ชาวลำปางที่ครอบครองงาช้าง
ต่างแห่มาขึ้นทะเบียนครอบครองงาช้าง
สิ่งประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากงาช้างจำนวนมาก หลายคนผิดหวังตรวจพบเป็นของปลอม ขณะที่น้ำหนักรวมงาช้างทั้งหมดอยู่ที่
4,300 กว่ากิโลกรัม
สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์
ที่ 13 สาขาลำปาง อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเปิดเป็นสถานที่
รับแจ้งผู้ครอบครองงาช้างตามพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. 2558
บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก โดยเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2558 ซึ่งเหลือสองวันสุดท้ายในการขึ้นทะเบียนงาช้าง มีประชาชนที่ครอบครองงาช้าง
ไม่ว่าจะเป็น งาช้างสมบูรณ์ (กิ่ง) งาช้างท่อน ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากงาช้าง
เช่นสร้อย แหวน กำไร ด้ามมีดพก มีดหมอ มีดดาบ เครื่องรางของคลังต่างๆ
ต่างนำมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ว่าใช่งาช้างของจริงหรือไม่ และทำการลงทะเบียน
กรอกข้อมูล และทำการชั่งน้ำหนักงาช้างทุกชนิด
ก่อนที่จะทำการถ่ายภาพผลิตภัณฑ์งาช้างนั้นๆเพื่อเป็นหลักฐานในการขึ้นทะเบียนเพื่อครอบครองงาช้างอย่างถูกกฎหมาย
ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ที่ครอบครองงาช้าง
และนำมาขึ้นทะเบียนต่างก็ภูมิใจที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและขึ้นทะเบียนว่าเป็นงาช้างจริง
และบางคนที่นำงาช้างมาปรากฏว่าบางชิ้นนั้นทำมาจากเขาสัตว์หลายชนิดซึ่ง ไม่ใช่งาช้างจริง
ทำให้ผิดหวังไปหลายรายเพราะบางคนไปซื้อมาในรางคาที่สูงมาก
การขึ้นทะเบียนครอบครองงาช้าง
ทางผู้ครอบครองต้องนำหลักฐานที่สำคัญเช่น บัตรประชาชน งาช้าง ผลิตภัณฑ์งาช้าง
ภาพถ่ายของจริงงาช้างนั้นๆและพยานบุคคลมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่บันทึกการให้ปากคำด้วย
ซึ่งอาจเสียเวลาไปบ้างแต่ก็เพื่อให้การครอบครองนั้นถูกต้องตามกฎหมายและทราบว่างาช้างที่ตนครอบครองเป็นของจริง
โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญร่วมในการตรวจสอบทุกครั้งก่อนที่จะทำการบันทึกและขึ้นทะเบียน
สำหรับบรรยากาศวันที่
22 เม.ย.58 วันสุดท้ายกลับคึกคักว่าวันก่อนมาทำให้ต้องมาใช้
ห้องประชุมใหญ่ในการรับขึ้นทะเบียนในครั้งนี้ โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ครอบครองมาขึ้นทะเบียนไปจนถึงเที่ยงคืนขณะที่ นายผจญ จอมทัน
ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง กล่าวว่า พระราชบัญญัติงาช้าง ได้มีผลบังคับใช้แล้ว เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2558 เป็นต้นมา
เพื่อสกัดกั้นขบวนการค้างาช้างแอฟริกาข้ามชาติผิดกฎหมาย
และควบคุมการครอบครองและการค้างาช้างในประเทศไทย
สำหรับที่จังหวัดลำปางขณะนี้มีผู้มาแจ้งการครอบครองงาช้างแล้วจำนวน 524 ราย รวมน้ำหนัก 4,301.228 กิโลกรัม หากพ้นกำหนดการขึ้นทะเบียนแล้วจะมีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่วนผู้ค้างาช้างต้องมายื่นคำขออนุญาตก่อนดำเนินการ
หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ภาพรวมการขึ้นทะเบียนครอบครองงาช้างตั้งแต่วันที่
11 ก.พ.58 -21 เม.ย.58 มีผู้แจ้งครอบครอง
จำนวน 524 ราย รวมน้ำหนัก 4,301.228 กิโลกรัม
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1025 วันที่ 24 – 30 เมษายน 2558)