ผู้ว่าฯ ทุ่ม 1 ล้านปรับปรุงระบบไฟ “ถ้ำผาไท” หนึ่งเดียวในสยามให้สวยที่สุด เร่งสำรวจ“หล่มภูเขียว”อันซีนลำปาง ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นอายุมากกว่า 280 ล้านปี สั่งปรับปรุงถนน ป้ายบอกทาง ห้องน้ำ เตรียมรับนักท่องเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 58 นายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.ลำปาง พร้อมหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยว “ถ้ำผาไท” และ "หล่มภูเขียว" ซึ่งถือว่าเป็น อันซีนลำปาง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เขตบ้านอ้อนหัวทุ่ง หมู่ 6 ต.บ้านอ้อน อ.งาว จ.ลำปาง โดยมีนายพีระเมศร์ ตื้อตันสกุล อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท พร้อมผู้นำท้องถิ่นนำสำรวจ และนำแผนโครงการการพัฒนาหล่มภูเขียวเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ซึ่งในเบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางพร้อมสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนา
โดยเบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 1 ล้านบาทในการติดตั้งระบบไฟในถ้ำผาไทให้สว่างขึ้น สะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยว ส่วนหล่มภูเขียวจะเน้นการปรับปรุงถนนทางเข้าจากปากทางไปยังหล่มภูเขียวซึ่งปัจจุบันยังเป็นดินและฝุ่น ฤดูฝนถนนลื่นไม่สามารถเข้าไปได้ โดยทางพื้นที่เสนอทำเป็นถนนลูกรังบดอัด ขนาดกว้าง 4 เมตรระยะทาง 4.5 กิโลเมตร รวมทั้งปรับทัศนียภาพบริเวณลานจอดรถยนต์ พื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าของชาวบ้าน ห้องน้ำ พื้นผิวทางเดินเท้าและเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว
นายสามารถ ลอยฟ้า กล่าวว่า ถ้ำผาไทถือว่าเป็นสุดยอดถ้ำแห่งเดียวในสยาม ซึ่ง รัชกาลที่ 7 เคยเสด็จประภาสมาที่แห่งนี้ แต่มีขีดจำกัดคือ ไม่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้เต็มรูปแบบ เนื่องจากไม่มีไฟฟ้า จังหวัดเราถือว่าถ้ำผาไทเป็นจุดสำคัญในการขายการท่องเที่ยว และเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาที่ถ้ำผาไทแห่งนี้ เบื้องต้นจะจัดหางบประมาณมาสนับสนุน 1 ล้านบาท ในการจัดระบบไฟให้สวยงาม ถ้าทำแล้วจะสวยไม่แพ้ต่างประเทศแน่นอน จังหวัดจะนำเรื่องนี้เข้าไปพิจารณาให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด
ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวต่อไปว่า หล่มภูเขียวถือว่าเป็นสถานที่สำคัญ สามารถประชาสัมพันธ์เป็นแห่งท่องเที่ยวของจังหวัดลำปางได้ หากค้นหาคำว่าอันซีนลำปางในกูเกิล จะมีหล่มภูเขียวขึ้นมาทันที ทางจังหวัดเองก็จะพัฒนาพื้นที่ให้เพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ถนนหนทาง ป้ายบอกทาง ห้องน้ำ สถานที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว และปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ ซึ่งจะต้องหารือกับนายอำเภอ หัวหน้าอุทยานถ้ำผาไท นายก อบต. กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ แต่ในเบื้องต้นจะปรับปรุงถนนก่อน และทำป้ายบอกทางให้ชัดเจนมากขึ้น โดยจะมีการประชุมหารือกันเร็วๆนี้ เพื่อพร้อมรับนักท่องเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่จะถึงนี้
