กลุ่มประธานชุมชนเทศบาลนครลำปาง
ยื่นเสนอผู้ว่าฯ ให้ยุบสภาเทศบาล เหตุไม่ผ่านร่างเทศบัญญัติลดหย่อนภาษีบำรุงท้องที่ อ้าง สท.21
เสียงกลั่นแกล้งนายกเทศเทศมนตรี เพราะอยู่คนละฝ่าย ด้านโกหมายแจง
สท.ปฏิบัติตามหนังสือท้วงติงของผู้ว่าฯ ให้แก้ไขบทบัญญัติในกฎหมาย จึงไม่ผ่านร่างดังกล่าวเพื่อให้ฝ่ายบริหารเสนอเข้ามาใหม่
แต่เทศบาลกลับขึ้นป้ายโยนความผิดให้สภาฯ
เมื่อเวลาประมาณ
11.00 วันที่ 13 ก.พ. 2558 เครือข่ายประธานชุมชนเทศบาลนครลำปาง นำโดย ร.ต.ต.ประทุม
ไหวมาเจริญ ประธานเครือข่ายฯ พร้อม
กับสมาชิกจำนวนหนึ่ง
ได้รวมตัวกันมายื่นหนังสือถึงนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
เพื่อเสนอเรื่องให้พิจารณาสอบสวนเพื่อเสนอความเห็นให้ยุบสภาเทศบาลนครลำปาง
โดยมีนายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นผู้รับหนังสือแทน
ทั้งนี้
ในหนังสือฉบับดังกล่าวได้ระบุถึงกรณีที่สมาชิกสภาเทศบาลนครลำปาง ได้มีการแปรญัตติร่างเทศบัญญัติเทศบาลนครลำปาง
เรื่องการลดหย่อนภาษีบำรุงท้องที่ ในเขตเทศบาลนครลำปาง
พ.ศ....นายกเทศมนตรีนครลำปาง เป็นผู้เสนอต่อเทศบาลนครลำปาง ในการประชุมสมัยที่
4ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2557
ต่อมาจังหวัดลำปางตามหนังสือ
ที่ ลป.0023.4/พิเศษ 1009 ลงวันที่ 14 ม.ค.58 ได้แจ้งต่อประธานสภาเทศบาลนครลำปางว่า
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางมีคำสั่งไม่เห็นชอบกับร่างเทศบัญญัติฯ ดังกล่าวข้างต้น
เนื่องจากการตราเทศบัญญัติฯดังกล่าว ไม่เป็นไปตามกฎหมายหมายภาษีบำรุงท้องที่
และประธานสภาเทศบาลนครลำปางได้นำเทศบัญญัติดังกล่าวให้สภาเทศบาลนครลำปางพิจารณาใหม่
ในการประชุมสภาเทศบาลนครลำปาง สมัยประชุมสามัญสมัยแรก ครั้งที่ 1 ประจำปี 2558
เมื่อวันที่ 9 ก.พ.58 แต่สภาเทศบาลนครลำปางได้มีมติยืนยันตามร่างเทศบัญญัติเดิม ทำให้ร่างเทศบัญญัติฯอันใหม่ดังกล่าวเป็นอันตกไป
ประธาน
เครือข่ายประธานชุมชนเทศบาลนครลำปาง
กล่าวว่า
ตนเองเป็นประชาชนในเขตเทศบาลนครลำปางและได้ร่วมรับฟังประชุมสภาเทศบาลนคร
ลำปางทั้ง
2 ครั้ง มีความเห็นร่วมกันว่าสภาเทศบาล ซึ่งสมาชิกสภาเทศบาลเสียงส่วนใหญ่
21
เสียงเป็นคนของอดีตผู้บริหารคนเดิม
ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามความเห็นของตนโดยสุจริตใจ
และยังอยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมายใดๆ ของนายเทศมนตรีคนก่อน
มีพฤติการณ์กลั่นแกล้งนายกเทศมนตรีคนปัจจุบัน โดยแปรญัตติร่างเทศบัญญัติฯ
ของผู้บริหารที่เสนอไปอย่างถูกต้องสมบูรณ์แล้ว โดยอาศัยเสียงข้างมาก 21
เสียงในสภาเทศบาลเป็นเครื่องมือทำการแปรญัตติที่ขัดต่อหลักการของกฎหมาย
บำรุงท้องที่โดยมีเจตนาเพื่อให้ร่างเทศบัญญัติฯดังกล่าวตกไป
ตาม
กฎหมายบำรุงท้องที่ให้แก่บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินแปลงเดียวหรือ
หลายแปลงในเขตเทศบาลนครลำปาง
และใช้ที่ดินนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของตน
เป็นที่เลี้ยงสัตว์หรือประกอบกสิกรรมของตน
เป็นจำนวนอย่างต่ำ 50 ตารางวา และอย่างสูงไม่เกิน 100 ตารางวา
แต่เทศบาลนครลำปางต้องออกเป็นเทศบัญญัติรองรับว่าจะลดหย่อนให้เท่าใดในช่วง
ระหว่าง
50-100 ตารางวา ในเมื่อไม่มีเทศบัญญัติรองรับ
ประชาชนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาก็ต้องชำระค่าภาษีบำรุงท้องที่โดยเสียสิทธิการลด
หย่อนค่าภาษีบำรุงท้องที่ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
กรณีที่นายกเทศมนตรีนครลำปางเก็บภาษีบำรุงท้องที่โดยลดหย่อนค่าภาษีให้โดย
ที่ไม่มีเทศบัญญัติลดหย่อนภาษีท้องที่
เท่ากับนายกเทศมนตรีนครลำปางเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ
