วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

แขกอาละวาด หลอกซื้อของฉกเงินทอนหนี



มิจฉาชีพอาละวาดหนักชาวต่างชาติคล้ายแขกชายหญิง 2 คน ตะเวนหลอกชาวบ้าน ทำทีเข้าซื้อของไม่กี่บาทแต่ใช้แบงค์พันจ่าย เดินเข้าหลายร้านแต่เหยื่อไม่เล่นด้วย  ซวยเจ้าของร้านเค้กมึนคุยกันไม่รู้เรื่องจนโดนหลอกล่อทอนเงินให้ ก่อนแขกทั้งสองจะรีบขึ้นรถซิ่งหนี เผยพฤติกรรมจะเข้ามาประชิดตัวและพยายามเข้าไปยืนใกล้จุดเก็บเงิน หากเผลอคงสูญเงินมากกว่านี้ เตือนร้านค้าในลำปางระวัง เจอลักษณะเดียวกันนี้แล้ว 4 ร้าน
           
นางพัชรี เริงเกษตรกร เจ้าของร้านเค้กเอิงเอย ตั้งอยู่ทางเข้าโรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม เผยถูกมิจฉาชีพเป็นชาวต่างชาติจำนวน 2 คน คาดเป็นแขกผิวสีดำ อายุประมาณ 50 ปี แต่งตัวภูมิฐานเข้ามาซื้อของภายในร้านเค้ก และขอต่อรองราคาโดยใช้ภาษาอังกฤษคุยกับเจ้าของร้าน  ก่อนจะนำเงินธนบัตรใบละ 1,000 บาทจ่าย เมื่อต่อรองไม่ได้จึงขอธนบัตรคืน แต่ยังพูดหลอกล่อให้งง จนในที่สุดได้จ่ายเงินทอนให้ไปโดยไม่ได้เงินสักบาท
           
นางพัชรี เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค.58 เวลาประมาณ 10.30 น. ได้มีชาวต่างชาติ 2 คน เป็นชายและหญิง อายุประมาณ 50 ปี โดยผู้ชายแต่งตัวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล็กสีน้ำตาล  ผู้หญิงสวมเสื้อตัวยาวกางเกงขายาว เจาะจมูก เจาะหู และบริเวณกลางหน้าผากมีจุดสีแดง ทั้งคู่ผิวดำ พูดจากันเป็นคล้ายภาษาอินเดียหรือแขก ซึ่งตนเองฟังไม่เข้าใจ ได้เข้ามาซื้อขนมเค้กที่ร้าน ได้เปิดตู้เย็นหยิบเค้กออกมา 2 ชิ้น มาวางหน้าเคาท์เตอร์ ตนจึงแจ้งกดเครื่องคิดเลขให้ดูว่าราคา 90 บาท  ซึ่งทางฝ่ายชายยืนอยู่ด้านหน้าเคาท์เตอร์ แต่ฝ่ายหญิงได้เดินเข้ามาด้านในและอยู่ประชิดตัวของตนเอง ซึ่งขณะนั้นตนก็พยายามยืนบังลิ้นชักเก็บเงินไว้ ทางแขกทั้งสองคนได้ยื่นธนบัตรใบละ 1,000 บาทให้ เมื่อตนจะทอนเงิน 910 บาท กลับบอกว่าไม่เอาเป็นภาษาอังกฤษและใช้สัญญาณมือบอก และพูดจาขอต่อราคา แต่ยืนยันว่าลดให้ไม่ได้ ทั้งสองจึงได้ขอเงินคืน ตนจึงได้คืนให้และเก็บเงินทอนใส่ลิ้นชัก  ทั้งสองคนก็ยังพยายามพูดจาโวยวาย และหว่านล้อม ในตอนนั้นรู้สึกมึนงงมากเพราะพูดจากันไม่รู้เรื่องเลย จนทำให้ลืมไปว่าได้คืนเงินให้เขาไปแล้ว จึงได้หยิบเงินทอนที่เตรียมไว้ให้เขาไป เมื่อได้เงินทั้งสองก็รีบเดินออกไปจากร้านทันที ใช้เวลายืนคุยกันในร้านไม่ถึง 5 นาที เมื่อตั้งสติได้จึงมาเปิดดูเงินในลิ้นชัก ก็พบว่าเงินหายไปจึงรู้ตัวแล้วว่าโดนมิจฉาชีพหลอกเสียแล้ว จึงได้เดินออกไปสอบถามร้านใกล้เคียงก็พบว่าร้านผลไม้และร้านเครื่องสำอาง ฝั่งตรงข้ามเจอมาเหมือนกัน โดยแขกทั้งสองได้เข้าไปซื้อของและใช้ธนบัตรใบละ 1,000 จ่ายเหมือนกัน แต่เขาไม่มีเงินทอน แขกสองคนจึงเดินมาเข้าร้านเค้กของตน และได้เงินไปในที่สุด
           
