วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558

จยย.ประกบฉกทอง 2 บาท


คนร้ายขี่ จยย.ตามประกบเหยื่อ ก่อนลงมือกระชากสร้อยคอทองคำหญิงชราวัย 70 ปี ที่ขี่มอเตอร์ไซค์กลับจากตลาดเมืองลำปางก่อนหนีไปได้อย่างลอยนวล  ผกก.สภ.เมืองลำปาง เผยสั่งสเกตซ์ภาพคนร้ายเพื่อหาเบาะแสอย่างใกล้ชิด

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ธ.ค. 58 เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ภูธรจังหวัดลำปาง ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายก่อเหตุดึงสร้อยคอทองคำของผู้เสียหาย บริเวณซอยข้างร้านแชมเปญจำหน่ายสุรา ถนนไปรษณีย์ ต.หัวเวียง อ.เมืองลำปาง ต่อมาทาง พ.ต.ท.สมควร เกตุเทศ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง  จึงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งออกตรวจสอบ กระทั่งพบผู้เสียหายทราบชื่อต่อมาคือนางลัดดา ซึมใส อายุ 70 ปี ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณ หน้าบ้านเลขที่ 33 เบื้องต้นให้การว่าถูกคนร้ายกระชากเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท มูลค่า 35,000 บาท ไปขณะยืนอยู่ที่หน้าบ้านของตนเอง แล้วหลบหนีไป

จากการสอบสวนนางลัดดา ผู้เสียหายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายลักษณะรูปร่างอ้วนท้วม สวมเสื้อสีดำ กางเกงสีดำ สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบปิดบังใบหน้าเอาไว้ ขับขี่รถจักรยายนต์ ไม่ทราบรุ่นและสี รวมทั้งหมายเลขทะเบียน ตามประกบตนเองมาจากตลาดหลักเมือง จนกระทั่งมาถึงบริเวณหน้าบ้าน ขณะที่ตนเองได้นำรถจอดหน้าบ้าน คนร้ายจึงฉวยโอกาสจอดประกบด้านข้าง และกระชากเอาสร้อยคอที่ตนสวมใส่อยู่ติดมือไปได้ทั้งเส้น ส่วนพระเสด็จพ่อ ร.5 เลี่ยมทองคำ ตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ

ส่วนตนเองได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณลำคอ และตนเองยังถูกรถจักรยายนต์ฮอนด้า ทะเบียน ขมค 526 ลำปาง ล้มทับอีกด้วย  โดยผู้เสียหายให้การเพิ่มเติมว่า ตนเองเพิ่งไปผ่าตัดที่บริเวณหัวเข่ามาไม่นาน และยังต้องใช้ไม้เท้าสามขาเพื่อช่วยพยุงในการเดินอยู่ แต่ยังคงต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตลาดเพื่อหาซื้ออาหารตามปกติ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมการเข้าออกบ้านของผู้เสียหายรายนี้มานานแล้ว เมื่อสบโอกาสจึงลงมือก่อเหตุในครั้งนี้

ด้าน  พ.ต.อ.นิคม เครือนพรัตน์ ผกก.สภ.เมืองลำปาง เปิดเผยว่า  หลังคนร้ายได้ลงมือก่อเหตุ ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง รุดไป สอบปากคำผู้เสียหายเพื่อ ที่จะหารายละเอียดคนร้ายให้ได้มากที่สุด แต่ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้สูงอายุและตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้นจึงจดจำคนร้ายได้เพียงเล็กน้อย ส่วนพยานหลักฐานด้านอื่นๆเช่นวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุ พบว่าไม่สามารถบันทึกภาพที่ชัดเจนของคนร้ายได้ เนื่องว่าเป็นช่วงเช้ามืด จึงไม่เห็นรถและลักษณะคนร้ายชัดเจน แต่ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ ออกสืบหาข่าวและพยายามหาภาพจากวงจรปิดในย่านอื่นๆมาประกอบกันอีกทั้งหาลักษณะรูปร่างใบหน้าคนร้ายให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะสเกตซ์ภาพคนร้ายออกให้ได้ใกล้เคียงที่สุด และนำไปเปรียบเทียบแฟ้มคดีประวัติคนร้ายที่เคยก่อเหตุมา เร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด คาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งแต่เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานกันอย่างเต็มที่ ส่วนมาตรการด้านความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน ได้กำชับเจ้าหน้าที่ ตำรวจสายตรวจ ประจำทุกแห่งให้ออกตรวจตรา พื้นที่แหล่งชุมชนและพื้นที่เสี่ยงอย่างเข้มข้นต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1058 วันที่ 11 - 17 ธันวาคม 2558)
Share:

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์