วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

ขายผักหาเงิน เลี้ยงป้าป่วยไตวาย




เด็กหญิงกตัญญูวัย 12 ปี ต้องทำงานขายผักหาเงินเลี้ยงดูป้าที่ป่วยเป็นโรคไตวาย บางวันต้องขาดเรียนไปเฝ้าป้าที่โรงพยาบาล เด็กหญิงเผยอยากได้บ้านหลังใหม่

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.58  นางเบญจวรรณ สุภาพ พยาบาลประจำศูนย์บริการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครลำปาง ได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 193/1 ถ.คลองชลประทาน ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง  ซึ่งเป็นบ้านของนางคำสุก รักสถาน อายุ 59 ปี  ที่ป่วยเป็นโรคไตวาย อาศัยอยู่กับหลานสาวอายุ 12 ปี คือ ด.ญ.อินทิรา วิชาดี หรือน้องม่อน ที่ช่วยดูแลความเป็นอยู่ทุกอย่างภายในบ้านทั้งทำอาหาร ทำงานบ้าน ซักผ้า  รวมทั้งทำงานหาเงินเลี้ยงดูป้าที่ป่วยต้องฟอกไตทุกเดือน ด้วยการไปนั่งขายผักที่ตลาดเป็นประจำทุกวัน  

สภาพบ้านของนางคำสุกพบว่าเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ และเก่าทรุดโทรมมาก อาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน คือนางคำสุก ด.ญ.อินทิรา  และลูกชายของนางคำสุก อายุ 34 ปี  นางคำสุก เล่าว่า ตนเองเป็นพี่สาวพ่อของน้องม่อน หลังจากพ่อน้องม่อนเสียชีวิต ได้รับเลี้ยงน้องม่อนมาตั้งแต่อายุได้ 2 เดือน ส่วนแม่ก็หนีออกจากบ้านไปแล้วไม่กลับมาอีก น้องม่อนจึงนับถือตนเป็นแม่และเรียกว่าแม่มาตั้งแต่เด็ก    

นางคำสุก กล่าวว่า เดิมตนมีอาชีพขายผักอยู่ในตลาดสนามบิน ต.พระบาท ได้พาน้องม่อนไปนั่งขายผักตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล 2  แต่เมื่อปีที่แล้วได้มีอาการเจ็บป่วย ร่างกายไม่มีแรง และเป็นโรคเก๊า เดินเหินไม่สะดวก จึงต้องพักอยู่บ้าน ไม่กล้าไปหาหมอเพราะกลัวต่างๆนานา จะมีน้องม่อนคอยดูแลตนเอง และทำงานทุกอย่างภายในบ้านแทน ลำพังลูกชายของตนก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรมากนักเพราะต้องใช้จ่ายส่วนตัว ภาระต่างๆจึงตกอยู่กับหลานสาว ที่ต้องไปขายผักหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวแทนตนเองที่ป่วย  กระทั่งเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ตนเองได้มีอาการหายใจหอบ อาเจียนหนัก จึงไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าตนเองป่วยเป็นโรคไตวาย ต้องทำการฟอกไตเพื่อประคับครองชีวิตไปเรื่อยๆ  รู้สึกสงสารหลานที่บางครั้งก็ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ หากตนเองเข้าโรงพยาบาลหลายก็จะต้องไปเฝ้า และตอนเย็นต้องไปขายผักที่ตลาด ก็จะเปลี่ยนให้ลูกชายตนมาเฝ้าแทน

ด้าน ด.ญ.อินทิรา วิชาดี  กล่าวว่า  ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านพระบาท หลังเลิกเรียนก็จะไปนั่งขายผักอยู่ที่ตลาด เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในบ้าน วันหนึ่งขายได้เงินประมาณ 300 บาท ถ้าหักต้นทุนก็เหลือกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กลับบ้านมาก็จะทำอาหารให้ป้าทาน ล้างจาน ซักผ้า ทำงานบ้าน เพราะป้าไม่มีแรงทำเองได้  บางวันก็ไม่ได้ทำการบ้านเพราะกว่าจะทำงานเสร็จก็ดึกแล้ว หากช่วงที่ป้าเข้าโรงพยาบาลก็จะไม่ได้ไปโรงเรียน ต้องไปเฝ้าเพราะเป็นห่วงไม่มีใครดูแล 

น้องม่อน กล่าวอีกว่า  ไม่อายที่จะต้องไปนั่งขายผักที่ตลาด อยากหาเงินมาช่วยเหลือป้าที่ป่วย และยังบอกอีกว่าอยากได้บ้านหลังใหม่ที่แข็งแรงกว่านี้ อยากให้ป้าอาการดีขึ้น

นางเบญจวรรณ สุภาพ พยาบาลประจำศูนย์บริการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครลำปาง ได้กล่าวถึงการดูแลรักษาว่า  กรณีของนางคำสุกนี้ทางเทศบาลได้ออกเยี่ยมชุมชนตามโครงการ เยี่ยมถึงเรือน เยือนพันหลัง รวมพลังให้มีสุขภาพดี  โดยมีทีมแพทย์แลพยาบาลมาตรวจสุขภาพ ทราบว่านางคำสุกป่วย จึงพาไปตรวจที่โรงพยาบาลก็พบว่าเป็นโรคไตวายแล้ว ต้องทำการฟอกไต ในตอนแรกคนไข้ได้ปฏิเสธการรักษา เพราะกลัวว่าหากฟอกไตแล้วอาการจะทรุดลงกว่าเดิม ต้องช่วยกันเกลี้ยกล่อมจนยอม  การดูแลตอนนี้ก็ต้องล้างไตประคับประคองอาการต่อไป ซึ่งจะต้องดูแลให้นางคำสุกกินยาสม่ำเสมอ  โดยสามารถใช้สิทธิบัตรทองได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย   ในส่วนของน้องม่อนได้ประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯเข้ามาดูสภาพความเป็นอยู่ เพื่อจะให้การช่วยเหลือ แต่เด็กต้องการที่จะอยู่กับป้า ถึงแม้จะบอกให้ย้ายไปอยู่กับย่าที่ อ.แจ้ห่ม แต่เด็กก็ไม่ไปเพราะเป็นห่วงป้าที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กๆ  ทั้งนี้ ทางศูนย์บริการกองสาธารณสุขฯ ก็จะเข้ามาดูแลเรื่องการฟอกไต การรักษาความสะอาด และสอนวิธีฟอกไตให้น้องม่อนทำเองได้ แต่ในช่วงนี้ต้องให้ทางหมอเข้ามาช่วยเหลือไปก่อน

นางอัญชลี วังตระกูล  ครู คส.3 โรงเรียนบ้านพระบาท  ซึ่งเคยเป็นครูประจำชั้น ป.4 กล่าวว่า น้องม่อนเป็นเด็กดีมีน้ำใจ การเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี ทางโรงเรียนได้รับทราบปัญหา และพยายามหาทุนมาสนับสนุนให้การช่วยเหลือ ตอนนี้เด็กก็ได้ทุนเรียนฟรี ทุนอาหารกลางวัน โดยไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆ ในส่วนเรื่องเวลาเรียนก็มีปัญหาอยู่เช่นกัน บางครั้งขาดเรียนบ่อยๆ ครูก็พยายามที่จะสอนพิเศษเพิ่มเติมให้เรียนทันเพื่อน และคอยช่วยกันดูแลเด็กอยู่

หากต้องการช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ ด.ญ.อินทิรา  094-6294620  หรือติดต่อครูอัญชลี เบอร์โทรศัพท์ 085-8650555

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1020  ประจำวันที่ 13 -  19 มีนาคม 2558)

Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์