ซื้อที่ดินแพงถึงป.ป.ช.สมาชิกร้องออมทรัพย์ครู

เรื่องถึง ป.ป.ช. สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อง ซื้อที่ดินราคาแพงเกินเหตุ  ด้าน ผจก.สหกร์ฯเผย ไม่มีผลกับสมาชิก ยังได้รับเงินปันผลตามปกติ  ขณะที่อดีตประธานกรรมการฯ ยันซื้อที่ดินถูกระเบียบ ชี้แจงไปยัง ป.ป.ช.แล้ว

หลังจากเมื่อเดือน ม.ค.57  ลานนาโพสต์ได้นำเสนอข่าวสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปางจัดซื้อที่ดินทำเลทองย่านเศรษฐกิจเมืองลำปาง เนื้อที่ประมาณ 16  ไร่  ตั้งอยู่ติดกับห้างแมคโครลำปาง  ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์  กรุงเทพฯ-ลำปาง  ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง  มูลค่า 252 ล้านบาท เฉลี่ยราคาไร่ละ 16.8 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานใหม่และหอประชุมใหญ่ขนาดบรรจุ 1,500 คน ภายในจะมีอาคารสำนักงาน หอประชุม  บ้านพัก  ด้านหน้าจะทำเป็นโชว์รูมจำหน่ายสินค้า เพื่อให้สหกรณ์ต่างๆที่มีอยู่ในจังหวัด 170 กว่าสหกรณ์  รองรับการจอดรถได้ประมาณ 1,000 คัน   ลานนาโพสต์ จึงได้ติดตามความคืบหน้าในเรื่องที่ดินดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่าทางสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆกับที่ดินดังกล่าว ซึ่งยังคงปล่อยให้เป็นที่ดินรกร้างอยู่มานานถึง 2 ปี

นายสมศักดิ์ สลีวงค์ ผู้จัดการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง  จำกัด เปิดเผยว่า  การดำเนินการต่างๆเรื่องที่ดินของสหกรณ์ฯ ในตอนนี้ได้หยุดดำเนินการไว้ก่อน เนื่องจากได้มีสมาชิกได้ส่งหนังสือไปยังสหกรณ์จังหวัดกรณีการจัดซื้อที่ดินราคาแพง ซึ่งทางสหกรณ์จังหวัด ได้สอบถามข้อเท็จจริง  และแจ้งให้เราหยุดกิจกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวกับที่ดินไว้ก่อน ขณะเดียวกันสมาชิกมีหนังสือถึง ป.ป.ช. ตอนนี้เรื่องยังอยู่ที่ ป.ป.ช.  เป็นหน่วยงานที่เหนือกว่าจึงไม่กล้าทำอะไร ต้องรอฟังผล

สำหรับเรื่องที่เป็นห่วงว่าจะมีผลกระทบกับสมาชิกนั้น กรณีเงินที่ใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ กับเงินปันผลของสมาชิกนั้น เป็นคนละส่วนกัน ดังนั้นทางสมาชิกจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งสิ้น  ในปี 58 ที่ผ่านมา สหกรณ์ได้กำไรประมาณ  200 ล้านบาท  เงินจำนวนนี้ก็เอามาบริหารจัดการภายใน รวมทั้งจ่ายเงินกู้ด้วย

