ผู้ค้าสลากฯเผยสลากชุดขายดีกว่าแบบใบเดียว เชื่อผู้ซื้อไม่ได้หวังแจ็คพอตเพียงแค่ต้องการเลขเดียวกัน หากถูกสลากจะได้รางวัลหลายใบ ถ้ายกเลิกอาจกระทบให้ขายสลากได้ช้าลง ทางด้านผู้ซื้อเห็นด้วยกับการยกเลิก เพราะเป็นการกระจายรางวัลไม่ให้กระจุกอยู่ที่คนๆเดียว ขณะที่การขายสลากฯในราคา 80 บาท ยังไม่มีความชัดเจน หากต้องรับซื้อจากยี่ปั๊วะในราคาสูงและต้องขาย 80 บาท ผู้ค้าอยู่ไม่ได้แน่ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกตรวจ 3 มิ.ย.
หลังจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค.58 ที่ผ่านมา คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ดสลากฯ) ชุดใหม่ 12 คน นำโดย พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลมีมติให้ปรับโครงสร้างราคาสลากใหม่กำหนด 60% เป็นเงินรางวัล และ 20% เป็นเงินนำส่งรัฐจากเดิม 28% อีก 20% แบ่งย่อยเป็นค่าบริหารจัดการของสำนักงานสลากฯ 3% นำไปตั้งเป็นกองทุนเงินกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม 2% เป็นส่วนลดให้มูลนิธิ สมาคม ผู้ค้านิติบุคคล และ 12% เป็นส่วนลดให้กับผู้ค้ารายย่อย จากเดิมผู้ค้ารายย่อยจะได้รับส่วนลดเพียง 7%
การปรับโครงสร้างราคาสลากใหม่ทำให้ผู้ค้ารายย่อยได้ส่วนลดหรือกำไรจากการขายสลากถึงใบละ (1 ใบ 2 ฉบับ) 9.60 บาท ราคาขายส่งเหลือ 70.40 บาทต่อใบ จากเดิม 74.40 ต่อใบ หรือส่วนลด 5.60 บาท สำหรับมูลนิธิองค์กรต่างๆ กำหนดราคาขายส่งราคา 68.80 บาท จะได้เพิ่มอีกใบละ 1.60 บาท ส่วนที่เพิ่มน่าจะเพียงพอทำให้การขายสลากอยู่ที่ 80 บาท เริ่มในงวดออกรางวัลที่ 16 มิถุนายน เริ่มขายตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยเพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ค้าตามประกาศมาตรา 44 คือถ้าขายเกินราคามีโทษทั้งปรับ 1 หมื่นบาท และจำคุก 1 เดือน รวมถึงถูกยึดโควตาคืน
และมีมติให้ยกเลิกรางวัลแจ๊กพ็อตของสลากกินแบ่งรัฐบาล กำหนดไว้ 20 ล้านบาท และ 30 ล้านบาท โดยให้ยกเลิกรางวัลดังกล่าวแล้วนำเงินรางวัลมากระจายให้กับรางวัลที่ 1 แทน จะทำให้รางวัลที่ 1 อยู่ที่ใบละ 6 ล้านบาท จากเดิมใบละ 4 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มในงวดวันที่ 1 สิงหาคม เพราะรอการปรับข้อความบนสลากที่จะขาย เพื่อให้ผู้ซื้อได้รับรู้
ในส่วนของ จ.ลำปาง พบว่าผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังคงสับสนกับการกำหนดมาตรการใหม่ และยังไม่ทราบว่าตัวเองจะได้รับโควตาเท่าไร และจะสามารถขายในราคา 80 บาทได้หรือไม่ ซึ่งผู้ค้ารายใหญ่รายหนึ่งของ จ.ลำปาง กล่าวว่า จากเดิมได้โควตามาเพียง 1 เล่ม (100ใบ) เท่านั้น แต่ทางจังหวัดบอกว่าจะเพิ่มให้เป็น 5 เล่ม ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้จริงหรือไม่ เพราะไม่ได้มีใบอะไรแจ้งมาให้ทราบเลย ต้องรอใกล้วันหวยออกจึงจะทราบราคาที่แน่ชัด ในตอนนี้ก็ยังขายในราคาใบละ 100 บาทอยู่ แต่รัฐบาลจะให้เริ่มขาย 80 บาท ในวันที่ 2 มิ.ย.58 คิดว่าเร็วเกินไปยังไม่เห็นมีความคืบหน้าอะไรมาแจ้งให้ผู้ค้าทราบ
