วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ยาบ้า ฆ่าไม่ตาย

จำนวนผู้เข้าชม Must See Places In Paris


กือบ 20 ปีแล้ว ที่ ป๋าเหนาะ เสนาะ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาล บรรหาร ศิลปอาชา  โดยในยุคนั้นสมัยนั้นได้ให้นโยบายว่า ชื่อ ยาม้า (ยาขยัน) ทำให้ผู้เสพเข้าใจว่า เป็นยาที่กินแล้วให้กำลังวังชามีเรี่ยวแรงคึกคักเหมือนม้า ควรจะเปลี่ยนไปเรียกว่า ยาบ้า เพื่อให้ผู้เสพตระหนักถึงโทษของยาที่ทำให้ผู้เสพไม่สามารถควบคุมสติได้ เกิดความรังเกียจ ทำให้ไม่อยากเสพ และจะช่วยลดจำนวนผู้เสพยาได้ และเปลี่ยนประเภทจากสิ่งเสพติดประเภท 3 ซึ่งจำหน่ายได้ในร้านขายยา เป็นสิ่งเสพติดประเภท 1 ซึ่งห้ามจำหน่าย และมีบทลงโทษต่อผู้ขายรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิตเพื่อให้ผู้ขายกลัวต่อบทลงโทษ

แต่กลับทำให้ยาบ้ามีราคาจำหน่ายสูงขึ้น จนสร้างผลกำไรต่อผู้ขายเป็นอย่างมาก และมีผู้ผลิตและจำหน่ายมากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมให้เสพติดง่ายขึ้น มีฤทธิ์รุนแรงขึ้น และยังกลายเป็นปัญหาสังคมในปัจจุบัน

ลูกทรพีเสพยาบ้าประสาทหลอนฆ่าพ่อตัวเอง
หนุ่มเมายาบ้าฆ่าแฟนสาว จ้างเพื่อนบ้านขนศพไปทิ้ง
ไม่จ่ายก็ตาย! พ่อค้ายาบ้าฆ่าลูกหนี้ อ้างโกง 3 แสน ค้นบ้านเจอระเบิด
รวบแก๊งค้ายาบ้าโหด ลวงวัยรุ่นฆ่าล้างหนี้ยิงหัวทิ้งศพหมกป่า
มั่วเสพยาบ้า กัญชา อุ้มเมียไปฆ่า ยิงดับเจ้าของคาร์แคร์
คนงาน'คลั่งยา' ฆ่า2ขวบ ลูกนายจ้างสยอง
หนุ่มคลั่งยาปืนจี้เมีย-ลูก9เดือนหนีเข้าป่า
จับผัวคลั่งยาบ้าใช้สว่านไฟฟ้า เจาะแทงเมียสาวดับสยอง

พาดหัวข่าวเหล่านี้เป็นเพียงส่วนน้อยที่สะท้อนการทำงานของรัฐที่ล้มเหลวในการจัดการปัญหายาเสพติดที่เรื้อรังมานาน นานจนถ้าประเทศไทยเป็นคนคงจะเป็นป่วยเข้าขั้นโคม่ารักษาไม่หาย รอวันตายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีคนไหนมาประกาศเอาจริงเอาจัง ประกาศสงครามกับยาเสพติด เกิดการฆ่าตัดตอนเพื่อหวังกำจัดปัญหานี้ไปให้หมด สุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิม ทั้งที่งบประมาณก็มี ระยะเวลาก็ทำต่อเนื่องแต่ปัญหาไม่เพียงแต่ไม่น้อยลงแต่ยังหนักข้อขึ้นทุกวัน ผู้ต้องหาคดียาบ้าเพิ่มจากหลักหมื่นกลายเป็นหลักแสนคน โดยในจำนานเหล่านี้เป็นผู้ค้ารายย่อย พวกรับจ้างขน และผู้เสพ ซึ่งไม่เคยสาวถึงตัวการใหญ่ได้เลย

อย่างล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ลำปางมีการจับยาบ้าล๊อตใหญ่ได้หลายครั้งตั้งแต่หลักแสนเม็ดไปถึงหลายล้านเม็ด มูลค่าหลักพันล้านบาท

คำถามที่ตามมาคือ อะไรที่ทำให้คนขนยาบ้ามั่นใจว่ายาล๊อตใหญ่จำนวนมากขนาดนี้จะไฟเขียวตลอดเส้นทางการขนส่งหากไม่มีการใช้บอดี้การ์ดสีเทาเป็นใบผ่านทาง

ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าจะเปลี่ยนชื่ออีกสักกี่ครั้งเป็นยานรก ยาผีห่าซาตานขนาดไหน ถ้าไม่เร่งพัฒนาคุณภาพชีวิต เร่งให้ความรู้ ไปพร้อมๆกับปฏิรูปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เอาจริงเอาจังกับปัญหาเรื้อรังกัดกินประเทศชาติ เยาวชน มันก็จะวนอยู่แบบนี้เรื่อยๆ

เมื่อปีที่แล้วมีกระแสจะทำยาบ้าให้เป็นสินค้าเศรษฐกิจเพราะยังไงก็แก้ไม่ได้ ก็ผลิตแล้วขายเม็ดละ 50 สตางค์ จะได้ซื้อง่ายขายคล่อง ทำให้สังคมฮือฮากับความคิดของ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อยู่พักหนึ่งและแน่นอนว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์กันระเนระนาด

ปัญหายาเสพติดไม่ได้เป็นปัญหาโลกแตกเหมือนไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันที่มีข้อถกเถียงสารพัดสารเพ แต่เรื่องของยาเสพติดเป็นเรื่องของประโยชน์ล้วนๆและดันเป็นผลประโยชน์ก้อนใหญ่ที่ใครเห็นเม็ดเงินต่างก็ตาลุกวาวจนลืมบทบาทหน้าที่เป็นทาสรับใช้พ่อค้ายานรก

จะว่าไปแล้วคดีค้ายาบ้า  ลักลอบตัดไม้ เหมือนกันตรงที่มีแต่ข่าวทุกเดือนต่อเนื่องหลายปีแต่ไม่เคยสาวถึงตัวการใหญ่ได้แม้แต่ครั้งเดียว

เนื่องเพราะคนปราบไม้เถื่อนคือคนตัดไม้ คนปราบยาบ้าคือคนขายยาบ้านั่นเอง

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1118 วันที่  24 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2560 )
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์