วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

ไล่ผอ.2สถาบัน บริหารไม่โปร่งใส-ผอ.โต้ไม่จริง



ครู-นักศึกษา ฮือไล่ ผอ. 2 สถาบัน ทั้งวิทยาลัยอาชีวะ และเทคโนโลยีการจัดการ กฟผ.แม่เมาะ ต่างอ้างทำงานไม่โปร่งใสไม่เป็นธรรม  ขณะที่ ผอ.ปฏิเสธลั่น คาดเหตุจากไม่พอใจเรื่องผลประโยชน์

เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 23 มี.ค.58 ที่หน้าศาลากลาง จ.ลำปาง ได้มีคณะอาจารย์ และนักศึกศึกษาแต่งชุดดำจากวิทยาลัยอาชีวศึกษา จ.ลำปางประมาณ 100 นำโดย น.ส.ประคอง เจนคุณาวัฒน์ หน.งานหลักสูตรการเรียนการสอน นายเอกพล ไชยพรหม อาจารย์คณะศิลปกรรม สาขาการตลาด และกมลฉัตร ศรีเจริญลาภ ศิตย์เก่าอาชีวศึกษาลำปาง ปัจจุบันเป็นอาจารย์ สาขาศิลปะ สอนอยู่ที่ ม.ราชภัฎลำปาง พากันไปยืนถือป้ายประท้วงเพื่อขับไล่ นางพรเพ็ชร พรรณวงค์ ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง พร้อมกับขอเข้าพบนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดฯเพื่อยืนหนังสือร้องเรียน ซึ่งมีการกล่าวโทษนางพรเพ็ชร อยู่  5 ข้อด้วยกัน และให้ดำเนินการย้ายนางพรเพ็ชร ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง ทั้งนี้กลุ่มอาจารย์และนักศึกษาต่างก็พากันนำป้ายเขียนข้อความโจมตี ผอ.อาชีวศึกษา โดยเขียนข้อความอาทิเช่น ขาดหลักการบริหาร ชอบสร้างภาพออกสื่อ เป็นต้น ทั้งนี้

น.ส.ประคอง เจนคุณาวัฒน์ หนึ่งในแกนนำการประท้วงในครั้งนี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นางพรเพ็ชร ผอ.อาชีวศึกษา หลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปางได้เพียง 6 เดือน ก็เริ่มทำการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานในวิทยาลัย แบบขาดวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการสถานศึกษา ทั้งที่วิทยาลัยอาชีวะแห่งนี้เป็นวิทยาลัยที่เก่าแก่มีชื่อเสียงและเป็นที่ ยอมรับในวงสังคมมายาวนาน แต่นางพรเพ็ชร ก็มาเข้ามาบริหารงานได้ไม่นานก็นำความเสื่อมมาสู่สถานศึกษาในทุกๆด้าน เช่นขอผลตอบแทนจากร้านค้าและและเหยียดหยามการบริหารงานของบริหารสถานศึกษาใน อดีต ขาดวิสัยทัศน์ การจัดการเรียนการสอนสายอาชีพ โดยการยกเลิกการจัดนิทรรศการการแสดงผลงานของนักศึกษา ของคณะศิลปกรรมที่เคยจัดติดต่อกันมายาวนาน ซึ่งถือว่าเป็นเวทีที่สร้างชื่อเสียงและสร้างศิลปิน สร้างอาชีพให้กับนักศึกษา อีกทั้งยังจะใช้ห้องปฏิบัติการทางศิลปกรรมซึ่งเป็นห้องการเรียนรู้เฉพาะทาง ศิลปกรรม โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการเรียน การสอนเฉพาะศิลปกรรมแต่ละสาขางาน แต่ละรายวิชา มาเป็นห้องพยาบาลโดนไม่ยอมฟังคำทัดทานในที่ประชุม และมีพฤติกรรมการบริหารงานแบบทุจริต ผลาญงบประมาณของทางราชการ ทั้งเงินในระบบและเงินนอกระบบราชการ เพื่อประโยชน์ส่วนตน เป็นต้น
       
