โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เริ่มส่งกลิ่น หลายคนโผล่เป็นสมาชิกโดยไม่รู้ตัว ข้องใจวิธีการสมัครต้องใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน แต่กลับมีชื่อทั้งที่ไม่ได้สมัครเอง แม้กระทั่งชื่อคนตาย คนต่างศาสนาก็ยังมี ผู้ถูกอ้างชื่อรู้สึกไม่ปลอดภัยในข้อมูลส่วนตัว หลังถูกนำเลขบัตรประชาชนไปสมัครเข้าร่วมโครงการ เกรงจะมีผลกระทบตามมาในเรื่องอื่นๆได้ แหล่งข่าวระบุ ใช้ข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ ขณะที่รองเจ้าคณะจังหวัดเผยมติมหาเถรสมาคมต้องมียอดผู้สมัคร 50 เปอร์เซ็นต์ภายในเดือน ก.ย.58
-วัตถุประสงค์บ้านศีล 5
โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ได้ถือกำเนิดขึ้น เพื่อเสริมสร้างและสมานฉันท์ของคนในชาติ ให้เกิดความสงบ สันติสุข มีความสามัคคีกลมเกลียวกัน สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักศีล 5 มาประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับคณะสงฆ์ หน่วยงานราชการ สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรเครือข่ายชาวพุทธ ได้ขับเคลื่อนโครงการเพื่อสนับสนุนนโยบายดังกล่าว ซึ่งวิธีการดำเนินการให้วัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือประธานชุมชนเปิดรับสมัครประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ หากมีประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่ 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ให้แจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นหมู่บ้านรักษาศีล 5 หมู่บ้านที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว สามารถขอรับแผ่นป้ายไม้หมู่บ้านรักษาศีล 5 เพื่อติดตั้ง ณ หมู่บ้านของตน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา
-ร้องเรียนชื่อโผล่
ในเรื่องดังกล่าว ลานนาโพสต์ได้รับการร้องเรียนว่า ผู้ที่มีชื่อเป็นสมาชิกของโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ของ จ.ลำปาง ไม่เคยสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว แต่กลับมีชื่อเป็นสมาชิกได้อย่างไร และมีชื่อของบุคคลในครอบครัวทุกคนทั้งที่ไม่เคยสมัครเข้าร่วมโครงการเช่นกัน ซึ่งการสมัครเข้าเป็นสมาชิกนั้น อันดับแรกต้องมีการกรอกข้อมูลเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักเข้าไปก่อน จึงจะสามารถกรอกรายละเอียดอื่นๆได้ ในเมื่อผู้ที่มีชื่อไม่ได้เป็นผู้สมัครเอง จึงเป็นข้อสงสัยว่าการนำเลขประจำตัวประชาชานซึ่งเป็นสิทธิส่วนบุคคลเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกได้อย่างไร
-ชื่อคนตายก็มี
ชาวบ้านรายหนึ่งเป็นชาย อายุ 50 ปี ราษฎรบ้านหนองห้าตะวันตก หมู่ 10 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ตนเองได้รับทราบว่ามีการอ้างชื่อเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกหมู่บ้านรักษาศีล 5 จึงได้เข้าไปตรวจสอบรายชื่อทางเว็บไซด์ ก็ปรากฏว่ามีชื่อของตนร่วมเป็นสมาชิกด้วย ทั้งที่ไม่เคยเข้าไปสมัครแต่อย่างใด นอกจากนั้นยังได้ตรวจสอบรายชื่อญาติพี่น้องคนอื่นๆในหมู่บ้าน ก็พบว่ามีรายชื่อเกือบทุกคนโดยที่เจ้าตัวไม่ได้เป็นคนสมัครเช่นกัน และที่แย่ไปกว่านั้นคือ มีชื่อของพ่อตาของตนเองที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อต้นปี 57 เป็นสมาชิกอยู่ด้วย ซึ่งการกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เป็นการขโมยข้อมูลส่วนตัวของบุคคล เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่นำเลขบัตรประชาชน 13 หลักเข้าไปสมัครโดยที่เจ้าตัวไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลย
