กิตติภูมิยันไฟไม่ไหม้บ่อขยะ
เป็นเพียงจุดทิ้งเศษกิ่งไม้ใบหญ้าแห้งพื้นที่ไร่เศษ ห่างจากบ่อออกไปอีก 1.2กิโลเมตร
หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าตรวจสอบเหตุ
เร่งหามาตรการป้องกันหวั่นกระทบเกิดปัญหาหมอกควัน
เมื่อเวลา
11.00 น.วันที่ 27 ม.ค.58 เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย
สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง กองสาธารสุขเทศบาลนครลำปาง และ ปภ.จังหวัดลำปาง
ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบภายในบ่อฝังกลบขยะมูลฝอยของเทศบาลนครลำปาง
ตั้งอยู่เขตหมู่บ้านกล้วยม่วง หมู่ 3 ต.กล้วยแพะ อ.เมือง
จ.ลำปาง หลังจากเมื่อกลางดึกวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นภายในพื้นที่ของบ่อฝังกลบดังกล่าว
โดยต้องใช้รถดับเพลิงจากเทศบาลนครลำปางและเทศบาลเมืองเขลางค์นคร รวม 5 คันจึงฉีดดับเพลิงไว้ได้
และยังมีรถดับเพลิงของบริษัทรับจ้างเก็บขยะคอยฉีดพรหมน้ำเฝ้าระวังอยู่
นายเสวก
จันทวงศ์ หน.งานบำรุงรักษาและซ่อมแซม สำนักการช่าง เทศบาลนครลำปาง เปิดเผย ว่า
ศูนย์จัดการขยะแหงนี้ มีพื้นที่กว่า 600 ไร่
ได้จัดแบ่งโซนการจัดการขยะแบบฝังกลบ เป็นโซนๆไป โดยพื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ก็เป็นโซนที่ทิ้งเศษกิ่งไม้ใบหญ้าและขยะที่ย่อยสลายได้
ไม่ใช่บริเวณบ่อขยะฝังกลบแต่อย่างใด ซึ่งที่มาของเศษกิ่งไม่ใบหญ้าเหล่านี้ก็มาจากพื้นที่ชุมชนนำมาทิ้ง
และกองรวมกันไว้ รอการย่อยสลาย แต่ในช่วงนี้สภาพอากาศที่ค่อนข้างแห้งแล้ง
กับมีการหาของป่า อาจมีคนภายนอกเข้ามาหาของป่าและได้เผาเศษไม้แห้งจนเกิดการลุกลาม ซึ่งจะมีรถน้ำของบริษัท
1 คันที่เตรียมไว้เฝ้าระวังสำหรับบ่อขยะ 25 ไร่
ช่วงที่เกิดไฟไหม้เศษไม้ตรงจุดนี้ก็ได้นำรถของบริษัทมาดับไฟ
แต่เอาไม่อยู่
จึงได้ประสานขอรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองเขลางค์มาทำการดับร่วมด้วย
ซึ่งทางนายกเทศมนตรีจะได้มีการประชุมส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการ
ป้องกัน
เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเฝ้าระวังหมอกควันไฟป่า
ด้านนายกิตติภูมิ นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง
กล่าวว่า
ไฟไม่ได้ไหม้ขยะในบ่อกำจัดขยะของเทศบาลนครลำปางแต่ประการใด
ส่วนของพื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งอยู่ห่างจากบ่อขยะประมาณ 1.2 กิโลเมตร เป็นพื้นที่โล่งที่เปิดให้ชาวบ้านในพื้นที่เทศบาลเมืองเขลางค์นคร
และเทศบาลนครลำปาง นำขยะย่อยสลายง่าย เศษกิ่งไหม้ใบไม้มาทิ้ง
โดยให้กองรวมไว้รอให้มีการย่อยสลายเป็นปุ๋ย
ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านนำมาทิ้งจำนวนมาก ระหว่างที่เกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ดังกล่าว
เทศบาลนครลำปางได้ร่วมกันดำเนินการดับไฟในพื้นที่ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
โดยได้รับการนสนับสนุนรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองเขลางค์นคร จึงขอขอบคุณมา ณ
โอกาสนี้
นายกเทศมนตรี กล่าวว่า สำหรับการป้องกันแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
เทศบาลขณะนี้ได้ให้รถแทรกเตอร์เข้ามาปรับพื้นที่
โดยการดันกองเศษกิ่งไม้ลงในหลุมบ่อเก่าที่มีอยู่ใกล้พื้นที่ได้บางส่วน
พร้อมทำการกลบทับด้วยดินเรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นแนวกันไผป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ
แต่หากเกิดสุดวิสัยก็จะง่ายต่อการดับไฟและป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามได้ด้วย
และจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้
ถือว่าไม่มีผลกระทบที่เป็นมลภาวะทางอากาศแต่อย่างใด สำหรับ
การแก้ไขปัญหาระยะยาว จะต้องหารือร่วมกับหน่วยงาน องค์กร
และผู้นำชุมชนที่เกี่ยวข้องอีกครั้งครั้ง ทั้งนี้
มีแนวคิดว่า จะต้องนำดินไปถมปิดกั้นทางเข้าบริเวณพื้นที่
เพื่อป้องกันไม่ให้นำเศษกิ่งไม้เข้าไปเททิ้งได้อีก
กำหนดจุดทิ้งกิ่งไม้ให้ชัดเจนไว้ ณ บ่อลูกรังเก่าที่มีอยู่ พร้อมทำป้ายบอกทางอื่นๆ
ตามความเหมาะสม และทำการไถปรับพร้อมกลบทับดินเป็นระยะ ๆ ตามความเหมาะสมต่อไป
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ในพื้นที่ใกล้บ่อกำจัดขยะ
ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำสถานที่บ่อฝังกลบมูลฝอย เทศบาลนครลำปาง
รายงานว่า น่าจะเกิดจากการที่ชาวบ้านที่เข้าไปหาของเก่า
และเศษกิ่งไม้ไปทำฟืน ได้ทำการจัดไฟเผากองเศษกิ่งไม้นี้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
โดยได้ทำการจุดไฟเผาไปทั้งหมด 7 กอง พร้อมๆ กัน ซึ่งบางกองจะมีระยะห่างกัน
ไม่ได้เกิดจากการลุกลามติดต่อกัน
และเป็นจุดที่อยู่ห่างจากบ่อฝังกลบมูลฝอยของเทศบาลนครลำปางมาก.
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1014 ประจำวันที่ 30
มกราคม - 5
กุมภาพันธ์ 2558)