วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

'คนจุดไฟ'ตัวการ หมอกควันพุ่ง ผู้ว่าฯผนึกกำลัง13อ.ฉีดละอองน้ำ


 ผู้ว่าฯลำปางเผยสาเหตุหมอกควันพุ่ง 90 เปอร์เซ็นต์จากคนจุดไฟเผา พบค่าสูงสุดในภาคเหนือวัดได้  260 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร   จับมือท้องถิ่นทั้ง 13 อำเภอ ร่วมกันฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาหมอกควันพร้อมกันทั้งจังหวัด ด้านอุตุนิยมวิทยาลำปางเผยสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น เนื่องจากลมตะวันตกพัดผ่านในพื้นที่ ขณะเดียวกันให้ระวังการเกิดพายุลูกเห็บช่วงปลายเดือน


เมื่อวันที่ 2 มี.ค.58 ที่ศูนย์รับแจ้งเหตุรวบรวมข้อมูลและสั่งการ หรือวอร์รูม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดลำปาง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปาง ที่รุนแรงมากขึ้น และปัจจุบันทำให้คุณภาพทางอากาศถึงขั้นวิกฤติ

นายมงคล เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปางในช่วงเฝ้าระวังตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ ถึง 1 มี.ค.58 ว่าพบจุด hotspot จาการเฝ้าระวังของดาวเทียว Gistda เกิดขึ้น 115 ครั้ง เกิดไฟป่าในพื้นที่ ป่าอนุรักษ์ 17 จุด ป่าสงวน 74 จุด พื้นที่ สปก.9 จุด พื้นที่ทางการเกษตร 4 จุด ริมทางหลวง 4 จุด ชุมชนและอื่นๆอีก 7 จุดรมทั้งหมด 115 จุด และยังไม่รวมที่ดาวเทียมไม่สามารถตรวจวัดได้อีกจำนวนมาก  ซึ่งไฟป่าดังกล่าวส่งผลกระทบทางด้านคุณภาพอากาศแล้ว โดยสภาพทั่วไปในพื้นที่จังหวัดลำปาง ขณะนี้ สามารถมองเห็นกลุ่มควันไฟที่ปกคลุมได้อย่างชัดเจน ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาที่ผ่านมาพบว่าไม่สามารถที่จะลดการลักลอบเผาป่าได้และ ยังไม่สามารถจับกุมคนผิดได้แม้แต่รายเดียว แม้เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่สำรวจออกพบปะชาวบ้าน และกลุ่มเสี่ยงที่เข้าไปหาของป่า แต่ก็ยังไม่ได้ผล

ล่าสุด ที่ประชุมได้มีแนวทางเพิ่มคือ เข้าไปจี้รายตัวสำหรับคนเข้าไปหาของป่า ให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไป ในโรงเรียนต่างๆเพื่อเสริมสร้างความรู้แก่เด็กนักเรียน เรื่องการอนุรักษ์พื้นที่ป่าและการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าให้ทั่วถึง รวมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงรณรงค์สร้างความรู้กับการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า  นอกจากนั้นในที่ประชุม ได้มีมติกำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและลดผลกระทบดังกล่าว โดยการฉีดพ่นละองน้ำ เพิ่มความชุ่มชื่นและลดปัญหาหมอกควัน ในเขตชุมชน ทั้ง 13 อำเภอใน จ.ลำปาง