-ข้อมูลส่วนตัวไม่ปลอดภัย
ชายคนนี้ยังกล่าวอีกว่า การเป็นสมาชิกหมู่บ้านศีล 5 อาจจะไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่การนำหลักฐานของผู้อื่นเข้าไปสมัครโดยพลการ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของการทุจริตซึ่งอาจจะเป็นผลไปสู่การทุจริตอื่นๆได้ หากผู้ที่มีข้อมูลเลขบัตรประชาชนของเราแล้วเอาไปทำการทุจริต และคดโกงในเรื่องอื่นโดยที่เราไม่รู้จะทำอย่างไร ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ ตอนนี้รู้สึกว่ามีความไม่ปลอดภัยในข้อมูลส่วนตัว ทั้งที่เลขประจำตัวประชาชนเป็นเลขที่สำคัญยังนำไปทำเช่นนี้ได้เลย
-นับถือคริสต์มีชื่อโผล่ด้วย
แหล่งข่าวอีกรายหนึ่ง เป็นราษฎรบ้านศรีบุญเรือง ต.สบตุ๋ย อ.เมือง เปิดเผยว่า ตนและภรรยานับถือศาสนาคริสต์มาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อตรวจสอบรายชื่อแล้วกลับพบว่ามีรายชื่อเป็นสมาชิกหมู่บ้านรักษาศีล 5 ด้วย รู้สึกแปลกใจมาก เพราะตนไม่ได้เป็นผู้สมัครเองอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าการทำเช่นนี้ผู้ทำต้องการอะไร จะเป็นการเพิ่มยอดผู้สมัครให้มากขึ้นใช่หรือไม่ จึงได้นำรายชื่อของผู้อื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ยินยอมไปสมัครตรงนี้
-โดนทั้งหมู่บ้าน
ราษฎรบ้านหนองปล้อง หมู่ 5 ต.พระบาท ผู้มีชื่อเป็นสมาชิกอีกรายหนึ่ง กล่าวเช่นเดียวกันว่า รู้สึกงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนแรกที่มีคนมาสอบถามว่าตนเองได้สมัครเป็นสมาชิกหมู่บ้านรักษาศีล 5 หรือไม่ ก็บอกไปว่าไม่เคยสมัครเลย และไม่รู้เรื่องด้วยว่าคืออะไร เมื่อทราบเรื่องจึงเข้าไปตรวจสอบรายชื่อทางเว็บไซด์ ปรากฏว่ามีชื่อคนเกือบทั้งหมู่บ้านเป็นสมาชิก มีทั้งผู้สูงอายุวัย 80 ปี เชื่อแน่ว่าไม่สามารถเข้าสมัครเองได้แน่ๆ ซึ่งตนติดใจในการสมัครว่าทำไมไม่มีการมาสอบถามชาวบ้านก่อน การเข้าร่วมเป็นสมาชิกหมู่บ้านรักษาศีล 5 ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ชาวบ้านให้ความร่วมมืออยู่แล้ว แต่การทำแบบนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ตนเองเตรียมที่จะเข้าไปสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้
-ยกเลิกสมัครได้
ลานนาโพสต์ได้สอบถามไปยังนายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง กล่าวว่า การสมัครเข้าร่วมโครงการสามารถทำได้หลายช่องทาง คือ การสมัครด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซด์ แต่ถ้าเป็นคนเฒ่าคนแก่ที่ไม่สะดวกจะสมัครเอง สามารถแจ้งรายชื่อทางผู้นำชุมชน หรือที่วัด ให้นำข้อมูลไปสมัคร โดยจะต้องกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักด้วย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่มีคนแจ้งว่าไม่ได้สมัครแต่มีชื่อเป็นสมาชิก นายอุบลพันธ์ กล่าวว่า อาจจะเป็นลูกหลานที่มาชวนพ่อแม่ไปสมัคร เนื่องจากได้มีการรณรงค์ผ่านไปยังสถานศึกษาด้วย หรือไม่เช่นนั้นก็มีบุคคลในบ้านเรือนเดียวกันไปสมัครให้ก็ได้ และหากว่ามีชื่อเป็นสมาชิกฯแต่ต้องการจะยกเลิกก็สามารถทำได้เช่นกัน
-ลงพื้นที่เพิ่มยอด
ส่วนกรณีการปั่นยอดสมัครให้เพิ่มขึ้นนาย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด กล่าวว่า มีการทำยอดในทุกจังหวัด ซึ่งที่ จ.ลำปางก็มีการระดมประชาชนให้มาสมัคร โดยวิธีการประชาสัมพันธ์ ซึ่งตนเองก็ ได้ลงพื้นที่แต่ละอำเภอเพื่อแจ้งให้ชาวบ้านทราบเกี่ยวกับโครงการรักษาศีล 5 กรณีที่หลายคนเกรงว่าจะมีการนำฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์มานั้น ไม่สามารถทำได้ เพราะทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ นายอำเภอ ไม่ยินยอมและไม่สนับสนุนให้ทำเช่นนี้อยู่แล้ว
