
เมื่อเวลา
06.00 น. วันที่ 16 พ.ค.60 ที่ผ่านมา
ได้เกิดฝนตกหนักในเขตป่าอุทยานแห่งชาติดอยหลวง ซึ่งเป็นป่าเหนือหมู่บ้านปงถ้ำ หมู่ 3 ต.วังทอง อ.วังเหนือ รวมทั้งฝนตกในหมู่บ้านอย่างหนัก
ซึ่งสามารถตรวจวัดปริมาณน้ำฝนได้มากถึง 150 มิลลิเมตร
ต่อชั่วโมง จากนั้นได้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงจากภูเขา ไหลลงลำห้วยแม่หลวง
ลำห้วยแม่กลาง ลำห้วยแม่น้อย ก่อนที่จะมาบรรจบกันที่ใจกลางหมู่บ้านแห่งนี้ กลายเป็นลำห้วยแม่แสด
และได้ไหลทะลักล้นลำห้วยเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในช่วงเวลา 10.00 น.เป็นต้นมา โดยน้ำมีระดับสูงตั้งแต่ 50 ซ.ม. ถึง 1.50 ซ.ม. ก่อนจะค่อยๆลดระดับลง
นายเสน่ห์
ซองดี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านปงถ้ำ หมู่ 3 ต.วังทอง เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดน้ำหลากเจ้าในหมู่บ้านนั้น
สัญญาณเตือนภัยของหมู่บ้านได้ดังขึ้น จึงแจ้งเตือนชาวบ้านล่วงหน้าไว้ก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง
เพราะวัดจากระดับน้ำฝนแล้วมีโอกาสก่อให้เกิดอันตรายได้ จึงรีบประกาศเสียงตามสายแจ้งประชาชนที่มีบ้านเรือนติดลำห้วยขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง
และอพยพคนไปยังที่ปลอดภัย จากนั้นก็เกิดน้ำป่าหลากเข้าหมู่บ้าน
โชคดีทีไม่มีใครได้รับอันตราย
หลังเหตุการณ์สงบเวลาประมาณ
14.00 น. กลุ่มชาวบ้าน ได้ออกมาสำรวจตรวจสอบ สภาพความเสียหายของบ้านเรือนและทรัพย์สินต่างๆของหมู่บ้าน
เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนได้ถูกน้ำท่วมบางส่วน และไม่พบทรัพย์สินทางราชการเสียหาย
ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างสำรวจ ส่วนน้ำลำห้วยแม่แสด ได้ลดระดับลง
ทิ้งไว้เพียงร่องรอยความเสียหายในพื้นที่เท่านั้น
ต่อมานายประเสริฐ
ต่อเขต หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง สาขาวังเหนือ
พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอวังเหนือ ทหาร จากค่ายฝึกรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา
ประจำที่ว่าการอำเภอวังเหนือ ได้ลงพื้นที่สำรวจและให้การช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งเตือนไปยังพื้นที่ให้เตรียมพร้อมตลอด
24 ชั่วโมง ให้สังเกตน้ำในลำห้วยหลายแห่ง เริ่มมีปริมาณน้ำไหลหลากมากขึ้นและสีขุ่นแดง
ต้องเตรียมขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย
ต่อมาวันที่
17 พ.ค.60
ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เมืองปาน และ อ.แจ้ห่ม อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำป่าเพิ่มระดับสูงขึ้นตามลำดับ
ทางอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว
จึงแจ้งงดเข้าใช้บริเวณน้ำตก 2 วัน
นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
เปิดเผยว่า ตามที่ประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องฝนตกหนัก
บริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรง บริเวณทะเลอันดามัน ผลกระทบจนถึงวันที่ 18
พฤษภาคม 2560 ฉบับที่ 5 280/2560 ลงวันที่ 18 พ.ค. 60
ที่แจ้งเตือนฝนตกหนักในหลายพื้นที่ภาคเหนือตอนบนรวมถึงจังหวัดลำปางในพื้นที่อุทยานแจ้ซ้อน
พบว่าฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่องน้ำในลำห้วยมีสีเข้มและเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ
หัวหน้าอุทยานแจ้ซ้อน
กล่าวว่า ทางอุทยานพิจารณาแล้วว่าในห้วงวันที่ 16 พ.ค.60 ที่ผ่านมา
ฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องเกิดน้ำสะสมจำนวนมาก
และเกรงว่าจะเกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวที่เข้าไปเล่นน้ำในช่วงวันที่ 17-18 พ.ค.
