วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2558

ตำรวจตามวุ่น ผตห.หนีรพ. พบผูกคอตาย


 

ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ก่อเหตุยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนตัวเองถูกยิง 3 นัดบาดเจ็บ ได้หลบหนีออกจาก รพ.ลำปาง ตำรวจกระจายกำลังปิดล้อมค้นหาเข้มแต่ไม่พบ  กระทั่งตามจับตัวเมียและเพื่อนที่ช่วยวางแผนให้หลบหนีได้ สุดท้ายพบตัวผู้ต้องหาผูกคอตายหนีผิด เขียนจดหมายลาตายขอโทษแม่และเมีย

เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.วันที่ 25 ก.พ.58  ร.ต.อ.สมบัติ พุ่มเพ็ชรษา ร้อยเวร สภ.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง ได้รับแจ้งนายประชา ดวงใย อายุ 35 ปี  ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่หลบหนีออกจากโรงพยาบาลลำปาง ได้ก่อเหตุผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 8 บ้านศาลาบัวบก ต.ท่าผา  อ.เกาะคา จ.ลำปาง หลังรับแจ้งจึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที ก่อนจะเข้าตรวจสอบร่วมกับ พล.ต.ต.นิยม ด้วงสี ผบก.ภ.จว.ลำปาง  พ.ต.อ.อานุภาพ เกื้อหนุน ผกก.สภ.เกาะคา  พ.ต.ท.อุทัย คำแสน  รอง ผกก.สภ.เมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดลำปาง และสืบสวนเมืองลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เรือนจำกลางลำปาง แพทย์เวร รพ.เกาะคา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาะคา

ที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงมีใต้ถุน บนห้องโถงกลางบ้านพบศพนายประชา ดวงใย ในสภาพนอนหงายไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงบ๊อกเซอร์สีแดง ที่ลำคอมีเชือกไนล่อนสีเหลืองผูกติดโยงกับราวไม้ไผ่ที่ทำไว้เป็นราวตากผ้า บริเวณขาซ้ายมีบาดแผลถูกยิง มีผ้าก๊อตปิดแผลไว้ คาดว่านายประชา เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง  นอกจากนั้นยังพบจดหมายลาตายที่ตายประชาเขียนไว้บนกล่องนมว่า
“แม่ครับลูกไม่ดีคงทำได้แค่นี้ ชาตินี้ต้องตายอย่างเดียว ขอรบกวนแม่ไปบอกเบนว่าขอโทษ ผิดเอง แม่ไปบอกมันว่าโตแล้ว  อย่าลืมไปเอารถเวสป้ามาไว้หน้าห้อง มัดบ่าโชคกับอีตั้งไว้ข้างน้องด้วย  แม่เปิดเพลงสุดคืน ตั้งแต่เริ่มจนเผา”  ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของนายสมศักดิ์ ทำทอง อายุ 59 ปี ได้ให้การว่า เมื่อช่วงเที่ยวของวันที่ 24 ก.พ.58  นายประชาได้มาหาที่บ้านมาขอพักอาศัยอยู่ชั่วคราว ซึ่งตนเองไม่ทราบว่าเรื่องที่นายประชาหลบหนีมาและเห็นว่าบาดเจ็บ จึงให้มานอนพักบนบ้านโดยที่ไม่ได้แจ้งตำรวจ และซื้อน้ำส้มและนมมาให้กิน จากนั้นก็ได้ออกไปเที่ยวเล่นแถวบ้าน เมื่อกลับมาประมาณ 17.00 น.ก็พบว่าประตูล็อก ตนจึงต้องนอนใต้ถุนบ้าน ช่วงเช้ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาและได้ปีนขึ้นดูทางหน้าต่าง ตนจึงทราบว่านายประชาผูกคอตาย โดยช่วงกลางดึกก็ไม่ได้ยินเสียงดังอะไรมาจากข้างบนบ้านเลย คิดว่านายประชาน่าจะผูกคอตายตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว

ด้านนางสายหยุด กันทะเสน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.ท่าผา อ.เกาะคา  กล่าวว่า  เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้มาเฝ้าดูภายในหมู่บ้านตั้งแต่ช่วงที่นายประชาหนีออกจากโรงพยาบาล จนกระทั่งทางแม่ของนายประชาได้ติดต่อไปให้นายประชาเข้ามอบตัว จึงทราบว่านายประชาได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้ามาตรวจสอบ แต่ไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้เพราะประตูล็อก จึงใช้บันไดพาดกับหน้าต่างและปีนขึ้นไปดู พบว่านายประชาผูกคอตายเสียชีวิตแล้ว จึงไปแจ้งให้ตนเองทราบในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน เพื่อขออนุญาตเข้าดำเนินการดังกล่าว

สำหรับนายประชา ดวงใย ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะที่ขอเข้าตรวจค้น เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย สาขานาก่วม อ.เมือง จ.ลำปาง ทำให้นายประชาถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 นัด  และได้ส่งตัวรักษาที่ รพ.ลำปาง  จากนั้นวันที่ 22 ก.พ.ได้หลบหนีออกจาก รพ.ลำปาง โดยมีนางเบญจวรรณ อินนา อายุ 25 ปี ภรรยา และนายกิตติศักดิ์ ชมพูงาม อายุ 28 ปี ช่วยวางแผนให้หลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวทั้งสองคนได้ในเวลาต่อมา  และได้ทำการปิดล้อมติดตามหาตัวนายประชาอย่างหนัก โดยส่งเจ้าหน้าที่มาเฝ้าตามบ้านญาติและคนใกล้ชิดในหมู่บ้าน เนื่องจากพบว่านายประชาได้นำรถยนต์นิสสัน ทะเบียน กต 4404 สระบุรี  คันที่ใช้หลบหนี ไปจอดทิ้งไว้หลังป่าช้าบ้านศาลาบัวบก โดยถอดป้ายทะเบียนรถออก แต่ก็ยังไม่พบตัวนายประชา จึงได้เฝ้ากดดันอย่างเข้มงวด จนกระทั่งมาพบว่านายประชาได้ก่อเหตุผูกคอตายดังกล่าว

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1018 ประจำวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคม 2558)
 

Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์