วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เสนอยุบสภาฯท.นคร ไม่ผ่านร่างฯลดหย่อนภาษี



กลุ่มประธานชุมชนเทศบาลนครลำปาง ยื่นเสนอผู้ว่าฯ ให้ยุบสภาเทศบาล เหตุไม่ผ่านร่างเทศบัญญัติลดหย่อนภาษีบำรุงท้องที่  อ้าง สท.21 เสียงกลั่นแกล้งนายกเทศเทศมนตรี เพราะอยู่คนละฝ่าย  ด้านโกหมายแจง สท.ปฏิบัติตามหนังสือท้วงติงของผู้ว่าฯ ให้แก้ไขบทบัญญัติในกฎหมาย จึงไม่ผ่านร่างดังกล่าวเพื่อให้ฝ่ายบริหารเสนอเข้ามาใหม่ แต่เทศบาลกลับขึ้นป้ายโยนความผิดให้สภาฯ


เมื่อเวลาประมาณ 11.00 วันที่ 13 ก.พ. 2558 เครือข่ายประธานชุมชนเทศบาลนครลำปาง นำโดย ร.ต.ต.ประทุม ไหวมาเจริญ  ประธานเครือข่ายฯ   พร้อม กับสมาชิกจำนวนหนึ่ง ได้รวมตัวกันมายื่นหนังสือถึงนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อเสนอเรื่องให้พิจารณาสอบสวนเพื่อเสนอความเห็นให้ยุบสภาเทศบาลนครลำปาง โดยมีนายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นผู้รับหนังสือแทน

ทั้งนี้ ในหนังสือฉบับดังกล่าวได้ระบุถึงกรณีที่สมาชิกสภาเทศบาลนครลำปาง ได้มีการแปรญัตติร่างเทศบัญญัติเทศบาลนครลำปาง เรื่องการลดหย่อนภาษีบำรุงท้องที่ ในเขตเทศบาลนครลำปาง พ.ศ....นายกเทศมนตรีนครลำปาง เป็นผู้เสนอต่อเทศบาลนครลำปาง ในการประชุมสมัยที่ 4ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2557

ต่อมาจังหวัดลำปางตามหนังสือ ที่ ลป.0023.4/พิเศษ 1009 ลงวันที่ 14 ม.ค.58  ได้แจ้งต่อประธานสภาเทศบาลนครลำปางว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางมีคำสั่งไม่เห็นชอบกับร่างเทศบัญญัติฯ ดังกล่าวข้างต้น เนื่องจากการตราเทศบัญญัติฯดังกล่าว ไม่เป็นไปตามกฎหมายหมายภาษีบำรุงท้องที่ และประธานสภาเทศบาลนครลำปางได้นำเทศบัญญัติดังกล่าวให้สภาเทศบาลนครลำปางพิจารณาใหม่ ในการประชุมสภาเทศบาลนครลำปาง สมัยประชุมสามัญสมัยแรก ครั้งที่ 1 ประจำปี 2558 เมื่อวันที่ 9 ก.พ.58 แต่สภาเทศบาลนครลำปางได้มีมติยืนยันตามร่างเทศบัญญัติเดิม ทำให้ร่างเทศบัญญัติฯอันใหม่ดังกล่าวเป็นอันตกไป

ประธาน เครือข่ายประธานชุมชนเทศบาลนครลำปาง กล่าวว่า ตนเองเป็นประชาชนในเขตเทศบาลนครลำปางและได้ร่วมรับฟังประชุมสภาเทศบาลนคร ลำปางทั้ง 2 ครั้ง มีความเห็นร่วมกันว่าสภาเทศบาล ซึ่งสมาชิกสภาเทศบาลเสียงส่วนใหญ่ 21 เสียงเป็นคนของอดีตผู้บริหารคนเดิม ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามความเห็นของตนโดยสุจริตใจ และยังอยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมายใดๆ ของนายเทศมนตรีคนก่อน มีพฤติการณ์กลั่นแกล้งนายกเทศมนตรีคนปัจจุบัน โดยแปรญัตติร่างเทศบัญญัติฯ ของผู้บริหารที่เสนอไปอย่างถูกต้องสมบูรณ์แล้ว โดยอาศัยเสียงข้างมาก 21 เสียงในสภาเทศบาลเป็นเครื่องมือทำการแปรญัตติที่ขัดต่อหลักการของกฎหมาย บำรุงท้องที่โดยมีเจตนาเพื่อให้ร่างเทศบัญญัติฯดังกล่าวตกไป

