วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เงินฝืด เปิดเทอมซึม ห้างใหญ่ทุบราคาชิงท้องถิ่น


ธุรกิจการค้าช่วงเปิดเทอมซบเซา บรรยากาศการค้าย่านถนนบุญวาทย์ แยกธนาคารออมสิน ตลาดเทศบาล 1 และและตลาดราชวงค์ ค่อนข้างเงียบเหงากว่าทุกปี โดยร้านค้าที่เคยจำหน่ายเครื่องแบบนักเรียน ต่างระบุว่าการค้าขายช่วงก่อนเปิดเทอมปีนี้เงียบเหงากว่าปีที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูง ผู้คนจึงจับจ่ายใช้สอยน้อย ผู้ปกครองเน้นประหยัดซื้อของใหม่น้อยลง ขณะที่บรรยากาศร้านขายเครื่องเขียนหลายแห่งในอำเภอเมือง พบว่าเกือบทุกแห่งมีลูกค้าเข้าไปจับจ่ายน้อยมาก ส่วนใหญ่จะสั่งซื้อสมุดและแบบเรียนกับทางโรงเรียนเป็นหลัก ส่วนอุปกรณ์เครื่องเขียนมียอดขายลดลงไปมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากการสำรวจตลาดสดหลายแห่งในตัวเมืองลำปาง แม่ค้าในตลาดต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงเปิดเทอมของทุกปีตามปกติก็เงียบเหงาอยู่แล้ว แต่ปีนี้เงียบเหงาซบเซามากกว่า จากที่มีคนเดินตลาดคึกคักก็มีการจับจ่ายน้อยลง เพราะคนส่วนใหญ่จะใช้เงินไปกับการจ่ายภาระเปิดเทอม ส่งผลให้ ร้านค้าขายของชำและร้านขายของทั่วไปในตลาดเงียบเหงา

-------------
ผู้ปกครองจำเป็นเข้าโรงตึ๊ง เพื่อใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม


โรงจำนำเงียบเหงา เหตุช่องทางสินเชื่อ รัฐและเอกชนหลากหลายขึ้น เชื่อส่วนหนึ่งยอมกู้นอกระบบจ่ายดอกเบี้ยแพงเพราะไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของการเปิดให้บริการวันแรกหลังจากปรับปรุงใหม่ของสถานานุบาลเทศบาลนครลำปาง เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2558 มีคนเข้าไปใช้บริการค่อนข้างคึกคัก โดยผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ระบุว่า วัตถุประสงค์หลักคือจำนำของเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายเปิดเทอมซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งรองเท้า เครื่องแบบชุดนักเรียน ชุดลูกเสือ เนตรนารี ชุดพละ หนังสือเรียน อุปกรณ์เครื่องเขียน ค่าใช้จ่ายในกิจกรรมของโรงเรียน  และค่าบำรุงการศึกษา และใช้บริการสถานนานุบาลเนื่องจากดอกเบี้ยต่ำและมีระยะเวลานานพอที่จะหาเงินมาไถ่ถอนทรัพย์ที่ฝากไว้

อรวรรณ แขวงสา ผู้จัดการสถานนานุบาลเทศบาลนครลำปาง เผยว่าในปี 2558 ทางสถานนานุบาลฯได้เตรียมวงเงินสำรองไว้ประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเพียงพออย่างแน่นอน และว่าในปีนี้บรรยากาศของการใช้บริการตั้งแต่ต้นปี 2558 ค่อนข้างเงียบเหงากว่าปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงเปิดเทอมยังคาดคะแนไม่ได้ แต่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาแล้วอาจจะดูเงียบเหงากว่า ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจปีที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก ประชาชนส่วนใหญ่ที่มีทรัพย์สินเป็นทองคำ หรือของมีค่าที่สามารถฝากในโรงจำนำได้มีน้อยลง ประกอบกับช่องทางใหม่ๆของสินเชื่อทั่วไป มีหลายช่องทางมากขึ้น และบางส่วนอาจจะยอมกู้เงินนอกระบบซึ่งไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่งผลให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการสถานานุบาลน้อยลง 