-เชื่อว่ากระบวนการไม่ถูกต้อง
ขณะที่พระสงฆ์รูปหนึ่ง จำวัดอยู่ อ.แม่ทะ ระบุว่า พบว่ามีการนำข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์มาสมัคร จึงมีข้อสงสัยจากสิ่งที่พบเห็นว่าเหตุใดในกลุ่มพระสงฆ์ไม่ได้มองถึงความถูกต้อง เพียงแต่ทำตามคำสั่งจากเบื้องบน ซึ่งกระบวนการไม่ถูกต้องตั้งแต่แรกเห็น เชื่อว่าการขับเคลื่อนโครงการมีการวางแผนมาแล้ว แต่คงไม่ทันใจ สายงานสงฆ์ไม่ต่างจากสายงานราชการ ที่เจ้านายสั่งลูกน้องต้องปฏิบัติตาม โดยไม่มองในมุมกว้าง ไม่มองถึงผลกระทบต่อส่วนรวม ชุมชน หลักการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างถูกต้อง ด้วยจิตสำนึกแล้วควรทำให้ถูกต้อง เพราะเรื่องอาจจะบานปลายถ้ามีผู้เสียหาย พระเป็นผู้ทรงศีล แต่กลับผิดศีลธรรมเบื้องต้นต่อการละเมิดสิทธิเอง
-ลำปางอันดับ 4 ของประเทศ
พระจินดารัตนาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ข้อมูลยอดผู้สมัครเป็นสมาชิกหมู่บ้านรักษาศีล 5 ของ จ.ลำปาง ณ วันที่ 6 ส.ค.58 จ.ลำปางมีผู้สมัครมากที่สุดอยู่อันดับที่ 4 ของประเทศ มีผู้สมัครแล้ว 409,652 คน คิดเป็น 55 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด ตามมติของมหาเถรสมาคมกำหนดว่าภายในวันที่ 30 ก.ย. 58 นี้จะต้องให้ได้ยอด 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในแต่ละจังหวัด โครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2557 ทางจังหวัดได้ให้ความสำคัญเรื่องศีล 5 มหาเถรสมาคมให้ทุกจังหวัดถือปฏิบัติ โดยมีการประชุมในระดับอำเภอ มีพระสงฆ์ให้ความรู้ความสำคัญเกี่ยวกับศีล 5 การปฏิบัติตามศีล 5 ได้อะไรบ้าง เป็นพื้นฐานของชีวิต หากผิดศีลข้อใดข้อหนึ่งก็จะทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน พร้อมกับประสานกับทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้แจ้งโครงการให้ทางชาวบ้านทราบ เมื่อยอดครบ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ก็ต้องไปดำเนินการต่อในเรื่องของคุณภาพ โดยรอรับนโยบายจากมหาเถรสมาคมอีกครั้ง
-ยันข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์
ทั้งนี้ แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ระบุว่า ยอดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น เป็นการเพิ่มข้อมูลจากฐานประชากรข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ซึ่งประชาชนบางส่วนทราบเรื่อง และบางส่วนไม่ทราบก็มี ซึ่งใช้ฐานจากผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ โดยไม่ถือว่าเป็นความผิดอะไร เพราะการรักษาศีล 5 เป็นสิ่งที่ดี ก่อนที่จะมีการนำข้อมูลมาใช้ได้มีการพูดคุยกันว่าการที่จะเอาข้อมูลไปใช้ในที่ต่างๆ ต้องมีสำเนาถูกต้อง ลายเซ็นรับรอง และระบุว่าใช้เพื่อการอะไร แต่เลข 13 หลัก ใช้ในทางธุรกรรมไม่ได้ จึงนำข้อมูลมาใช้ทำยอดให้ได้ตามเป้า ซึ่งมีการเร่งทำยอดจริง เป็นการเร่งรัดให้พระสงฆ์ตื่นตัวในการทำงาน ต่อไปจะมีการพัฒนาด้านคุณภาพต่อไป และกรณีที่มีชื่อผู้เสียชีวิตและต่างศาสนานั้น เพราะเป็นการเอาข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ ข้อมูลอาจจะไม่อัพเดท ซึ่งการทำยอดเป็นเรื่องที่พระสงฆ์จะแจ้งให้แต่ละชุมชนทราบทราบ รวมทั้งในส่วนของผู้นำชุมชนเองก็ต้องแจ้งให้ชาวบ้านทราบว่ามีการนำข้อมูลไปสมัครเข้าร่วมโครงการ แต่อาจเป็นเพราะผู้นำชุมชนไม่แจ้งให้ทราบ จึงมีการสอบถามว่ามีชื่อสมัครเป็นสมาชิกได้อย่างไร