จากนั้น วันที่ 3 มี.ค. 58  เวลา 13.30 น.นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานเปิดการรณรงค์ฉีดพ่นน้ำ เพื่อแก้ปัญหาหมอกควันที่ส่งผลกระทบในพื้นที่ บริเวณข่วงนคร ห้าแยกหอนาฬิกา โดยมีรถยนต์บรรทุกน้ำจากเทศบาลนครลำปาง เทศบาลเมืองเขลางค์นคร เทศบาลเมืองพิชัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10  สำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดลำปาง  และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (สาขาลำปาง) เข้าร่วมกิจกรรม  หลังจากพบว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 23 ก.พ. ถึง 1 มี.ค.58 พื้นที่จังหวัดลำปาง เกิดปรากฏการหมอกควันปกคลุมทั่วทั้งเมือง เนื่องจากมีการจุดไฟเผาป่าอย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ดอยพระบาท ม่อนพระยาแช่ หลังศาลากลางจังหวัดลำปาง ส่งผลให้ปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 10) เกินมาตรฐาน(120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน  ซึ่งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ ค่าสูงสุดวัดได้ที่สถานีโรงพยาบาลสุขภาพตำบลท่าสี อำเภอแม่เมาะ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.58 สูงถึง 260 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จากปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญของจังหวัดลำปาง ปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าจังหวัดลำปางจะมีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามาตั้งแต่ต้นฤดูกาล ทั้งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือให้งดการเผาทุกกรณีในช่วงเวลาวิกฤต  โดยวันที่ 1 ก.พ.58 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดชุดลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเพื่อป้องกันและระงับเหตุ จัดตั้งฐานปฏิบัติการในพื้นที่เสี่ยง 10 ฐาน ทำแนวกันไฟ ฝึกอบรมให้ความรู้ และเสริมสร้างศักยภาพของเครือข่ายอาสามากกว่า 150 หมู่บ้าน  รวมทั้งตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ ศูนย์รวบรวมข้อมูลและสั่งการของจังหวัดและอำเภอ  เพื่อประเมินสถานการณ์ทุกสัปดาห์  ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.58 ถึง 1 มี.ค.58 พบจุดความร้อนสะสม จำนวน 193 จุด  และมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานถึง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.เป็นต้นมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน 

ในส่วนของสถานการณ์ไฟป่า จ.ลำปาง  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ส่วนใหญ่เกิดจากน้ำมือมนุษย์เองที่เข้าไปหาของป่าและจุดไฟทิ้งไว้ ซึ่งทางจังหวัดได้เรียกประชุมผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน มาพูดคุยขอความร่วมมือไม่ให้เข้าหาของป่าในช่วงนี้  สำหรับในพื้นที่บนเขาลาดชันที่คนไม่สามารถขึ้นไปดับไฟได้ทั่วถึง ก็ยังคงมีเฮลิคอปเตอร์บรรทุกน้ำช่วยเหลืออยู่

ขณะเดียวกันนายทิวา พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดลำปาง ยังคงกล่าวยืนยันว่า จังหวัดลำปางไปสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาหมอกควันได้ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะมีภูเขาล้อมรอบ ซึ่งมักจะประสบปัญหาก่อนจังหวัดอื่นและปัญหาหนักกว่าด้วย  ซึ่งการเกิดไฟป่า 99 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากฝีมือของคนเข้าไปจุดเผาแน่นอน เป็นไปได้ยากมากที่จะเกิดไฟป่าบ่อยขนาดนี้ จึงทำให้ลำปางมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงกว่าจังหวัดอื่น  แต่ 2 วันที่ผ่านมานี้ถือว่าโชคดีที่ได้รับลมตะวันตกพัดมา ทำให้ฝุ่นละอองผ่อนคลายขึ้นไปมาก  ต่อจากนี้ต้องเฝ้าระวังพายุลูกเห็บที่อาจจะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ เพราะเมื่อความกดอากาศต่ำมาเจอกับความกดอากาศสูงที่แผ่ลงมา ก็จะทำให้เกิดฝนหลงฤดูได้

ด้านนายแพทย์ศิริชัย ภัทรนุธาพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้รับการสั่งการจากผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ให้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนชาวลำปางที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคหอบหืด และโรคหัวใจ รวมถึงเด็กเล็กและผู้สูงอายุในพื้นที่ จ.ลำปาง ให้ระวังสภาพอากาศในช่วงนี้ที่เกิดมีฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศจากการเผาไหม้ปกคลุมพื้นที่ จ.ลำปาง ในระดับที่สูงเกินค่ามาตรฐานติดต่อมาหลายวัน  โดยทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้รับการสนับสนุนหน้ากากอนามัยจากกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 100,000 ชิ้น และได้กระจายไปยังโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลประจำอำเภอแล้ว เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนชาวลำปาง โดยสามารถไปติดต่อขอรับเพื่อนำไปใช้ป้องกันตนเองต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1019 ประจำวันที่ 6 - 12 มีนาคม 2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์