“สหกรณ์มีวงเงินกู้ปีละ 3,000 ล้านบาท เมื่อดำเนินธุรกิจมีกำไร ก็นำเงินในส่วนนี้ไปจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ ไม่ได้กระทบอะไรกับสมาชิกเลย   ในทางตรงข้ามสมาชิกได้ประโยชน์จากการบริหารธุรกรรมทางการเงินสูงมากขึ้นด้วย ปีนี้เราสามารถปันผลให้กับสมาชิกได้ถึงร้อยละ 6.15  สมาชิกที่กู้เงินเฉลี่ยคืนให้ได้ถึง 11.50 บาท เทียบกับสหกรณ์ทั่วภาคเหนือ ทั้งเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนสหกรณ์เรามากกว่าที่อื่น  เป็นส่วนหนึ่งที่สมาชิกมีวินัยในการส่งเงิน  แต่ในขณะเดียวกันก็มีจุดเสียบ้าง  ซึ่งก็ต้องติดตามกัน  การดำเนินการธุรกิจเรายังสามารถที่จะดูแลเรื่องลูกหนี้ NPL ของเราได้ดีอยู่ มีปัญหาลูกหนี้เพียง 0.29 เปอร์เซ็นต์ จากสมาชิก 9,000 กว่าคน” ผู้จัดการ สหกรณ์ฯ กล่าว  

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่มีสมาชิกสอบถามเรื่องที่ดิน ในการประชุมใหญ่  นายสมศักดิ์  กล่าวว่า  เราตอบอะไรไม่ได้มาก เนื่องจากเรื่องอยู่ในขั้นตอนของ ป.ป.ช.  ต้องให้ทาง ป.ป.ช.ตัดสินมาก่อน ว่ามีความผิดหรือไม่ ถ้าผิดพลาดตรงจุดไหนจึงจะสามารถดำเนินการได้   ซึ่งก็อยู่ระหว่างการสอบสวน  แต่ไม่ได้มีการเรียกคณะกรรมการชุดปัจจุบันไปสอบถาม คงเป็นเพราะเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงของคณะกรรมการชุดที่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับชุดปัจจุบัน    ซึ่งทางเราก็ไม่ทราบว่าเป็นใครเป็นผู้ร้อง   เพราะสมาชิกไม่ได้แสดงตัวตน เพียงแต่ทำหนังสือสนเท่ส่งมา  อีกประการหนึ่งเราก็ไม่สามารถไปชี้ชัดได้ว่าที่ดินดังกล่าวแพงหรือไม่แพง  ถูกระเบียบหรือไม่ อย่างไรก็ต้องรอหน่วยงานที่ตรวจสอบตอบกลับมา

ผู้จัดการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู กล่าวอีกว่า สมาชิกให้ความเชื่อมั่นสหกรณ์ค่อนข้างสูง  เพราะสมาชิกไม่ได้เสียประโยชน์อะไรเลย  การลงทุนตามหุ้นได้กำไรถึง 6.15 บาท และยังได้เฉลี่ยคืนอีก 11.50 บาท  สหกรณ์ได้ส่วนต่างไม่ถึง 60 สตางค์  แต่สมาชิกจะได้ประโยชน์จากสหกรณ์มากมาย  ผู้ที่อายุเกิน 60 ปี ได้สวัสดิการผู้สูงอายุปีละ 600 บาท   เมื่อออกจากราชการก็จ่ายให้เป็นสวัสดิการพิเศษ นอกเหนือจากเงินปันผล  ยืนยันว่าสวัสดิการของสหกรณ์เราดีที่สุดในภาคเหนือ

ส่วนที่ดินที่ยังว่างอยู่ ทางสหกรณ์ยินดีให้ใช้พื้นที่เพื่อเกิดประโยชน์ต่อประชาชนชาวลำปาง  เพราะวัตถุประสงค์ของเรามีความต้องการจะให้บริการประชาชนอยู่แล้ว  หากหน่วยงานไหนต้องการใช้สถานที่จัดงาน หรือจัดกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์ สามารถติดต่อสอบถามมายังสหกรณ์ออมทรัพย์ครูได้   นายสมศักดิ์ กล่าว