“ในปีนี้เราปรับลดดอกเบี้ย ช่วงเปิดเทอม ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน -30 พ.ค. 2558 ให้กับประชาชนที่ต้องการใช้เงินไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.25 เท่านั้น ซึ่งเป็นมาตรการที่ช่วยให้ผู้ปกครองที่ต้องการนำเงินไปแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายช่วงเปิดเทอมได้กู้ดอกเบี้ยต่ำ ส่วนทรัพย์สินประชาชนที่เขามาใช้บริการส่วนใหญ่ประเภท ทองรูปพรรณ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ได้ราคากว่าทรัพย์ประเภทอื่น ส่วนยอดสินเชื่อเฉลี่ยอยู่ในราว 5,000- 10,000 บาท” ผู้จัดการสถานานุบาลเทศบาลนครลำปางกล่าว

ผู้ สื่อข่าวรายงานจากการสำรวจบรรยากาศ โรงรับจำนำและร้านรับขายฝากเอกชนในลำปาง หลายแห่งค่อนข้างเงียบเหงา โดยร้านรับจำนำส่วนใหญ่ มีผู้นำทรัพย์ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องมือช่างอุตสาหกรรมและเกษตรขนาดเล็ก กล้องถ่ายภาพ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค แทบเล็ต รวมถึงโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน ฝากจำนำตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักไม่เกินหมื่นบาท โดยพบข้อมูลจากเจ้าของร้านรับจำนำเอกชนว่าช่วงเปิดเทอมประจำปี 2558 บรรยากาศการฝากจำนำของค่อนข้างเงียบเหงา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่มีทรัพย์มาจำนำ หรือเปลี่ยนช่องทางการกู้ สินเชื่อช่องทางอื่นๆและเชื่อว่าโครงการเงินกู้เพื่อการศึกษาของรัฐก็เป็น ส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คนมีเงินจับจ่ายในช่วงเปิดเทอมโดยไม่ต้องใช้บริการโรง รับจำนำ
           
//////////////

ร้านท้องถิ่นงัดกลยุทธ์คุณภาพและบริการสู้ห้างใหญ่ทุบราคา
 
สงครามราคารับเปิดเทอม ห้างใหญ่ลดกระหน่ำรองเท้า-ชุดนักเรียนเด็กไม่ถึง 100 บาท ร้านท้องถิ่นยอมรับยอดตกกว่า 10 -20 % ปรับขบวนเปิดบูธตามโรงเรียน รับบริการปักชื่อ เครื่องหมายฟรี รักษาฐานลูกค้า ขายสินค้าคุณภาพสู้ราคาถูก

ผู้สื่อข่าวรายงาน จากการสำรวจตลาดการซื้อขายจับจ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องแบบนักเรียนช่วงก่อนเปิดเทอม ในจังหวัดลำปางพบว่า ประชาชนส่วนหนึ่งตื่นตัวกับการไปเลือกซื้อหาชุดนักเรียนในห้างใหญ่ หลังจากที่ห้างเทสโกโลตัส ออกแคมเปญ ทุบราคาต้อนรับเปิดเทอม ชุดนักเรียนในราคาถูก เริ่มต้นตั้งแต่ 29 บาท จนถึง 129 บาท ช่วงปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือน พฤษภาคม 2558 โดย สินค้าชุดนักเรียน อนุบาลราคาเพียงชุดละ 29 บาท  ประถม 59 บาท และมัธยม 79 บาท ขณะที่ ในห้างบิกซีลำปาง จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 110 บาท นอกจากนี้ สินค้าที่ได้รับความสนใจและบรรยากาศการเลือกซื้อสินค้าค่อนข้างคึกคัก คือรองเท้านักเรียน 

