่อีกหลายครั้ง
ก่อนจะวิ่งออกไปหลังบ้านเอาขวานไปโยนทิ้งและหนีไป ตนก็ไม่รู้สาเหตุที่ลูกชายทำแบบนี้
เพราะไม่ได้ทะเลาะอะไรกันมาก่อนเลย
แต่ลูกชายเป็นโรคประสาทอ่อนๆ พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวนปรุงหลายครั้ง
จากการสอบสวนเบื้องต้น
ทราบว่า นายเอกชัยเคยติดยาเสพติดมาก่อน
ทางญาติได้พาไปรักษาแต่ก็พบว่ายังมีอาการประสาทหลอนอยู่ตลอดเวลา คาดว่าเกิดอาการประสาทหลอนขึ้น
จึงได้ก่อเหตุสลดฆ่าพ่อตัวเองดังกล่าว ซึ่งหลังจากก่อเหตุแล้ว
นายเอกชัยได้วิ่งหลบหนีไป แต่สักพักก็ย้อนกลับมาดูที่บ้านของตน เมื่อชาวบ้านเห็นจึงได้ช่วยกันจับตัวไว้
พร้อมกับรุมประชาทัณฑ์นายเอกชัยเพราะไม่พอใจที่ก่อเหตุการณ์เลวร้ายต่อบุพการีของตัวเอง
เจ้าหน้าที่จึงต้องรีบแยกตัวนายเอกชัยไปที่ สภ.เกาะคาทันที
โดยเจ้าตัวยังพูดจาไม่รู้เรื่อง ได้แต่นอนหลับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฆ่าบุพการีจนถึงแก่ความตายโดยเจตนา
และนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1008ประจำวันที่ 12 - 18 ธันวาคม 2557)