60
ดังนั้นจึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา
18
แจ้งให้นักท่องเที่ยวงดเข้าไปใช้บริการนันทนาการบริเวณโซนน้ำตกแจ้ซ้อนตามห้วงเวลาดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว แต่ยังเปิดให้บริการบ่อน้ำแร่ตามปกติ
ส่วนในพื้นที่ ต.เมืองมาย อ.แจ้ห่ม
ได้ตรวจวัดปริมาณน้ำฝนเกิด 100 ม.ม.ทำให้
นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแจ้ห่ม นายไสว ลาภเกิด นายก อบต.เมืองมาย พร้อมกำนัน
ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เสี่ยง ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเสียงภัยในพื้นที่ทันที แต่เหตุการณ์ทั่วไปปกติ
วันที่
18 พ.ค. 60 ได้รับแจ้งจากนางวาลินี ทองหล่อ ครูประจำโรงเรียนบ้านแม่แจ๋ม หมู่ 1 ต.แจ้ซ้อน
อ.เมืองปาน ว่า ได้เกิดดินสไลด์ ต้นไม้หักขวางถนน และบางจุดเกิดถนนทรุดตัวลงไปในเหว
ก่อนจะถึงหมู่บ้านประมาณ 2-3 กิโลเมตร ทำให้ไม่สามารถขับรถผ่านไปได้
ช่วงเวลาเดียวกันได้มีกลุ่มชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ อบต.แจ้ซ้อน
และส่วนที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือในการตัดต้นไม้ที่หักขวางถนน รวมทั้ง
นำรถมาปรับไถเอาดินที่สไลด์ออกไปยังข้างทาง เพื่อที่จะเปิดการสัญจรผ่านไปมาได้ตามปกติ
แต่ทั้งนี้ต้องระมัดระวังในการสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว เพราะสภาพสองข้างทางไปยังหมู่บ้านเป็นหน้าผาและหุบเหวที่สูงชัน
ซึ่งบ้านแม่แจ๋มแห่งนี้ อยู่ใจกลางหุบเขา
และอยู่สูงกว่าระดับน้ำละเทถึง 1,300 เมตร
จะมีสภาพอากาศที่เย็นตลอดทั้งปีและปีไหนที่มีฝนตกหนัก
ก็มักจะเกิดน้ำป่าไหลหลากผ่านลำห้วยกลางหมู่บ้านและจะมีดินสไลด์ปิดเส้นทางทุกปี
ขณะที่
จ.ลำปาง ยังคงเฝ้าจับตาสถานการณ์
พื้นที่เสียงน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่มอย่างใกล้ชิด หลังจากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีหนังสือด่วนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสียงภัย 6 จังหวัดภาคเหนือ
ให้เฝ้าระวังในพื้นที่ โดย จ.ลำปาง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง สั่งการให้ฝ่ายปกครองและท้องถิ่นในพื้นที่เสี่ยงภัย
ลงพื้นที่ตรวจสอบ
และประสานแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่อาศัยใกล้ริมน้ำให้มีความพร้อมตลอดเวลา โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย 4 อำเภอคือ อ.วังเหนือ อ.แจ้ห่ม อ. เมืองปาน ที่อยู่ทางโซทางทิศเหนือ และ อ.เถิน
ที่อยู่ทางทิศใต้ ให้จับตาสถานการณ์น้ำป่าดินโคลนถล่มอย่างใกล้ชิด
จนกว่าสถานการณ์ต่างๆจะคลี่คลายลงไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น