ต่อมานายวีระเดช สมวรรณ ปลัดจังหวัดลำปาง ได้ลงมาพบตัวแทนคณะอาจารย์และนักศึกษาเพื่อสอบถามและรับหนังสือร้องเรียน โดยรับปากว่าจะนำหนังสื่อไปมอบให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดเองและยังรับปากว่าเรื่องนี้จะไม่เงียบหายไปไหนอย่างแน่นอน พร้องจะดำเนินการส่งเรื่องไปยังต้นสังกัดให้เข้ามาตรวจสอบการทำงานของผู้อำนวยการสถานศึกษาว่ามีข้อเท็จจริงประการใด จากนั้นคณะอาจารย์และนักศึกษาจึงพากันเดินทางต่อไปพบนายเจริญ ศิริวงศ์ ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ กฟผ.แม่เมาะ และประธานอาชีวศึกษาจังหวัด เพื่อให้เป็นสื่อกลางยื่นหนังสื่อต่อไปยังเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษาให้ดำเนินการย้ายนางพรเพ็ชรออกไปจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง ภายใน 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ นายเอกพล ไชยพรหม หนึ่งในแกนนำกล่าวว่า ก่อนหน้านี้นางพรเพ็ชร ก็เคยถูกขับไล่มาจากวิทยาลัยฯ จ.สุโขทัย และ จากวิทยาลัย อาชีว จ.เชียงราย เพราะมีพฤติกรรมเดียวกันมาแล้ว
           
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามทางโทรศัพท์กับนางพรเพ็ชร ผอ.อาชีวศึกษาลำปาง ถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งนางพรเพ็ชร ได้กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตนเองแค่พูดประกาศขึ้นมาเท่านั้นยังไม่ได้มีการลงมือทำอะไรทั้งสิ้น ทั้งเรื่องของการย้ายห้องพยาบาล ซึ่งปัจจุบันนี้เรามีนักศึกษาอยู่เกือบจะ 4,000 แล้ว แต่เรามีเตรียงพยาบาลอยู่ 4-5 เตียงเท่านั้น ซึ่งมันไม่เพียงพอต่อความต้องหากมีเด็กเจ็บป่วยพร้อมๆกันขึ้นมาหลายคน ส่วนเรื่องที่ว่าตนเองไปปรับเปลี่ยนให้ครู อาจารย์ที่จะเกษียณอายุ ในอีกไม่ช้านี้ไปทำหน้าที่อื่นแทนการมานั่งในตำแหน่งที่มีงานหนักมากๆนั้นก็ เป็นเพราะความหวังดีเท่านั้นไม่ต้องการครู อาจารย์ ที่ใกล้เกษียณทำงานหนักมากเกินไป ตนไม่คิดที่จะหมิ่นเกียรติใดๆทั้งสิ้น ส่วนเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าตนผลาญงบประมาณของทางราชการนั้นก็มีไม่เป็นความ จริง เพราะตนเองเป็นข้าราชการจะไปผลาญงบประมาณได้อย่างไร  

จากนั้นวันที่  24  มี.ค. 58  กลุ่มอาจารย์ และนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง จำนวนกว่า 100 คน ได้แต่งชุดดำ พร้อมถือป้ายประท้วงการทำงาน และขับไล่ นางพรเพ็ชร พรรณวงค์  ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง ที่ด้านหน้าประตูทางเข้า วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง โดยมีการทำป้ายข้อความห้ามนางพรเพ็ชร เข้ามาในวิทยาลัย และมีการนำพวงหรีดเขียนไว้อาลัยให้กับ นางพรเพ็ชร ผู้อำนวยการโรงเรียนด้วย หลังจากเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ได้มีการยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้ว  ทาง ด้านนายนายวีระเดช สมวรรณ ปลัดจังหวัดลำปาง ได้มีการประชุมเรียกประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าว แต่ไม่เป็นผลเนื่องจากคณะครูยังยืนยันคำเดิมว่าขอให้ย้าย ผอ.ออกจากโรงเรียน ซึ่งทางปลัดจังหวัดได้มีการนัดประชุมพูดคุยกันอีกครั้งในวันที่ 29 มี.ค.58 โดยจะเชิญนางพรเพ็ชร พรรณวงค์  ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง เข้าร่วมชี้แจงด้วย ขณะที่คณะครูกล่าวว่าจะไม่ขอเข้าร่วมประชุมดังกล่าว เนื่องจากยังยึดมติเดิม และได้พากันลุกเดินออกจากห้องประชุมทันที ก่อนจะพากันมาชุมนุมถือป้ายประท้วงด้านหน้าวิทยาลัย เพื่อกดดันให้ย้ายผู้อำนวยการคนดังกล่าวออกไป 

