ผู้ว่าฯลำปางเผยสาเหตุหมอกควันพุ่ง
90 เปอร์เซ็นต์จากคนจุดไฟเผา พบค่าสูงสุดในภาคเหนือวัดได้ 260
ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จับมือท้องถิ่นทั้ง
13 อำเภอ ร่วมกันฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้น
แก้ปัญหาหมอกควันพร้อมกันทั้งจังหวัด ด้านอุตุนิยมวิทยาลำปางเผยสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น
เนื่องจากลมตะวันตกพัดผ่านในพื้นที่
ขณะเดียวกันให้ระวังการเกิดพายุลูกเห็บช่วงปลายเดือน
เมื่อวันที่
2 มี.ค.58 ที่ศูนย์รับแจ้งเหตุรวบรวมข้อมูลและสั่งการ
หรือวอร์รูม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดลำปาง
สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง นายมงคล สุกใส
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปาง
ที่รุนแรงมากขึ้น และปัจจุบันทำให้คุณภาพทางอากาศถึงขั้นวิกฤติ
นายมงคล
เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปางในช่วงเฝ้าระวังตั้งแต่วันที่
23 ก.พ ถึง 1 มี.ค.58 ว่าพบจุด hotspot จาการเฝ้าระวังของดาวเทียว Gistda
เกิดขึ้น 115 ครั้ง เกิดไฟป่าในพื้นที่ ป่าอนุรักษ์ 17 จุด ป่าสงวน
74 จุด พื้นที่ สปก.9 จุด พื้นที่ทางการเกษตร 4 จุด ริมทางหลวง 4 จุด ชุมชนและอื่นๆอีก
7 จุดรมทั้งหมด 115 จุด
และยังไม่รวมที่ดาวเทียมไม่สามารถตรวจวัดได้อีกจำนวนมาก
ซึ่งไฟป่าดังกล่าวส่งผลกระทบทางด้านคุณภาพอากาศแล้ว
โดยสภาพทั่วไปในพื้นที่จังหวัดลำปาง ขณะนี้
สามารถมองเห็นกลุ่มควันไฟที่ปกคลุมได้อย่างชัดเจน
ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาที่ผ่านมาพบว่าไม่สามารถที่จะลดการลักลอบเผาป่าได้และ
ยังไม่สามารถจับกุมคนผิดได้แม้แต่รายเดียว
แม้เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่สำรวจออกพบปะชาวบ้าน
และกลุ่มเสี่ยงที่เข้าไปหาของป่า
แต่ก็ยังไม่ได้ผล
ล่าสุด
ที่ประชุมได้มีแนวทางเพิ่มคือ เข้าไปจี้รายตัวสำหรับคนเข้าไปหาของป่า ให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไป
ในโรงเรียนต่างๆเพื่อเสริมสร้างความรู้แก่เด็กนักเรียน
เรื่องการอนุรักษ์พื้นที่ป่าและการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าให้ทั่วถึง
รวมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงรณรงค์สร้างความรู้กับการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า
นอกจากนั้นในที่ประชุม ได้มีมติกำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและลดผลกระทบดังกล่าว
โดยการฉีดพ่นละองน้ำ เพิ่มความชุ่มชื่นและลดปัญหาหมอกควัน ในเขตชุมชน ทั้ง 13 อำเภอใน
จ.ลำปาง
จากนั้น
วันที่ 3 มี.ค. 58 เวลา
13.30 น.นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
เป็นประธานเปิดการรณรงค์ฉีดพ่นน้ำ เพื่อแก้ปัญหาหมอกควันที่ส่งผลกระทบในพื้นที่ บริเวณข่วงนคร
ห้าแยกหอนาฬิกา โดยมีรถยนต์บรรทุกน้ำจากเทศบาลนครลำปาง เทศบาลเมืองเขลางค์นคร
เทศบาลเมืองพิชัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 สำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดลำปาง และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13
(สาขาลำปาง) เข้าร่วมกิจกรรม หลังจากพบว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ระหว่างวันที่ 23 ก.พ. ถึง 1 มี.ค.58 พื้นที่จังหวัดลำปาง เกิดปรากฏการหมอกควันปกคลุมทั่วทั้งเมือง
เนื่องจากมีการจุดไฟเผาป่าอย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ดอยพระบาท ม่อนพระยาแช่
หลังศาลากลางจังหวัดลำปาง ส่งผลให้ปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 10) เกินมาตรฐาน(120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร)
เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ
ค่าสูงสุดวัดได้ที่สถานีโรงพยาบาลสุขภาพตำบลท่าสี อำเภอแม่เมาะ เมื่อวันที่ 2
