ระหว่างนี้มีข่าวหนาหูเรื่องภายในไม่กี่สิบปีต่อจากนี้รถใช้น้ำมันจะหมดไป
และจะกลายเป็นยุคของรถยนต์ไฟฟ้าแทน การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ จะมาช้ามาเร็วแค่ไหน
ก็เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมต่างๆ อาจจำได้ถึงยุคที่เราช็อคกัน เมื่อกล้องถ่ายรูปเปลี่ยนจากการใช้ฟิล์มมาเป็นกล้องดิจิตอล
และทำให้บริษัทผลิตฟิล์มถึงคราวต้องออกจากธุรกิจ ชื่อของ KODAK ผู้ผลิตฟิล์มที่เป็นเจ้าตลาดหายไป ส่วน FUJI ที่ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ
2 ต้องผันตัวเองมาพัฒนากล้องถ่ายรูปดิจิตอลแทน ยุคที่เราจะได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามาถึงแน่นอนครับ
แต่จะมาช้ามาเร็วเท่านั้นเอง
มาดูเรื่องของ เทสลา กันครับ ก่อนหน้านี้ บริษัทรถยนต์ทั้งหลายจะอยู่เฉยไม่ได้แล้ว
ต้องหันมาค้นคว้าพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ากัน เริ่มจากการวางตลาดรถไฮบริดที่ใช้ทั้งไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง จากนั้นก็หันมาพัฒนารถไฟฟ้าทั้งคัน
รถไฟฟ้ามีประเด็นใหญ่อยู่ที่แบตเตอรี ซึ่งบริษัทชิ้นส่วนใหญ่ๆ ทั้งของเยอรมนี และญี่ปุ่นต่างก็แข่งกันพัฒนาแบตเตอรีลิเธียม-ไอออน เจ้าไหนพัฒนาได้ดี ก็จะเป็นฐานให้บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าต่อไป
นอกจากบรรดาบริษัทรถยนต์ที่มีชื่อเสียงเจ้าของแบรนด์ต่างๆ
ที่เรารู้จักกันดีที่กำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ากันแล้ว ช่วงนี้แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง
คือ เทสลา เพื่อนฝูงที่เป็นสมาชิกไลน์กับผมส่งเรื่องของ
เทสลา มาเมาท์กันมากมาย โดยเฉพาะคนที่อยู่ไกลถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่ง เทสลา มีบริษัทแม่อยู่ที่นั่น เทสลา มอเตอร์ส นี้มีความพิเศษตรงที่มุ่งมั่นพัฒนาเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า
และมีข้อได้เปรียบตรงที่เขาพัฒนาระบบขับเคลื่อน และแบตเตอรีเอง หลังจากที่ เทสลา วางตลาด เทสลา
โรดสเตอร์ ซึ่งเป็นรถสปอร์ตขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเป็นครั้งแรก ก็ประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็ว
และมีผู้คนกล่าวขวัญถึงกันมาก
ต่อมาก็วางตลาด โมเดล เอส ซึ่งจัดเป็นรถเก๋งระดับหรู
ต่อมาก็มี โมเดล เอกซ์ และตามติดด้วย โมเดล 3 รถ เทสลา โมเดล
เอส มี และกลายเป็นรถไฟฟ้าประเภท PLUG-IN ELECTRIC VEHICLE ที่ขายดีที่สุดลำดับที่
2 ถัดจาก นิสสัน ลีฟ นอกจากนี้ เทสลา ยังเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ชาร์จไฟสำหรับบ้านและสำนักงาน
มีการจัดตั้งเครือข่ายปั๊มชาร์จแบทเตอรีแรงสูงทั่วสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย และยังมีการจับมือกับร้านอาหาร
ร้านสะดวกซื้อ และสถานที่ที่มีประชาชนพลุกพล่าน ตั้งที่ชาร์จสำหรับลูกค้าอีกด้วย เรียกว่าทำการตลาดครบเครื่อง
เพื่อสนับสนุนยอดขายที่กำลังไปได้สวย ซีอีโอของ เทสลา ชื่อ เอลอน มัสค์ กล่าวว่า
“เขามีวิชันที่จะทำให้ผู้บริโภคได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่เอื้อมถึง”
(ทราบมาว่าขณะนี้ราคาประมาณ 5 ล้านบาท)
เทสลา โมเดล 3 ซึ่งกะจะส่งมอบปลายปี
2017 จะราคาเริ่มที่ 35,000 เหรียญสหรัฐฯ และเป็นที่เข้าใจกันว่าจะได้รับการลดหย่อนจากรัฐบาล
ส่วน เทสลา โรดสเตอร์ ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่วางตลาดสามารถวิ่งได้ 200 ไมล์ หรือ 320 กม./ชาร์จ
1 ครั้ง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1116 วันที่ 10 - 16 กุมภาพันธ์ 2560 )
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น