ผู้ว่าฯสั่งทุบเตาเผาถ่าน 20 เตา ที่ทำผิดกฎหมายและไม่ให้ความร่วมมือ กำหนดมาตรการ ซื้อขายไม้เผาถ่านต้องมีใบรับรองจากกำนันผู้ใหญ่บ้าน และลดการเผาในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. เพื่อลดหมอกควันในพื้นที่
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.58 นายมนตรี นาคถาวร นายอำเภอเกาะคา เป็นประธานในการนำเจ้าหน้าที่ทุบทำลายเตาถ่าน บ้านนาโป่งหาญ หมู่ 7 ต.ใหม่พัฒนา อ.เกาะคา จ.ลำปาง โดยการอำนวยการของนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ที่ได้สั่งการให้ ชุดทำทันที ลำปาง ประสาน ฝ่ายปกครอง อ.เกาะคา กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.ใหม่พัฒนา อ.เกาะคา เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อุทยานที่เกี่ยวข้อง ตำรวจ ทหาร เข้าดำเนินการทุบทำลายเตาถ่านในพื้นที่ หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบตัดไม้เผาถ่านอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ในพื้นที่บ้านนาโป่งหาญ หมู่ 7 พบว่าไม้ที่นำมาเผาเป็นไม้หวงห้ามทั้ง ไม้ประดู่ กระยาเลย และกระบก เชื่อว่าเป็นไม้ที่ลักลอบตัดจากป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ ป่าชุมชน ป่าธรรมชาติ และรับซื้อจากชาวบ้านที่เข้าไปลักลอบตัด ถือเป็นขบวนการตัดไม้ทำลายป่าที่รุนแรงที่สุด จึงสั่งให้ทีม ททท. ทำทันที ลงพื้นที่ตรวจสอบเตาเผาถ่านที่ทำผิดกฎหมาย พร้อมกับมีการสั่งการทุบทิ้งให้หมด เพราะเตาหนึ่งเตา เผาถ่านขายได้เงินมากกว่า 1 – 2 หมื่นบาท ส่งไปขายที่จังหวัดภาคเหนือเพื่อใช้ในการ้านหมูกระที่ใช้เตาถ่าน แต่เป็นการทำลายทรัพยากรป่าไม้ในจังหวัดลำปางย่อยยับ
ในครั้งนี้ ได้ทุบทำลายเตาเผาถ่านทั้งหมด 20 เตา จากทั้งหมด 167 เตา โดยก่อนหน้านี้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้มีการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯทั่วทั้งจังหวัดลำปาง โดยเน้นย้ำการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน 2 เรื่อง ที่มอบให้นายอำเภอ กำนันผู้ ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปดำเนินการอย่างจริงจัง ทั้งเรื่องยับยั้งการตัดไม้ทำลายป่า และแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากหมู่บ้านและตำบล และจากการพบปะผู้นำได้มีคำมั่นสัญญาร่วมกันที่จะขยายพื้นที่ป่าชุมชนให้มากที่สุด จากเดิมทั่วจังหวัดลำปางมีป่าชุมชน 238 แห่ง/หมู่บ้าน ในปีนี้ตั้งเป้าหมายทำให้ได้ 450 ป่าชุมชน/หมู่บ้าน เพราะหากปล่อยไว้ไม่ใช้ประโยชน์และไม่ดูแลเกรงจะมีกลุ่มนายทุนเข้ายึดครอง
ทั้งนี้ ก่อนที่จะเข้าไปทุบทำลายในครั้งนี้ ได้มีการประชุมทำประชาคมหมู่บ้าน และสร้างความเข้าใจและทำข้อตกลงแก่ผู้ประกอบการทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางจังหวัดจะมีประกาศกำหนดแนวทางควบคุมการตัดไม้ ขนไม้ เพื่อนำมาขายให้แก่ผู้ประกอบการเผาถ่าน จะต้องแจ้งกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ต้นทางรับรองด้วยว่าด้วยว่าซื้อไม้มาจากที่ใด ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้ลักลอบตัดออกมาจากป่า และมอบใบรับรองให้กับเจ้าของรถเพื่อยืนยันกับเจ้าหน้าที่เมื่อตรวจสอบทุกครั้ง หากไม่มีเอกสารรับรองจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที นอกจากนั้นยังได้มีการตกลงกันว่า ในช่วงเดือน ก.พ. ถึงเดือน เม.ย. ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ประสบปัญหามลพิษหมอกควันไฟป่า ราษฎร ต.ใหม่พัฒนา อ.เกาะคา จะลดการเผาถ่านในพื้นที่ เพื่อลดการเกิดปัญหามลพิษด้วย