ต่อมา วันที่ 25 มี.ค.58   เวลาประมาณ 10.00 น.  ได้มีกลุ่มอาจารย์และนักศึกษา จากวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ กฟผ.แม่เมาะ ลำปาง รวมตัวกันประมาณ 60 คน เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง ยื่นหนังสือต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อไม่ต้องการให้ นายเจริญ ศิริวงศ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ กฟผ.แม่เมาะ  บริหารงานในตำแหน่งต่อไป โดยกล่าวอ้างว่าผู้บริหารคนดังกล่าวขาดวิสัยทัศน์ ไม่โปร่งใส ขาดธรรมภิบาล ทำให้องค์การแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย  โดยมีนายวีระเดช สมวรรณ ปลัดจังหวัดลำปางออกมารับหนังสือแทน

ตัวแทนนักศึกษาคนหนึ่ง กล่าวว่า นายเจริญ ศิริวงศ์  ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ กฟผ.แม่เมาะ ไม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้เรียน ไม่สนับสนุนวิชาการ การจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาต่างๆ โดยอ้างว่าไม่มีงบประมาณ แต่ไปเน้นเรื่องหน้าตาและภาพลักษณ์ของสถานที่มากเกินไป ที่ผ่านมาได้ใช้งบประมาณในการปรับภูมิทัศน์ อาคารสถานที่เกินความจำเป็น

ส่วนกลุ่มอาจารย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีเรื่องการรับเจ้าหน้าที่โดยไม่มีผ่านกระบวนการสอบคัดเลือก การเปลี่ยนเอาข้าราชการคนสนิทเข้าทำหน้าที่สำคัญในการบริหารงบประมาณ  ปรับลดเงินเดือนครูพิเศษจาก 15,000 บาท เหลือ 8,360 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อรายจ่าย มีครู 5 คนลาออกไปจากปัญหาดังกล่าว และไม่มีการรับครูเข้ามาแทน  อีกทั้งยังปรับลดเงินเดือนของ รปภ.  และไม่ดำเนินการสอบตามประกาศรับสมัครพนักงานราชการสาขาวิชาเครื่องกล  โดยได้ประกาศรับสมัครและมีผู้มายื่นไปสมัครแล้ว แต่ยังไปเปิดรับสมัครใหม่โดยเป็นการสมัครภายใน ไม่ระบุสาขาวิชาที่ต้องการรับ อ้างว่าเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสสอบคัดเลือก  และแต่งตั้งคณะกรรมการโดยไม่มีรายชื่อหัวหน้าสาขาวิชาเครื่องกลร่วมเป็นคณะกรรมการในการสอบ  โดยในเรื่องนี้ เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา เคยได้ยื่นร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมครั้งหนึ่งแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า จึงได้เดินทางมายื่นหนังสืออีกครั้ง

