เดินๆไปปกติ ธรรมดา
อาจสะดุดก้อนหิน หัวฟาดพื้น หรือยืนรอรถอยู่ดีๆ ล้อรถที่วิ่งผ่านเกิดหลุด
วิ่งมาชนถึงถึงบาดเจ็บล้มตายได้ เช่นที่เกิดย่านรังสิต ปทุมธานี
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ความไม่แน่นอนในชีวิตจึงเกิดได้ตลอดเวลา
อาจด้วยความประมาทของเรา หรือความประมาทของคนอื่น
เรื่องราวของคุณนารีรัตน์ ไชยวงศ์ ก็เช่นกัน
จะเรียกว่าประมาทก็พูดได้ไม่เต็มคำ จะบอกว่าแบงก์ประมาทไม่ตรวจตรา
ดูแลประตูให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ก็พูดไม่ได้
เพราะประตูกระจกแบงก์ที่มีมือจับขนาดใหญ่ยื่นออกมา ให้ดึงออก ดึงเข้า
ผู้คนทั้งหลายที่ไปติดต่อทำธุรกรรมกับแบงก์ ก็ใช้ได้ปลอดภัย
เป็นเรื่องง่ายๆเหมือนเปิดประตูเข้าบ้าน
อย่างไรก็ตาม
ก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจทั้งคุณนารีรัตน์
ที่จังหวะบังเอิญก้าวออกไปในขณะที่ประตูยังไม่ปิดสนิท
โดยที่มือพยายามจับขอบประตูกระจก แต่แรงดึงกลับทำให้นิ้วเข้าไปขัดอยู่ระหว่างกระจกสองบาน
จนกระทั่งนิ้วขาดตกลงมา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์พิเศษ ที่คงไม่ได้เกิดบ่อยนัก
หรือเท่าที่เคยได้ยินมา ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ทำนองนี้มาก่อน
ทางด้านแบงก์กรุงเทพ สาขาสบตุ๋ย
เองก็น่าเห็นใจ เพราะประตูก็อยู่ในสภาพปกติเรียบร้อย เหมือนประตูแบงก์สาขาอื่นๆทั่วประเทศ
ประตูแบงก์สาขาสบตุ๋ยก็ไม่ได้มีความแตกต่าง
ที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงกับลูกค้ามากกว่าสาขาอื่น
แต่ใช่ว่าจะเป็นเหตุที่จะยกบาปกรรมให้กับความซวยไป
เพราะหากคุณนารีรัตน์ ใช้ความระมัดระวังตามสมควร ไม่รีบร้อนจนเกินไป
รอให้ประตูปิดสนิทเสียก่อน แล้วดึงมือจับตามปกติ เหตุความสูญเสียก็จะไม่เกิดขึ้น
หากมองในแง่มุมของกฎหมาย
ที่จะเรียกร้องค่าเสียหายฐานละเมิดกัน จากที่คุณนารีรัตน์ เรียกค่าเสียหายจำนวน 7 แสนบาท ก็ถือว่าเป็นไปได้ ถ้ากรณีนี้ เปลี่ยนแบงก์เป็นบุคคลธรรมดา
แล้วมาทำร้ายร่างกายคุณนารีรัตน์
เพราะตามกฎหมายแล้ว การเสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรืออวัยวะอื่นใด
ถือว่าผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส
ในทางอาญาถือว่าผู้กระทำจะต้องรับโทษหนักกว่าทำร้ายร่างกายปกติทั่วไป
แต่เรื่องนี้เป็นคดีทางแพ่ง
การกำหนดค่าเสียหาย หรือที่กฎหมายเรียกว่าค่าสินไหมทดแทนนั้น
ศาลอาจต้องคำนึงถึงหลักพื้นฐานของกฎหมายว่าด้วยละเมิด ที่บอกว่า
ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฏหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี....ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
แบงก์เป็นนิติบุคคล จงใจไม่ได้
ประมาทเลินเล่อไม่ได้ แต่ผู้จัดการแบงก์ก็ถือว่าเป็นตัวแทนนิติบุคคล
อาจด้วยการรับมอบอำนาจจากสำนักงานใหญ่
ซึ่งก็ต้องพิจารณาเรื่องราวทั้งหมดว่าแบงก์ประมาทเลินเล่อ จนทำให้คุณนารีรัตน์
เสียนิ้วไปหรือไม่
คำตอบคงเป็นว่าแบงก์ไม่ได้ประมาทเลินเล่อ
ส่วนคุณนารีรัตน์ อาจเรียกว่าเป็นจังหวะก้าวที่ผิดพลาดก็ได้
หากจะไม่เรียกว่าประมาทเลินเล่อ กรณีจึงเป็นเรื่องที่คุณนารีรัตน์
ยอมรับเงินชดใช้ค่าเสียหาย หรือค่าสินไหมทดแทนตามสมควร จะเรียกถึง 7 แสนบาท เทียบกับกรณีถูกทำร้ายร่างกายจนอันตรายสาหัสในทางอาญาไม่ได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1114 วันที่ 27 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2560 )
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น