วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558

'ชูชัย'แพ้คดี กาดทุ่งเกวียนสู้ต่อศาลฎีกา



ศาลอุทธรณ์พิพากษา“ชูชัย”แพ้คดี ต้องคืนกาดทุ่งเกวียนให้เจ้าของ หลังหมดสัญญาเช่าตั้งแต่ ก.ย.55 และยังต้องจ่ายค่าเสียหายวันละ 1.5 หมื่นบาท  ร่วม 15  ล้านบาท
           
จากกรณีพิพาทระหว่าง หจก.กาดทุ่งเกวียน โดยนายชูชัย จันทร์สกาว ผู้จัดการตลาดทุ่งเกวียน ได้ยื่นฟ้องร้อง นางอุทิน อินทรบุรี เจ้าของตลาดทุ่งเกวียน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ต่อศาลจังหวัดลำปางเมื่อวันที่ 16 ต.ค.55  หลังจาก หจก.กาดทุ่งเกวียน หมดสัญญาเช่าตลาดวันที่ 26 ก.ย.55 เนื่องจากสัญญาครบกำหนดเวลา 20 ปี  แต่ทางนางอุทิน เจ้าของตลาดไม่ต้องการต่อสัญญา เนื่องจากต้องการเข้ามาดำเนินการและบริหารตลาดเองทั้งหมด  โดยนายชูชัย ยืนยันว่าได้แจ้งสิทธิในการต่ออายุสัญญาเช่าไปอีก 5 ปีแล้ว ซึ่งจะครบกำหนดสัญญาเช่าในเดือนกันยายน 2560  ตามที่เจ้าของได้ให้คำมั่นไว้  ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้นายชูชัยเช่าตลาดทุ่งเกวียนต่อไปได้อีก 5 ปี แต่ทางเจ้าของตลาดได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 5  โดยเมื่อวันที่ 25 มี.ค.58 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 5  ได้พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น สั่งให้นายชูชัยและบริวารออกไปจากพื้นที่ และชดใช้ค่าเสียหายให้กับเจ้าของตลาด
           
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 58 นายอธิป อินทรบุรี ลูกชายของนางอุทิน อินทรบุรี เจ้าของตลาดทุ่งเกวียน ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ดังกล่าว  นายอธิป กล่าวว่า นางอุทิน อินทรบุรี มารดาของตน ได้ให้ หจก.กาดทุ่งเกวียน โดยนายชูชัย จันทร์สกาว เช่าเพื่อดำเนินกิจการตลาดเป็นเวลา 20 ปี  และครบกำหนดสัญญาเดือน ก.ย.55 แต่ปรากฏว่านายชูชัยไม่ยอมออกและคืนตลาดให้ และอ้างสิทธิที่จะต่อสัญญาได้อีก 5 ปีครบกำหนดเดือน ก.ย. 60  ในอัตราเช่าเดือนละ 28,000 บาท จนเกิดการพิพาทฟ้องร้องเกิดขึ้น ศาลจังหวัดลำปางได้พิพากษาให้นายชูชัย ได้สิทธิ์เช่าตลาดต่อไปอีก 5 ปี  ซึ่งทางมารดาของตนก็ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ กระทั่งเมื่อวันที่ 25 มี.ค.58 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลจังหวัดลำปาง โดยมีคำสั่งให้ หจก.กาดทุ่งเกวียน โดยนายชูชัย จันทร์สกาว ผู้เช่าพร้อมทั้งบริวาร ออกไปจากตลาดทุ่งเกวียนและส่งมอบคืนให้แก่นางอุทิน อินทรบุรี ผู้ให้เช่า พร้อมทั้งให้ชำระเงิน พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันครบกำหนดสัญญาเช่าที่ดินพิพาทจนถึงวันฟ้องเป็นเวลา 20 วัน รวมเป็นเงิน 300,000 บาท และวันละ 15,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะส่งมอบที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างคืนทั้งหมด

นายอธิป กล่าวว่า เรามีความมุ่งมั่นจะพัฒนาบริเวณตลาดทุ่งเกวียนให้มีความรุดหน้ายิ่งขึ้นไป เพื่อรองรับสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อหน้าตาของ จ.ลำปาง  เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตลาดทุ่งเกวียนมีปัญหาที่จอดรถรถคับแคบและสถานที่จอดรถขาดการพัฒนาไม่มีมาตรฐาน เพื่อเป็นการพัฒนาตลาดทุ่งเกวียนให้มีความพร้อมในทุกๆด้านให้สมกับเป็นตลาดที่เป็นหน้าเป็นตาของจังหวัดลำปาง  จึงมีความตั้งใจจะปรับโฉมใหม่ภายในตลาดทุ่งเกวียนทั้งหมด เพื่อให้ความสะดวกกับผู้ค้าขายและผู้เข้ามาใช้บริการ 

ด้านนายชูชัย จันทร์สกาว ผู้เช่า กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตนเองก็จะยื่นฎีกาต่อและกำลังให้ทนายความเตรียมเอกสารต่างๆอยู่ ซึ่งมีเวลายื่นได้ภายใน 30 วัน  ในเรื่องนี้เหมือนเป็นการเสมอกัน 1 ต่อ 1 เพราะศาลชั้นต้นตัดสินให้ตนชนะ และต่อสัญญาได้อีก 5 ปี แต่ศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินให้ฝ่ายเจ้าของชนะ จึงต้องมีการยื่นศาลฎีกาต่อไปให้คดีถึงที่สุด

ทั้งนี้ สำหรับค่าชดใช้ที่นายชูชัย จะต้องจ่ายให้กับเจ้าของตลาดหากแพ้คดี นับแต่วันครบกำหนดสัญญาเช่าที่ดินพิพาทจนถึงวันฟ้องเป็นเวลา 20 วัน รวมเป็นเงิน 300,000 บาท และวันละ 15,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะส่งมอบที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างคืนทั้งหมด ซึ่งนายชูชัยได้ยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค.55 หากนับมาจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 58 เท่ากับนายชูชัยจะต้องจ่ายเงินชดใช้เป็นเวลา 988 วัน เป็นเงิน 14.82 ล้านบาท
 
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1023  
 ประจำวันที่ 3 - 9  เมษายน  2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์