กิตติภูมิเดินหน้าลุยนำสายเคเบิลลงดิน ตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ ร่วมมือกับ กฟภ.แห่งประเทศไทย เลือกถนนบุญวาทย์นำร่องระยะทาง 1.46 กิโลเมตร งบประมาณกว่า 120 ล้านบาท เทศบาลจ่ายเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ อีกส่วน กฟภ.สนับสนุนงบ เตรียมรับฟังความคิดเห็นประชาชนวันที่ 25 ส.ค.นี้ เพื่อนำเข้าแผนงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2559
นายกิตติภูมิ นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง เปิดเผยว่า เทศบาลนครลำปางจะดำเนินการก่อสร้าง โครงการก่อสร้างปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นแบบเคเบิลใต้ดิน บริเวณถนนบุญวาทย์) ซึ่งเป็นโครงการที่เทศบาลนครลำปาง ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยการนำสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ และสายสื่อสารต่างๆ ลงใต้ดิน พร้อมออกแบบเสาไฟฟ้าและแสงสว่างแบบไร้สาย เพื่อให้ความสวยงามของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของนครลำปางบริเวณถนนบุญวาทย์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่นำเข้าสู่เขตเมืองเก่าปรากฏแก่สายตาของผู้มาเยือน
เหตุที่เลือกถนนบุญวาทย์ เนื่องจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการสำรวจถนนสายต่างๆในเขตเทศบาลนครลำปาง และพบว่าถนนบุญวาทย์เป็นย่านเศรษฐกิจที่เหมาะสมจะใช้เป็นถนนนำร่องในการดำเนินการดังกล่าว และเป็นศูนย์กลางที่เข้าไปสู่ตัวเมืองลำปาง ความยาวประมาณ 1,460 เมตร ตั้งแต่บริเวณข่วงนคร ถึงแยกถนนช้างเผือก ต.สวนดอก หรือแยกวัดป่าดั๊วะ โดยงบประมาณดำเนินการแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ เทศบาลรับผิดชอบ 40 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 31 ล้านบาท อีกส่วนจะเป็นงบที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสนับสนุนมาอีก 60 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 80 ล้านบาท โครงการนี้รวมแล้วคาดว่าใช้งบประมาณ 120 ล้านบาท เป็นความโชคดีของคนลำปางที่สามารถประสานงานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทยได้สำเร็จ และได้งบประมาณในส่วนนี้มา เราถือว่าเป็นเทศบาลอันดับท้ายๆที่ทำเรื่องการนำสายไฟลงใต้ดิน ซึ่งหลายจังหวัดมีการทำมาหลายแห่งแล้ว เบื้องต้นที่ได้คุยกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตั้งใจไว้ว่าจะทำโครงการร่วมกันทำให้ได้ปีละ 1 เส้นทาง เตรียมการไว้ 7 ปี
นายกเทศมนตรี กล่าวต่อไปว่า การดำเนินการเรื่องนี้ ไม่ได้มีการทำประชาพิจารณ์ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยและต้องการให้มีระบบระเบียบในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เพื่อเป็นการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เปิดโอกาสการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนเป็นสำคัญ เทศบาลจะจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งสองฝั่งของถนนในวันที่ 25 ส.ค. 58 นี้ เพื่อเตรียมจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าประชุมสภา ตั้งเป็นงบประมาณประจำปี 2559
สำหรับการดำเนินการดังกล่าว อาจจะมีผลกระทบต่อประชาชนในระหว่างการก่อสร้าง เช่น ฝุ่นละออง เสียง และความสั่นสะเทือนที่เกิดจากการทำงานของเครื่องจักร เครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ น้ำเสียจากกิจกรรมการก่อสร้างปัญหาสภาพการจราจรบริเวณพื้นที่โครงการ ซึ่งได้มีมาตรการป้องกันผลกระทบในระหว่างการก่อสร้างไว้ในเบื้องต้น โดยจัดให้มีผ้าใบปิดคลุมกระบะรถที่ขนส่งวัสดุก่อสร้างให้มิดชิดตลอดเส้นทางการขนส่ง กำหนดเวลาและจำกัดความเร็วของรถบรรทุกวัสดุที่เข้า-ออกพื้นที่โครงการ ฉีดพรมน้ำเป็นระยะ ตรวจสอบเครื่องมือเครื่องจักรและยานพาหนะเพื่อลดเขม่าหรือควันจากท่อไอเสีย จัดทำป้ายหรือสัญลักษณ์แสดงเขตการก่อสร้าง ติดตั้งป้ายแสดงทิศทางเดินรถ/ควบคุมการจราจรบริเวณเข้า-ออกพื้นที่โครงการ และจัดให้มีไฟฟ้าส่องสว่างทางจราจรให้เพียงพอ เพื่อหลีกเลี่ยงให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด นายกเทศมนตรี กล่าว.
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1042 วันที่ 21 - 27 สิงหาคม 2558)