สำหรับ "หล่มภูเขียว" มีประวัติความเป็นมายาวนานหลายร้อยล้านปี เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ประมาณ 2 ไร่ อยู่กลางป่าดิบแล้งล้อมรอบไปด้วยผาหินปูนสูงชัน มีความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่โดยรอบ บรรยากาศเงียบสงบ ผิวน้ำในแอ่งสีเขียวมรกตคล้ายโอเอซิส ลึกจนไม่สามารถหยั่งถึง สันนิษฐานว่า หล่มภูเขียวเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกในสมัยดึกดำบรรพ์ หรืออาจเกิดจากการยุบตัวของหินปูนซึ่งเคยเป็นเพดานถ้ำมาก่อน แล้วจมลงใต้น้ำ เรียกว่าหลุมยุบ (Sink Hole) คาดว่ามีอายุกว่า 280 ล้านปี ต่อมาจึงกลายเป็นแหล่งรับน้ำ ความลึกไม่สามารถหยังถึงเนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีการนำไม้ปักลงไปแต่ก็ไม่ถึงพื้นดิน อีกทั้งไม่มีใครกล้าพอที่จะลงไปวัดความลึกของน้ำใน จึงไม่สามารถวัดความลึกของแอ่งน้ำแห่งนี้ได้
แอ่งน้ำแห่งนี้ชาวบ้านได้เล่าสืบต่อกันมาว่าเป็นแอ่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถนำไปรักษาผู้ป่วยให้หายได้ และหากมีงานประเพณีชาวบ้านก็จะนำน้ำจากแอ่งนี้ไปใช้ในการทำน้ำพระพุทธมนต์ ชาวบ้านจะไม่ลงไปเล่นน้ำเพราะเชื่อว่าเป็นแอ่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ แต่จะมีชาวบ้านนำปลาหลากชนิดมาปล่อยจนมีตัวขนาดใหญ่ และจะไม่มีใครนำปลาในแอ่งนี้ไปรับประทาน เพราะเชื่อว่าหากใครมานำปลาไปรับประทานก็จะเกิดเภทภัยขึ้น และไม่อนุญาตให้มีการให้อาหารปลาในแอ่งแห่งนี้
นอกจากนี้สิ่งที่มหัศจรรย์ที่ชาวบ้านได้พบยังมีอีกหลายเหตุการณ์ อาทิ การบนบานศาลกล่าว ชาวบ้านเคยนำเทียนมาจุดบนแพลอยไปบนผิวน้ำอยู่ๆแพได้จมลงไปชั่วครู่แพก็โผล่ขึ้นมา แต่เทียนที่จุดยังคงมีไฟอยู่ ซึ่งก็สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก และอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ที่ชาวบ้านยังหาคำตอบไม่ได้คือ บริเวณโดยรอบแอ่งน้ำจะมีต้นไม้น้อยใหญ่ล้อมรอบทุกวันจะมีใบไม้หล่นลงมาจนเต็ม แต่ปรากฏว่าทุกเช้าใบไม้เหล่านั้นจะหายไปหมด น้ำจะใสเขียวจนเห็นตัวปลา ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าหากใบไม้ที่ตกทับถมกันและจมอยู่ก้นแอ่งน้ำหลายร้อยปี และน้ำไม่หมุนเวียนแอ่งน้ำแห่งนี้น่าจะเน่าเสียไปแล้ว จึงเชื่อว่าแอ่งน้ำแห่งนี้มีเจ้าพ่อหล่มภูเขียวคอยปกปักรักษาและดูแล ชาวบ้านจึงได้ตั้งศาลไว้ด้านบนแอ่งน้ำแห่งนี้เพื่อให้ชาวบ้านได้มาสักการะ และทุกปีชาวบ้านจะมีการจัดพิธีบูชาน้ำ เพราะเชื่อว่าในแอ่งน้ำมีพญางูใหญ่อาศัยอยู่
สำหรับเส้นทางเข้าไปยังถ้ำผาไท เดินทางตามเส้นทางหลักไปยังอำเภองาว เป็นเส้นทางจากตัวจังหวัดลำปาง-พะเยา-เชียงราย ห่างจากตัวจังหวัดลำปางมาทางจังหวัดพะเยา ประมาณ 65 กิโลเมตร อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 665-666 จะเห็นป้ายอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ต่อจากนั้นเลี้ยวเข้าปากทางประมาณ 300 เมตร ก็ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ส่วนหล่มภูเขียว จะเลี้ยวซ้ายเข้าไปทางตำบลบ้านอ้อน ประมาณ 7 กิโลเมตร เลี้ยวเข้าทางน้ำตกแม่แก้ไปทางหล่มภูเขียวด้วยเส้นทางดินแดงประมาณ 4.5 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางจะมีป้ายขนาดเล็กบอกเส้นทางจนถึงหล่มภูเขียว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1054 วันที่ 13 - 19 พฤศจิกายน 2558)