มี.ค.58 สูงถึง 260 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
นายธานินทร์
สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จากปัญหาไฟป่าและหมอกควัน
ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญของจังหวัดลำปาง ปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้น
แม้ว่าจังหวัดลำปางจะมีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามาตั้งแต่ต้นฤดูกาล
ทั้งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือให้งดการเผาทุกกรณีในช่วงเวลาวิกฤต โดยวันที่ 1 ก.พ.58
ที่ผ่านมา
ได้มีการจัดชุดลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเพื่อป้องกันและระงับเหตุ
จัดตั้งฐานปฏิบัติการในพื้นที่เสี่ยง 10 ฐาน ทำแนวกันไฟ
ฝึกอบรมให้ความรู้ และเสริมสร้างศักยภาพของเครือข่ายอาสามากกว่า 150 หมู่บ้าน
รวมทั้งตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ
ศูนย์รวบรวมข้อมูลและสั่งการของจังหวัดและอำเภอ
เพื่อประเมินสถานการณ์ทุกสัปดาห์
ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.58 ถึง
1 มี.ค.58 พบจุดความร้อนสะสม จำนวน 193 จุด
และมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานถึง 12 วัน
ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.เป็นต้นมา
ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
ในส่วนของสถานการณ์ไฟป่า
จ.ลำปาง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
กล่าวว่า ส่วนใหญ่เกิดจากน้ำมือมนุษย์เองที่เข้าไปหาของป่าและจุดไฟทิ้งไว้
ซึ่งทางจังหวัดได้เรียกประชุมผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน มาพูดคุยขอความร่วมมือไม่ให้เข้าหาของป่าในช่วงนี้
สำหรับในพื้นที่บนเขาลาดชันที่คนไม่สามารถขึ้นไปดับไฟได้ทั่วถึง
ก็ยังคงมีเฮลิคอปเตอร์บรรทุกน้ำช่วยเหลืออยู่
ขณะเดียวกันนายทิวา
พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดลำปาง ยังคงกล่าวยืนยันว่า จังหวัดลำปางไปสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาหมอกควันได้
เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะมีภูเขาล้อมรอบ
ซึ่งมักจะประสบปัญหาก่อนจังหวัดอื่นและปัญหาหนักกว่าด้วย ซึ่งการเกิดไฟป่า 99
เปอร์เซ็นต์ เกิดจากฝีมือของคนเข้าไปจุดเผาแน่นอน
เป็นไปได้ยากมากที่จะเกิดไฟป่าบ่อยขนาดนี้ จึงทำให้ลำปางมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงกว่าจังหวัดอื่น แต่ 2
วันที่ผ่านมานี้ถือว่าโชคดีที่ได้รับลมตะวันตกพัดมา
ทำให้ฝุ่นละอองผ่อนคลายขึ้นไปมาก
ต่อจากนี้ต้องเฝ้าระวังพายุลูกเห็บที่อาจจะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้
เพราะเมื่อความกดอากาศต่ำมาเจอกับความกดอากาศสูงที่แผ่ลงมา
ก็จะทำให้เกิดฝนหลงฤดูได้
ด้านนายแพทย์ศิริชัย
ภัทรนุธาพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้รับการสั่งการจากผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
ให้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนชาวลำปางที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังระบบทางเดินหายใจ
โรคปอด โรคหอบหืด และโรคหัวใจ รวมถึงเด็กเล็กและผู้สูงอายุในพื้นที่ จ.ลำปาง
ให้ระวังสภาพอากาศในช่วงนี้ที่เกิดมีฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศจากการเผาไหม้ปกคลุมพื้นที่
จ.ลำปาง ในระดับที่สูงเกินค่ามาตรฐานติดต่อมาหลายวัน โดยทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้รับการสนับสนุนหน้ากากอนามัยจากกระทรวงสาธารณสุข
จำนวน 100,000 ชิ้น และได้กระจายไปยังโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลประจำอำเภอแล้ว
เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนชาวลำปาง
โดยสามารถไปติดต่อขอรับเพื่อนำไปใช้ป้องกันตนเองต่อไป