ตาม กฎหมายบำรุงท้องที่ให้แก่บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินแปลงเดียวหรือ หลายแปลงในเขตเทศบาลนครลำปาง และใช้ที่ดินนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของตน เป็นที่เลี้ยงสัตว์หรือประกอบกสิกรรมของตน เป็นจำนวนอย่างต่ำ 50 ตารางวา และอย่างสูงไม่เกิน 100 ตารางวา แต่เทศบาลนครลำปางต้องออกเป็นเทศบัญญัติรองรับว่าจะลดหย่อนให้เท่าใดในช่วง ระหว่าง 50-100 ตารางวา ในเมื่อไม่มีเทศบัญญัติรองรับ ประชาชนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาก็ต้องชำระค่าภาษีบำรุงท้องที่โดยเสียสิทธิการลด หย่อนค่าภาษีบำรุงท้องที่ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ กรณีที่นายกเทศมนตรีนครลำปางเก็บภาษีบำรุงท้องที่โดยลดหย่อนค่าภาษีให้โดย ที่ไม่มีเทศบัญญัติลดหย่อนภาษีท้องที่ เท่ากับนายกเทศมนตรีนครลำปางเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา แต่กรณีที่นายกเทศมนตรีนครลำปางเก็บภาษีบำรุงท้องที่โดยไม่มีการลดหย่อนภาษี ทั้งๆ ที่กฎหมายภาษีบำรุงท้องที่บัญญัติให้ออกเทศบัญญัติฯ ลดหย่อนให้ได้ ประชาชนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของที่ดินในเขตเทศบาลนครลำปางทุกคนก็ จะได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการที่ต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่ จากการที่บางรายแต่เดิมที่มีที่ดินไม่เกิน 100 ตารางวา ไม่ต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่

ด้านนายกิตติภูมิ นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กล่าวในเรื่องนี้ว่ามีประชาชนในเขตเทศบาลนครลำปางที่ไม่ได้ลดหย่อนภาษีและมีที่ดินต่ำกว่า 100 ตาราวา จำนวนประมาณ 1.4 หมื่นคน จากที่ไม่ผ่านสภาในกรณีนี้ ในขณะที่ท้องถิ่นอื่นได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีแล้วทั้งนั้น  ซึ่ง 90% ในจำนวนนั้นล้วนเป็นคนชั้นล่างเงินมีความหมายกับเขา

ลานนาโพสต์ได้สอบถามไปยังฝ่ายสภาเทศบาลนครลำปาง โดยนายสมหมาย พงษ์ไพบูลย์  สมาชิกสภาฯ ได้ให้ข้อมูลว่า  ทางสภาเทศบาลฯ ได้ส่งรายงานร่างความเห็นชอบร่างเทศบัญญัติเทศบาลนครลำปาง เรื่องการลดหย่อนไม่ต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่ในเขตเทศบาลนครลำปาง พ.ศ.... ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเพื่อขอความเห็น ซึ่งทางผู้ว่าฯได้พิจารณาร่างเทศบัญญัติฯ แล้วตอบกลับมายังสภาเทศบาลฯ ว่า  รูปแบบและวิธีการเสนอ การพิจารณาร่างเทศบัญญัติฯถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แต่เนื้อหาที่กำหนดด้านในบทบัญญัติดังกล่าว ควรที่จะบัญญัติให้ชัดเจนในกฎหมายลำดับรอง คือเทศบัญญัติว่าที่ดินในเขตเทศบาลนครลำปางตามมาตรา 22(3) หมายถึงอะไร เป็นบทบัญญัติของพระราชบัญญัติอะไร รวมทั้งเจตนารมณ์ของกฎหมายภาษีบำรุงท้องที่มุ่งหมายที่จะลดหย่อนไม่ต้องเสียภาษีเฉพาะบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเท่านั้น การที่ไม่ระบุชัดเจนอาจตีความผิดให้รวมถึงนิติบุคคลด้วย การตราเทศบัญญัติจึงไม่เป็นไปตามกฎหมายภาษีบำรุงท้องที่ จึงไม่เห็นชอบกับร่างเทศบัญญัติดังกล่าว 

นายสมหมาย กล่าวต่อไปว่า เมื่อมีการท้วงติงมาจากผู้ว่าฯ ทางสมาชิกสภาฯเสียข้างมากจึงไม่ผ่านร่างเทศบัญญัติฯดังกล่าว เพื่อต้องการให้ทางฝ่ายบริหารนำกลับไปแก้ไขให้ถูกต้องและสามารถเสนอเข้ามาให้สภาพิจารณาใหม่ได้ แต่ตอนนี้ทางฝ่ายบริหารก็ยังไม่เสนอเรื่องเข้ามาแต่อย่างใด  นอกจากนี้ยังได้ทำป้ายมาติดตั้งอยู่ที่หน้าห้องกองคลังระบุว่า “เทศบาลยังไม่สามารถลดหย่อนภาษีบำรุงท้องที่ให้กับประชาชนที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินแปลงเดียวหรือหลายแปลงที่อยู่ในเขตเทศบาลนครลำปางและใช้ที่ดินนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของตน เป็นที่เลี้ยงสัตว์ของตน หรือประกอบกสิกรรมของตน ตาม พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2508 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 22 (3) ได้ เนื่องจากทางสภาเทศบาลนครลำปางยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบร่างเทศบัญญัติดังกล่าว”  โดยไม่ได้ชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าเหตุที่ไม่ผ่านสภาเทศบาลฯเพราะอะไร  แต่เชื่อว่าประชาชนมีความรู้และสามารถแยกแยะความถูกต้องได้  


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1017 ประจำวันที่ 20 - 26 กุมภาพันธ์ 2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์