หน้าที่โดยมิชอบ
เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นผู้ใด ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 157
แห่งประมวลกฎหมายอาญา
แต่กรณีที่นายกเทศมนตรีนครลำปางเก็บภาษีบำรุงท้องที่โดยไม่มีการลดหย่อนภาษี
ทั้งๆ
ที่กฎหมายภาษีบำรุงท้องที่บัญญัติให้ออกเทศบัญญัติฯ ลดหย่อนให้ได้
ประชาชนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของที่ดินในเขตเทศบาลนครลำปางทุกคนก็
จะได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการที่ต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่
จากการที่บางรายแต่เดิมที่มีที่ดินไม่เกิน 100 ตารางวา
ไม่ต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่
ด้านนายกิตติภูมิ
นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กล่าวในเรื่องนี้ว่ามีประชาชนในเขตเทศบาลนครลำปางที่ไม่ได้ลดหย่อนภาษีและมีที่ดินต่ำกว่า
100 ตาราวา จำนวนประมาณ 1.4 หมื่นคน จากที่ไม่ผ่านสภาในกรณีนี้ ในขณะที่ท้องถิ่นอื่นได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีแล้วทั้งนั้น ซึ่ง 90%
ในจำนวนนั้นล้วนเป็นคนชั้นล่างเงินมีความหมายกับเขา
ลานนาโพสต์ได้สอบถามไปยังฝ่ายสภาเทศบาลนครลำปาง
โดยนายสมหมาย พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกสภาฯ ได้ให้ข้อมูลว่า ทางสภาเทศบาลฯ
ได้ส่งรายงานร่างความเห็นชอบร่างเทศบัญญัติเทศบาลนครลำปาง
เรื่องการลดหย่อนไม่ต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่ในเขตเทศบาลนครลำปาง พ.ศ....
ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเพื่อขอความเห็น ซึ่งทางผู้ว่าฯได้พิจารณาร่างเทศบัญญัติฯ
แล้วตอบกลับมายังสภาเทศบาลฯ ว่า
รูปแบบและวิธีการเสนอ การพิจารณาร่างเทศบัญญัติฯถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
แต่เนื้อหาที่กำหนดด้านในบทบัญญัติดังกล่าว
ควรที่จะบัญญัติให้ชัดเจนในกฎหมายลำดับรอง
คือเทศบัญญัติว่าที่ดินในเขตเทศบาลนครลำปางตามมาตรา 22(3) หมายถึงอะไร เป็นบทบัญญัติของพระราชบัญญัติอะไร
รวมทั้งเจตนารมณ์ของกฎหมายภาษีบำรุงท้องที่มุ่งหมายที่จะลดหย่อนไม่ต้องเสียภาษีเฉพาะบุคคลธรรมดา
ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเท่านั้น
การที่ไม่ระบุชัดเจนอาจตีความผิดให้รวมถึงนิติบุคคลด้วย
การตราเทศบัญญัติจึงไม่เป็นไปตามกฎหมายภาษีบำรุงท้องที่ จึงไม่เห็นชอบกับร่างเทศบัญญัติดังกล่าว
นายสมหมาย
กล่าวต่อไปว่า เมื่อมีการท้วงติงมาจากผู้ว่าฯ
ทางสมาชิกสภาฯเสียข้างมากจึงไม่ผ่านร่างเทศบัญญัติฯดังกล่าว
เพื่อต้องการให้ทางฝ่ายบริหารนำกลับไปแก้ไขให้ถูกต้องและสามารถเสนอเข้ามาให้สภาพิจารณาใหม่ได้
แต่ตอนนี้ทางฝ่ายบริหารก็ยังไม่เสนอเรื่องเข้ามาแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังได้ทำป้ายมาติดตั้งอยู่ที่หน้าห้องกองคลังระบุว่า
“เทศบาลยังไม่สามารถลดหย่อนภาษีบำรุงท้องที่ให้กับประชาชนที่เป็นบุคคลธรรมดา
ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินแปลงเดียวหรือหลายแปลงที่อยู่ในเขตเทศบาลนครลำปางและใช้ที่ดินนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของตน
เป็นที่เลี้ยงสัตว์ของตน หรือประกอบกสิกรรมของตน ตาม พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2508
และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 22 (3) ได้
เนื่องจากทางสภาเทศบาลนครลำปางยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบร่างเทศบัญญัติดังกล่าว” โดยไม่ได้ชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าเหตุที่ไม่ผ่านสภาเทศบาลฯเพราะอะไร
แต่เชื่อว่าประชาชนมีความรู้และสามารถแยกแยะความถูกต้องได้