ด้านนายชาญ สัตตรัตนขจร อดีตประธานกรรมการดำเนินการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง  เปิดเผยว่า  ตนทราบว่ามีสมาชิกร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. กรณีการจัดซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวมีราคาสูง และไม่ซื้อที่ดินอีกแปลงหนึ่งที่มีราคาถูกกว่า  ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการร้องเรียนกันมานานแล้ว และตนเองก็ได้ชี้แจงเป็นเอกสารให้กับคณะกรรมการชุดปัจจุบันไปแล้วเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา  ส่วนขั้นตอนของ ป.ป.ช.นั้น ได้เรียกตนไปสอบสวนเมื่อเดือน ธ.ค. 58 ก็ได้ชี้แจงไปว่า ได้ดำเนินการตามมติที่ประชุมใหญ่ และการดำเนินการก็เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ.2535  ก่อนจะดำเนินการทางคณะกรรมการได้พิจารณาร่วมกับที่ประชุมชมรมครูทั้ง 13 อำเภอ ให้ดำเนินการหาที่ดินที่เหมาะ สม และได้เลือกซื้อแปลงที่ติดกับห้างแม็คโคร ในราคา 252 ล้านบาท  จำนวน 16 ไร่  เหตุผลที่เลือกที่ดินแปลงนี้เพราะเล็งเห็นว่า เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ  เพื่อจัดตั้งสถาบันการเงิน ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการให้บริการสมาชิก และประชาชน   ซึ่งบริเวณนั้นเป็นย่านเศรษฐกิจแน่นอนว่าราคาต้องแพง คงจะไปเทียบกับที่ดินของห้างแม็คโครหรือห้างบิ๊กซีไม่ได้ เพราะสหกรณ์ซื้อภายหลัง ราคาย่อมไม่เท่ากันกับที่ดินที่ซื้อก่อน

ส่วนเงินที่ใช้ในการซื้อที่ดินนั้น เดิมที่ประชุมได้มีมติให้กู้เงิน 500 ล้านบาท  เป็นค่าที่ดิน และค่าก่อสร้างอาคาร  แต่เนื่องจากในปี 56  เป็นปีที่สหกรณ์ได้กำไร 600 กว่าล้านบาท จึงได้ใช้เงินส่วนต่างของการประกอบการสหกรณ์สวนนี้ ไปซื้อที่ดิน  ที่เหลือก็นำไปปันผลเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิกส่วนหนึ่ง  โดยไม่ได้มีการกู้เงินไปซื้อที่ดินแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นมติว่าให้กู้เงินเท่านั้น   แต่หลังจากซื้อที่ดินแล้วตนได้หมดวาระลง ก็ทราบว่าคณะกรรมการชุดใหม่ได้มีการนำที่ดินไปค้ำประกันกู้เงินมาให้สมาชิกกู้ต่ออีกทอดหนึ่ง  ซึ่งก็เป็นการบริหารงานของคณะกรรมการชุดนั้น

นายชาญ  กล่าวอีกว่า ในเรื่องนี้ไมได้หนักใจอะไร เนื่องจากเราได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบ และได้ชี้แจงให้กับทาง ป.ป.ช.ได้ทราบแล้ว  ตอนนี้อยู่ระหว่างที่ ป.ป.ช.เรียกคณะกรรมการชุดเดียวกับตนทั้งหมด 15 คนมาทำการสอบสวน และก็ต้องรอผลว่าทาง ป.ป.ช.จะพิจารณาอย่างไร

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง อ.อัมพร เทพปินตา  หัวหน้าชมรมครูบำนาญ  เกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อที่ดินดังกล่าว  นายอัมพร กล่าวว่า  ตนก็ทราบว่ามีการร้องเรียนกันในเรื่องนี้ แต่คงไม่ขอยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้คนที่มีหน้าที่ดำเนินการไป  ในส่วนของเงินปันผลต่างๆ ก็ยังได้รับตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร

ขณะเดียวกันได้สอบถามไปยัง สำนักงาน ป.ป.ช.ลำปาง ถึงความคืบหน้าได้เรื่องดังกล่าว ได้คำตอบเพียงว่า ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ทั้งสิ้น 

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1063 วันที่ 22 - 28 มกราคม 2559)