วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558

เลิกอัยการศึก “ประยุทธ์” ใช้ ม.44 คุมเบ็ดเสร็จ !




ระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้ยกเลิกกฎอัยการศึก คือการยกเลิกอำนาจอย่างครอบจักรวาลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร   และใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว แต่ดูเหมือนกลับยิ่งหนักกว่าเก่า เพราะเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ซึ่งแปลงร่างเป็น “เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อย” รวมทั้งอำนาจเบ็ดเสร็จของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
           
คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๕๘ เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ คือการประกาศที่เป็นสัญลักษณ์ของเผด็จการเต็มรูปแบบ และทำให้การยกเลิกกฏอัยการศึกไม่มีความหมายระหว่างการมีอยู่หรือสิ้นไป
           
ประกาศ ฉบับนี้อธิบายว่าเมื่อมีพระบรมราชโองการให้ยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรแล้ว สมควรมีมาตรการในการดําเนินการกับการกระทําอันเป็นการบ่อนทําลายความสงบ เรียบร้อย ความมั่นคงของชาติ การฝ่าฝืนประกาศหรือคําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติและการกระทําความผิดตาม กฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน ซึ่งคุกคามความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ
           
ดังนั้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงเห็นเป็นการจําเป็นเพื่อป้องกันและปราบ ปรามการกระทําดังกล่าวให้ลดน้อยหรือหมดสิ้นลงโดยเร็ว ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุจริตชนและความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไป
           
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 44 บัญญัติไว้ว่า
           
ในกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเห็นเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ ในการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ การส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของ ชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร
           
ให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีอำนาจสั่งการระงับยับยั้ง หรือกระทำการใด ๆ ได้ ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ และให้ถือว่าคำสั่งหรือการกระทำ รวมทั้งการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่งหรือการกระทำ หรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนี้และเป็นที่สุด ทั้งนี้ เมื่อได้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว ให้รายงานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
           
ความหมายคือการถ่ายโอนอำนาจมายังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยความเห็นชอบของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรานี้ ออกประกาศสั่งการเพื่อความสงบเรียบร้อยได้อย่างฉับพลันจากนั้นจึงรายงานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และรายงานตัวเองในฐานะนายกรัฐมนตรี
           
มาตรา 44 คือ มาตรา 17 ตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ.2502 ที่ให้อำนาจหัวหน้าคณะปฏิวัติ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย มีอำนาจเบ็ดเสร็จที่จะออกประกาศในฐานะตัวแทนอำนาจทั้งฝ่ายบริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ สั่งการให้เป็นไปตามความเห็นของคณะปฏิวัติ แล้วให้รายงานสภานิติบัญญัติที่มาจากการแต่งตั้งของคณะปฏิวัติ
           
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ หัวหน้าคณะปฏิวัติ และนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามมาตรา 17 ในขณะนั้น สั่งให้มีการเผาฝิ่นที่ท้องสนามหลวง สั่งประหารมือเพลิง 3 ศพ ณ ที่วางเพลิง สั่งประหารนายครอง จินดาวงศ์ ในคดีกบฏผีบุญ ที่สนามบินอำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร และมีคำสั่งอีกจำนวนมากสั่งประหารชีวิตจำเลยคดีอุกฉกรรจ์หลายคน
           
ไม่ว่าจะเป็นอำนาจตามมาตรา 17 หรือ 44 ล้วนเป็นอำนาจเบ็ดเสร็จในการจัดการให้เกิดความสงบเรียบร้อยอย่างฉับพลัน การใช้อย่างสร้างสรรค์นั้นเป็นความคิดแบบจินตนาการ การใช้อำนาจจัดการผู้มีความเห็นต่างและแม้กระทั่งสั่งปิดปากสื่อตามประกาศข้อ 5 ของหัวหน้า คสช.ย่อมไม่อาจเรียกว่าเป็นการใช้อย่างสร้างสรรค์เด็ดขาด

 (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1023   ประจำวันที่ 3 - 9  เมษายน  2558)

Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์