
หลายคนขับรถมาหลายปี ไม่เคยรู้เลยว่ารถตัวเองต้องเติมลมยาง หน้า-หลัง เท่าไร? ... การตรวจสอบลมยาง คือ สิ่งที่ควรทำเป็นประจำ แม้ไม่ใช่ฤดูฝน และสามารถเช็คได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองตามนี้ครับ
-
เช็คลมยางอย่างไรให้ถูกต้อง
การตรวจสอบความดันลมยาง
ควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ซึ่งรวมถึงยางอะไหล่ด้วย โดยต้องตรวจเชคก่อนการใช้งาน ในขณะที่ยางยังเย็นอยู่
ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ตามที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์กำหนด, คู่มือประจำรถ,
ป้ายด้านข้างประตู, ที่เก็บของฝั่งผู้โดยสาร
หรือด้านในฝาถังน้ำมัน (แล้วแต่ยี่ห้อรถ)
ลมยางที่ถูกต้องจะช่วยลดการสึกหรอก่อนเวลา
รวมทั้งลดความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อโครงสร้างภายในของยาง
และยังลดความเสี่ยงในการควบคุมรถ ปกติลมยางจะลดลงประมาณ 2-3 ปอนด์/เดือน
- ทำไมต้องวัดระดับและเติมลมยางขณะที่ยางเย็น
เนื่องจากจะวัดค่าได้ถูกต้องแม่นยำ
แต่ถ้าจำเป็นต้องเติมขณะยางร้อนเนื่องจากเพิ่งขับรถมาจอด
(ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนั้น) ให้เติมเผื่อราว 2 ปอนด์/ตรน.จากค่าที่กำหนด หรือจะใช้วิธีเติม
มากกว่านั้นเล็กน้อย แล้วค่อยมาวัดและปล่อยลมออกให้พอดีตอนที่ยางเย็นแล้ว
และหากเลี่ยงการขับรถเร็วตอนฝนตกไม่ได้จริงๆ อาจต้องเติมลมเพิ่มอีก 2-4 ปอนด์ เพื่อให้ความดันลมยาง ช่วยเพิ่มแรงกดของหน้ายาง
สามารถรีดน้ำได้ดีขึ้น การเติมลมยางที่เหมาะสมก็ช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเกียร์
และช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง เนื่องจากเป็นเหตุเป็นผลที่ต่อเนื่องกัน
- ลมยางอ่อนไป-แข็งไป ไม่ดีอย่างไร ?
ก็สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น
เพราะยางมีความฝืดสูงกว่าปกติ เมื่อความฝืดสูง ก็ต้องเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกติ
ความสิ้นเปลืองก็จะตามมาควบคู่กันโดยแยกไม่ออก
ฉะนั้นแรงดันลมยางจึงต้องเติมให้เหมาะสมตามน้ำหนักบรรทุกที่คู่มือประจำรถแจ้งไว้
สองคือ พวงมาลัยหนัก ปั๊มเพาเวอร์ก็ทำงานหนัก
เมื่อปั๊มทำงานหนักเครื่องยนต์ก็ต้องทำงานหนักตามไปด้วย ผลที่ตามมาอีกอย่างก็คือ
เรื่องของการสึกหรอของดอกยางจะผิดปกติ การเติมลมยางมากไป
หรือแข็งไป แม้จะช่วยให้ล้อสามารถหมุนได้ง่าย ช่วยลดความสิ้นเปลืองได้ด้วย
แต่ผลที่ตามมาก็คือ เรื่องของความกระด้างที่จะส่งผลเสียหายต่อชิ้นส่วนช่วงล่าง
ดังนั้นควรจะเติมลมยางในขณะที่ยางยังเย็นอยู่ ส่วนเรื่องของแรงดันลมนั้น
ให้ดูจากคู่มือของรถแต่ละรุ่นเป็นหลักและในการเดินทางไกลนั้นควรเพิ่มแรงดันยางอีกสัก
3-5 ปอนด์/ตารางนิ้ว
ลดสัมภาระที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือเอาไว้แต่สิ่งที่จำเป็นต้องใช้งาน
ยิ่งมีของบรรทุกอยู่มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักมากขึ้น
ผลที่ตามมาคือ เรื่องของความสิ้นเปลือง อย่างเช่น
ถุงกอล์ฟตีเสร็จแล้วก็ควรจะเอาออกเก็บไว้ที่บ้าน แบกไปแบกมาก็สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น
และส่งผลต่ออายุการใช้งานของระบบเกียร์โดยตรง...
เติมลมยางแล้วเสร็จ
อย่าลืม ! ใส่ฝาวาล์วยางให้สนิท เพื่อป้องกันเศษผง ฝุ่น
หรือความชื้นซึมผ่านเข้าภายในยาง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อยางรถยนต์ได้ครับ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1100 วันที่ 14 - 20 ตุลาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น