นางแสงจันทร์ โพธิ์ทวี เจ้าของร้านผลไม้  เล่าว่า เห็นแขกทั้งสองคนขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าวีออส สีบอร์นทอง มาจอดริมถนนฝั่งตรงข้าม และได้เดินมาที่ร้านของตน แต่ฝ่ายหญิงได้เดินอ้อมเข้ามาด้านใน มายืนใกล้ๆกับกล่องเงิน  โดยมาเลือกซื้อผลไม้เหี่ยวๆที่เก็บไว้ด้านหลัง ทั้งที่ผลไม้สดใหญ่วางอยู่ด้าน ผิดปกติของลูกค้าเพราะเวลามาเลือกผลไม้ก็ต้องเลือกจากด้านหน้าร้าน ตนก็ยังคิดเอะใจอยู่ว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้ติดตามข่าวว่ามีแก๊งแขกอาละวาดในเขต อ.ห้างฉัตร เมื่อซื้อผลไม้ในราคา 60 บาท ก็ได้ยื่นธนบัตรใบละ 1,000 ให้ตน แต่เห็นท่าไม่ดีเพราะมีพฤติกรรมแปลกจึงบอกว่าไม่มีเงินทอน ทั้งที่จริงๆแล้วตนก็มีเงินทอนที่เก็บอยู่ในลิ้นชักล็อกไว้  เมื่อเห็นว่าตนปฏิเสธจึงไม่เอาของและเดินออกร้านไป ที่ร้านเครื่องสำอางที่อยู่ข้างๆ  ทราบว่าเขาไปซื้อตุ้มหาราคา 40 บาท และให้ธนบัตรใบละ 1,000 บาท เหมือนกัน แต่ทางร้านปฏิเสธจึงเดินต่อไปที่ร้านเค้ก และได้เงินจากร้านเค้กไป ก่อนที่ฝ่ายชายจะเดินกลับมาเอารถ และขับไปรับฝ่ายหญิงที่รออยู่ด้านหน้าห่างออกไป ตอนนั้นแฟนตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเห็นท่าไม่ดีจึงได้แจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ แต่ทั้งสองคนก็ได้ขับรถออกไปก่อนแล้ว  
           
ด้าน พ.ต.ต.ประสิทธิ์ หล้าสมศรี  สว.สส.สภ.เมืองลำปาง  เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด แต่ทาง พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ ผกก.สภ.เมืองลำปาง ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สืบหาข้อมูลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากทราบข้อมูลว่าแก๊งแขกเหล่านี้ได้ก่อเหตุหลายครั้งในพื้นที่ จ.ลำปาง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าพบเจ้าของร้านเค้กผู้เสียหาย สอบถามรูปพรรณสัณฐานของแขกทั้งสองคน พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากร้านใกล้เคียงแล้ว เพื่อจะได้สเกตภาพแจ้งเตือนไปยังประชาชนอย่าหลงเชื่อ  และหากพบว่ามีบุคคลชาวต่างชาติเข้ามาในลักษณะนี้ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1028   วันที่  15  21  พฤษภาคม  2558)

Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์