ทั้งนี้ ปลัดจังหวัดลำปางได้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว โดยจะส่งให้ศูนย์ดำรงธรรมทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว จากนั้นทางกลุ่มครูและนักศึกษาได้เดินทางไปยังค่ายสุรศักดิ์มนตรี เพื่อยื่นหนังสือถึง ผบ.มทบ.32  ในเรื่องเดียวกัน เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบและดำเนินการอย่างเร่งด่วน ก่อนจะเดินทางกลับอย่างสงบ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังนายเจริญ ศิริวงศ์  ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ กฟผ.แม่เมาะ กล่าวว่า ตนเองขอตอบตามประเด็นข้อร้องเรียนของผู้ที่มาประท้วงว่า ที่ผ่านมาทางวิทยาลัยไม่เคยมีการจัดกีฬาสีมาประมาณ 5 ปีแล้ว ตนเองก็จัดให้ในปีนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยเปิดวิทยาลัยให้ผู้ปกครองหรือคนภายนอกได้เข้ามาดูกิจกรรมอะไรเลย แต่ตนเองได้เปิดประตูวิทยาลัยต้อนรับทุกท่านที่ต้องการเข้ามาสัมผัสกิจกรรมต่างๆของเรา ส่งเด็กไปแข่งทักษะทุกแผนก ซึ่งขอชี้แจงว่าผู้บริหารทุกคนดูแลเรื่องการเรียนการสอนอยู่แล้ว   ซึ่งการทำงานทุกอย่างผู้บริหารต้องยึดกฎระเบียบขั้นตอนราชการทุกอย่างในการทำงาน ตนเองยืนยันว่าไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์  

ตนเองเข้ามาทำหน้าที่ ผอ.วิทยาลัยเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2557 แต่การบริหารงานสั่งงานอะไรไปไม่เคยรุดหน้าเลย การทำงานล่าช้ามาก ไม่สามารถพัฒนาตามเวลาที่กำหนดไว้ จึงตัดสินใจใช้อำนาจที่มีเปลี่ยนแปลงหน้าที่ของบุคลากร โดยเอาข้าราชการมาเป็นหัวหน้างานยึดหลักอาวุโส ทำให้การสั่งการง่ายขึ้น เพราะที่ผ่านมาเอาคนอาวุโสน้อยกว่าและเป็นเพียงพนักงานราชการมาเป็นหัวหน้าทำให้มีปัญหาในการทำงาน  ส่วนเรื่องการลดเงินเดือนครูขอชี้แจงว่า ขณะนี้เงินอุดหนุนจากกรมที่ได้มาลดไป 2 ล้านบาท จาก 16 ล้านกว่า ครูที่จ้างมาตามระเบียบ ก.ค.ศ.วันที่ 29 มิ.ย.2554 คือ เดือนละ 8 พันกว่าบาท แต่สมัยรัฐบาลที่ผ่านมามีนโยบายให้จ้าง 1.5 หมื่น แต่ไม่มีเงินอุดหนุนมาด้วย ขณะนี้จึงต้องกลับไปใช้ระเบียบเดิมเพื่อลดค่าใช้จ่ายลง ส่วนเรื่องยามรักษาการนั้นขณะนี้วิทยาลัยจ้างเองไม่ต้องผ่านบริษัท ทำให้เงินที่ต้องจ่ายลดลงตาม ซึ่งทุกคนก็พอใจ ส่วนเรื่องการประกาศรับคนตามข้อสุดท้ายนั้นเป็นอำนาจของตนเองในฐานะผู้บริหารสามารถดำเนินการได้ เพื่อความโปร่งใสและเสมอภาคในโอกาสของครูในโรงเรียนนี้โดยผ่านคณะกรรมการบริหารของโรงเรียน

นาย เจริญ กล่าวว่า ปัญหาดูแล้วมาจากครูที่สูญเสียรายได้เงินเดือนลดลง ความไม่สบายใจจากการที่ตนเองเข้ามาบริหารเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเพื่อให้มันดี ขึ้น แล้วเอาเรื่องบางเรื่องมาขยายความกัน ที่สำคัญคือมีบางคนเสียผลประโยชน์ที่เคยมี จริงๆแล้วไม่อยากจะพูดถึง แต่เมื่อมีปัญหาแบบนี้ก็คงต้องพูด ยกตัวอย่างขณะนี้มีบัญชีรายรับรายจ่ายกว่า 10 บัญชี เช่น เงินสนับสนุนจากสมาคมแม่เมาะประมาณ 2 แสนบาท และเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าอีกประมาณ 3 แสนบาท มีแต่ตัวเลข แต่เงินยังไม่โผล่มาให้เห็นเลยแล้วเงินไปอยู่ที่ไหน นายเจริญ กล่าว.

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1022  ประจำวันที่ 27   มีนาคม – 2 เมษายน  2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์