เมื่อถามประเด็นการยกเลิกแจ็คพอต เพิ่มเงินรางวัลที่ 1 เป็น 6 ล้านบาท เพื่อป้องกันการรวมชุด ผู้ค้าสลากฯ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อไม่ได้หวังว่าจะได้รางวัลแจ็คพอตอะไร แค่หวังขอให้ถูกรางวัลก็พอ โดยการซื้อเลขที่ตัวเองชอบได้หลายๆใบ จึงยอมจ่ายราคาสูงขึ้นก็เหมือนกับเป็นค่าจัดหาให้เล็กๆน้อยๆ โดยที่ผู้ซื้อไม่ต้องหาหาซื้อเลขเดียวกันเอง ซึ่งหวยชุดจะมีราคาสูงขึ้นใบละ 10 บาทเท่านั้น แต่เมื่อสองงวดที่ผ่านมา ทางกองสลากฯได้มีการขอความร่วมมือมาว่าขอให้ไม่ให้จัดหวยชุดใหญ่ จึงมีแต่ชุดเล็กมาขาย 5 ใบ และ 2 ใบ แต่หวยชุดขายง่ายกว่าหวยใบ เพราะขายครั้งเดียวได้ทีละหลายใบ หากยกเลิกไปก็จะทำให้ขายหวยออกได้ช้าลง
ด้านผู้ซื้อได้แสดงความเห็นกรณีการยกเลิกรางวัลแจ๊คพอตว่าเห็นด้วยเพราะมีการกระจายรางวัลให้มีคนโอกาสถูกรางวัลได้เพิ่มขึ้น นางสมร อาชีพแม่บ้านบริษัทเอกชน กล่าวว่า หากมีการปรับเปลี่ยนจริงก็ถือว่าดี เพราะที่ผ่านมาคนที่ถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินแล้ว 4 ล้านบาทก็ถือว่าเป็นเงินจำนวนเยอะมาก แล้วยังได้รางวัลแจ็คพอตเพิ่มอีก 20-30 ล้าน บาท เงินก็ไปอยู่ที่คนๆเดียว ในขณะที่ยังมีอีกหลายคนรอโอกาสที่จะถูกรางวัลอยู่ ดังนั้น การเพิ่มเงินรางวัลที่ 1 เป็น 6 ล้านถือว่าเป็นการกระจายเงินให้คนอื่นๆถูกรางวัลเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ตนก็ไม่ทราบว่า ทางกองสลากฯจะมีการปรับเพิ่มรางวัลที่ 1 ด้วยหรือไม่ หรือแค่เพิ่มเงินแต่มีจำนวนรางวัลเท่าเดิม ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้กองสลากฯประหยัดค่าใช้จ่ายไปอีกมาก ในขณะที่คนมีโอกาสถูกสลากก็เท่าเดิม
ส่วนพนักงานบริษัทประกัน กล่าวว่า การมีรางวัลแจ็คพอตเห็นว่ามีคนไม่กี่คนที่จะรวย แต่ถ้าไม่มีแจคพอต ก็ยังได้เงินรางวัล 6 ล้านบาทอยู่ หากเพิ่มรางวัลที่ 1 มากขึ้นจาก 10 ใบ เป็น 50 ใบ คนมีโอกาสถูกก็เพิ่มอีก 40 คน เทียบสัดส่วนแล้วถือว่าเป็นลดช่องว่างระหว่างฐานะด้วยทางหนึ่ง เงิน 6 ล้าน ถ้าคนใช้เงินเป็นสามารถนำไปต่อยอดเป็น 10-20 ล้านได้ แต่ถ้าคนใช้เงินไม่มีระบบ มี 34 ล้านบาท ก็หมดกลับมาจนอย่างเดิมได้
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกตรวจการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาในวันที่ 3 มิ.ย.58แล้ว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1029 วันที่ 22 - 28 พฤษภาคม 2558)