จากการสอบถาม ผู้ปกครองที่ไปเลือกซื้อสินค้าในห้างใหญ่ พบว่า ส่วนใหญ่ให้ความสนใจสินค้าที่จัดโปรโมชั่นลดราคา และยอมรับว่าราคา 100 บาทต้นๆอยู่ในราคาที่รับได้ แม้สินค้าจะมีคุณภาพปานกลาง แต่ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในเวลานี้การเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกและดูแลรักษาดีกว่า ซื้อสินค้าคุณภาพสูง แต่ราคาแพง เพราะในช่วงเปิดเทอมมีค่าใช้จ่ายหลายส่วน หากครอบครัวที่มีบุตรมากกว่า 1 คนจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก เพราะนอกจากเครื่องแบบแล้วยังมีค่าใช้จ่ายเรื่องการปักชื่อ เครื่องหมายต่างๆ รวมถึงชุดพละที่ต้องซื้อโดยตรงกับทางโรงเรียนเพิ่มอีก ทั้งนี้ผู้ปกครองส่วนใหญ่ระบุว่าสินค้าประเภทรองเท้าจะเลือกซื้อในห้างเนื่องจากมีตัวเลือกหลากหลายกว่าซื้อตามร้านค้าในตลาดต้องถิ่น 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากการสำรวจร้านขายเครื่องแบบนักเรียนในจังหวัดลำปางหลายแห่งบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ส่วนใหญ่มีสินค้า โชว์ตัวอย่างบริเวณหน้าร้านและในร้าน แต่จะมีสินค้าอยู่ในสต็อคซึ่งมีพนักงานให้บริการจัดหาแบบและขนาดเครื่องแบบตามที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนี้ร้านท้องถิ่นทุกแห่งจะมีบริการรับปักชื่อ เครื่องหมายฟรีหรือราคาพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อชุดนักเรียนในร้าน ซึ่งถือเป็นจุดขายที่สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ นอกจากนี้พบว่าร้านค้าท้องถิ่นได้จัดโปรโมชั่นและเปิดบูธขายชุดนักเรียนพร้อมปักชื่อและเครื่องหมาย ในโรงเรียนต่างๆล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายนเป็นต้นมา

อานุภาพ ญานิสราพันธ์ เจ้าของร้านตะวัน ถ.บุญวาทย์ อ.เมือง จ.ลำปาง หนึ่งในผู้จำหน่ายเครื่องแบบชุดนักเรียนในจังหวัดลำปาง เผยว่า สงครามราคาในช่วงเปิดเทอมระหว่างร้านค้าท้องถิ่นกับห้างใหญ่ เกิดผลกระทบทุกปี เนื่องจากห้างใหญ่มีกำลังต่อรองสูงและมีกำลังในการสตอคสินค้า จึงได้รับสิทธิ์ในการจัดโปรโมชั่นราคาถูกมากได้ ในปีนี้ยิ่งเห็นชัดเจนเรื่องของการแข่งขันราคา ชุดนักเรียนบางห้างขาย ราคาไม่ถึง 100 บาท 

ขณะที่ร้านท้องถิ่น ยังขายราคา 200 บาทขึ้นไป ทำให้มีผลต่อยอดขายชุดนักเรียนหายไป กว่า 10-20 % และลูกค้าในกลุ่มที่ซื้อรองเท้านักเรียนหายไปมากกว่า 30 % ซึ่งต้องยอมรับว่าในห้างมีแบบ ยี่ห้อให้เลือกและราคาถูกมากกว่า 

    
“ เมื่อการแข่งขันราคามันเกิดขึ้นเราเป็นร้านค้าท้องถิ่น มีทุนและกำลังต่อรองน้อยกว่า ก็ต้องยอมรับปรับตัว ด้วยการงัดจุดแข็งเรื่องของการเสนอขายสินค้าที่มีคุณภาพและมีบริการ ทั้งเรื่องงานปักชื่อ และเครื่องหมายตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนแต่ละแห่งให้ลูกค้า เพราะเราอยู่ในท้องถิ่น รู้ว่าแต่ละโรงเรียนปักชื่อ หรือเครื่องหมายให้ถูกต้องอย่างไร ลดความยุ่งยากของลูกค้าไปได้เยอะมาก ทำให้ลูกค้าที่เคยซื้อกับเราก็ยังคงอุดหนุนกันด้วยมิตรภาพ ส่วนเรื่องสต็อคเราก็บริหารจัดการใหม่โดย ไม่สต็อคสินค้าจำนวนมาก แต่แบ่งรอบของการสั่งสต็อคสินค้าให้บ่อยขึ้น เพื่อป้องกันสินค้าค้างสต็อคทำให้เรายังอยู่ได้ในภาวะการแข่งขัน” เจ้าของร้านตะวันกล่าว
 
  (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1027  วันที่  8  -  14  พฤษภาคม  2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์