สืบสวนลำปางตามรวบตัวหนุ่มใหญ่ก่อเหตุกระชากสร้อยมาร่วม 1 ปี รวม 8 คดี อาศัยหาเหยื่อตามงานศพ เจ้าหน้าที่จึงไปดักรอจนจับกุมตัวได้ ผู้เสียหายมาชี้ตัว โมโหชกหน้าไปหนึ่งหมัด
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 13 ม.ค.59 ที่หน้ากองกำกับการสืบสวนภูธร จ.ลำปาง พ.ต.อ.กฤษดา พันธุ์เกษม ผกก.สส.ภ.จว.ลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุกระชากสร้อยในหลายพื้นที่ คือ นายเอกชัย เครืออรุณรัตน์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 423 หมู่ 6 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาเป็นเวลานานจึงติดตามจับกุมตัวไว้ได้
พ.ต.อ.กฤษดา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.58 ได้มีนางนุชนาฎ ใจละออ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229 หมู่ 2 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกคนร้ายขี่รถตามประกบและกระชากสร้อยคอทองคำหนัก หนัก 1 บาท ขณะที่ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากงานศพจะกลับบ้าน หลังรับแจ้งจึงได้ทำการสอบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณวัดบ่อแฮ้ว พบภาพคนร้ายรูปพรรณสัณฐานตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ คือ เป็นชายอายุประมาณ 40 ปี สวมแว่นตา สวมผ้าปิดจมูก ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีม สีแดง ไปจอดซุ่มรอเหยื่ออยู่ มีหมวกกันน็อคเต็มใบสีขาววางอยู่ที่ขา สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ ไปดักซุ่มรอเหยื่ออยู่ และจากการตรวจสอบยังพบว่าคนร้ายคนนี้ได้เกินสายก่อเหตุมาแล้วในหลายพื้นที่ โดยมักจะติดตามหาเหยื่อจากงานศพมาโดยตลอด ตั้งแต่เดือน พ.ย. 57 ทำมาแล้วประมาณ 8 ครั้ง ดังนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบข่าวว่า ที่หมู่บ้านลำปางกลางฝั่งตะวันออก หมู่ 11 ต.ชมพู มีงานศพ จึงไปซุ่มรอ เพราะเชื่อว่าคนร้ายมีพฤติกรรมเดิมจะต้องมาหาเหยื่อในงานศพ จนกระทั่งพบนายเอกชัย ผู้ต้องหาขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว พร้อมสวมแว่นตา ผ้าปิดจมูก เสื้อผ้าและรองเท้าที่สวมใส่เหมือนที่ได้ก่อเหตุทุกครั้ง จึงได้เข้าจับกุมตัว และจากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีมสีแดงที่ใช้ก่อเหตุ ก็พบว่าเป็นถูกขโมยมา และนำป้ายทะเบียนของรถคันอื่นมาติดแทน
พ.ต.อ.กฤษดา กล่าวอีกว่า สำหรับนายเอกชัย ผู้ต้องหาเป็นคนมีฐานะ มีรถยนต์ขับ มีสร้อยคอทองคำของตัวเอง แต่เหตุที่มาก่อเหตุ อาจเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวมากกว่า จึงฝากเตือนให้ผู้ที่มีทรัพย์สินเป็นสร้อย แหวน ทองคำ ให้ระมัดระวังตัวเองให้มาก
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1062 วันที่ 15 - 21 มกราคม 2559)