เรียกกันว่าเป็นสาวหงอยยาวๆมา
จนกระทั่งถึงเทศกาลสงกรานต์
หวังใจว่าบรรยากาศรื่นเริงจะช่วยกระตุ้นดีเอ็นเอความหงอยให้คึกคักขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่เห็นผลมากนัก
ด้วยสงกรานต์ปีนี้ก็เหงาหงอยไม่แพ้กัน
เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นปีที่มีวันหยุดยาวนานต่อเนื่องนานกว่าปีที่ผ่านมาๆ
เพราะหากนับตั้งแต่วันเสาร์ที่ 11 เมษายนที่ผู้คนเริ่มเดินทางกลับถิ่นฐานภูมิลำเนากัน
ไปจนวันที่ 13-14-15 เมษายน ที่ประกาศเป็นวันหยุดราชการ
แต่ดูเหมือนว่าในทางปฏิบัติแล้ว วันที่ 16-17 เมษายน ก็จะมีหลายๆคนลางาน
บ้างก็ป่วยการเมือง เพื่อให้คร่อมวันหยุดลากยาวไปถึงเสาร์-อาทิตย์กันเลยทีเดียว
ยิ่งในทางภาคเหนือเราเป็นประเพณีที่หลังสงกรานต์เราจะมีการขนทรายเข้าวัด
ถัดมาก็เป็นช่วงเดินสายรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพ
เบ็ดเสร็จหลายคนหยุดยาวไปเกือบสิบวัน สังเกตุได้จากรถทัวร์ รถไฟ
รถยนต์ส่วนตัวยังมีคนเดินทางอยู่มากมาย เป็นแร็ค ลานนา ก็หยุดกับเขาเหมือนกัน
ทั้ง
ที่สงกรานต์ปีนี้มีวันหยุดที่ยาวต่อเนื่อง
ความคาดหวังว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจในบ้านเมืองเรา
ให้เงินสะพัดสะพรึ่มสวนกระแสเศรษฐกิจร่วงโรยย่อมต้องมากขึ้นตาม
เพราะตั้งแต่ต้นปีเราเข้าสู่ยุดข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจตกต่ำ
การค้าขายย่ำแย่แทบจะทุกสาขาอาชีพ
ขนาดเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ยังบ่นกันอุบส์....ไม่ต้องถามถึงกลุ่มธุรกิจขนาด
เล็กขนาดกลางที่ตอนนี้ต้องประคองให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปให้ได้
ในขณะที่มนุษย์เงินเดือนเองก็เริ่มสัมผัสได้ถึงค่าครองชีพที่สูงขึ้นบวกกับ
ความไม่มั่นใจในหลายๆอย่างทำให้การจับจ่ายใช้สอยน้อยลงมาก
จึงไม่แปลกใจที่เทศกาลสงกรานต์ดูจะเป็นความหวังอันเรืองรองของเหล่าพ่อค้า
แม่ค้าทั้งหลาย
แต่กลายเป็นว่าความหวังของพ่อค้าแม่ค้าหลายคนกลับพังทลาย
เพราะสงกรานต์ปีนี้ไม่คึกคักอย่างที่คิด
จำได้ว่าสมัยเมื่อ
แร็ค ลานนา ยังเป็นเด็กผูกผมเปีย ช่วงสงกรานต์เราจะเริ่มเล่นน้ำกันตั้งแต่วันที่ 10 เมษาแล้ว
แต่พอมาถึงตอนนี้ในเมืองลำปาง เล่นน้ำกันสนุกสุดเหวี่ยงกันอยู่สองวันคือวันที่ 12-13
เมษายนที่จะเริ่มเล่นน้ำกันตั้งแต่สายๆถนนทุกสายชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ พร้อมด้วยประเพณีแห่สลุงหลวง
และขบวนจุมพระที่แห่พระคู่บ้านคู่เมืองพร้อมขบวนแห่สวยงามที่เป็นไฮไลท์ของงาน
แต่หลังจากนั้นลำปางบ้านเราก็จะร้าง
ร้านรวงปิดผู้คนออกไปต่างอำเภอที่ดูเหมือนจะเป็นประเพณีปฏิบัติกันไปแล้ว
สถานการณ์ปีนี้ดูแย่กว่าปีผ่านๆมา เพราะแร็ค ลานนา
ออกไปสำรวจบรรยากาศสงกรานต์วันที่ 12 เม
ษา ในเวลาเกือบเที่ยงวันปรากฏว่ายังหาที่จอดรถแถวห้าแยกหอนาฬิกาได้
เดินข้ามถนนไปดูแกงฮังเลหลวง ผู้คนก็ไม่มากนัก มองไปถนนบุญวาทย์
รถก็ไม่เต็มถนน ถนนทิพย์ที่ถือเป็นเส้นหลักปีนี้ก็ห้ามรถยนต์เข้าตั้งแต่
8.00-17.00 น. ทำเอาหลายคนบ่นกันเต็มโซเลียลว่าสงกรานต์เหงามา
จะไปสนุกก็ตอนเย็นๆโน่น ทำเอาคนค้าคนขายเซ็งกันไปตามๆกัน
ยกเว้นแต่คนขายเครื่องดองของมึนเมา เพราะกฎสารพัดที่ออกมาทำให้นั่งกินเหล้าอยู่กับที่จะดีกว่า
พอแดดร่มก็เมาได้ที่ถึงเวลาเล่นน้ำตอนค่ำ สติก็หมดไปพร้อมกับแดดการทะเลาะวิวาทจึงตามมาตามระเบียบ
ใช่ว่าจะเหงาที่ลำปางที่เดียว
หลายๆจังหวัดก็ไม่น้อยหน้า จากการนั่งมองหน้าคอม ดูโลกโซเชียลรายงานสดบรรยากาศสงกรานต์แต่ละที่ก็ดูจะเหงาตามๆกัน
หลายจังหวัดรายงานเหมือนๆกันว่าปีนี้มีผู้เข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์ภายในเขตเทศบาล น้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ซึ่งโดยปกติจะมีประชาชนนั่งรถกระบะจากต่างอำเภอเข้ามาเล่นน้ำจนทุกปีจะมีการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก
แต่ปรากฏว่าปีนี้รถยนต์สามารถวิ่งได้อย่างคล่องตัว ทำให้ผู้ที่ตั้งถังน้ำไว้รอสาดน้ำข้างทางต้องรอเก้อกว่าจะมีรถยนต์ผ่านมาแต่ละคัน
พอลองถามจากคนต่างอำเภอ
ส่วนใหญ่บอกว่าปีนี้ไม่ค่อยอยากเข้ามาเล่นในตัวเมือง เนื่องจากมีการจัดโซนนิ่งให้เล่นสงกรานต์แบบเรียบง่ายไม่มีสีสันหลายจุด
พร้อมทั้งมีการประกาศใช้กฎเหล็ก 8 ข้อตามนโยบายของรัฐบาล
ยิ่งเห็นเด็กน้อยตั้งถังน้ำหน้าบ้านยืนชะเง้อรอรถที่นานๆจะโผล่มาคันหนึ่งในวันสงกรานต์ก็ดีใจแทน
นึกย้อนไปก็ดีใจที่เราเองเกิดมานานกว่า ได้เคยเล่นสนุกสนานกว่าวันนี้ ที่จริงในอดีต
วันสงกรานต์เป็นวันหนึ่งที่ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ นับวันตั้งตารอมาร่วมกิจกรรมเดียวกันแบบไม่แบ่งเพศแบ่งวัย
เราเลิกหลอกตัวเองกันเสียทีว่าปีนี้ดีแล้วจากภาพทีวีที่ส่งแต่ภาพรื่นเริงๆออกอากาศในบางจุด
แต่หากลองดูภาพที่แชร์กันสดๆ จะเห็นได้ว่าน่าตกใจกว่าหลายเท่า เพราะมันเหงาเหลือเกิน
ขนาดเชียงใหม่ที่ว่าแน่ก็ยังซบเซาไปหลายขุมอยู่ไม่น้อยแล้วนับประสาอะไรกับลำปาง
เศรษฐกิจดีไม่ดี
ดูไม่ยากที่การจับจ่ายในช่วงเทศกาล หลังจากนี้ แร็ค ลานนาคงต้องรัดเข็มขัด เพราะวันเผาจริงกำลังจะคืบคลานใกล้เข้ามาทุกที
หรือจะให้ดีควรจะเปิดรับสมัครผู้เลี้ยงดูเป็นทางการเสียที
ใครสนใจสมัครได้เลยรับทุกคุณสมบัติ เผื่อปีหน้าจะได้มีคนสาดน้ำส่วนตัวบ้างอะไรบ้าง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1025 วันที่ 24 – 30 เมษายน 2558)