บุกจับคนงานลอบตัดไม้ป่าบดทำเชื้อเพลิง

จำนวนผู้เข้าชม

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 60  กำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน โดยการอำนวยการสั่งการของนายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง)   พ.ต.อ.พิบูลย์ เวียงจันทร์ ผกก.4  บก.ปทส  ประกอบด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ประจำที่ว่าการอำเภอแม่พริก ตำรวจ กกก.4 บก.ปทส.สายที่ 1 ลำปาง เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.แม่พริก ตำรวจ ศปทส.ภ.5 ลำปาง ฝ่ายปกครองแม่พริก เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป. 1 (แม่พริก) ร่วมกันเข้าตรวจป่าหลังวัดดอยพระบาท บ้านพระบาท หมู่ 5 ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พิรก จ.ลำปาง   

หลังจากเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดนี้ได้ นำกำลังเข้าตรวจสอบในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มนายทุนเข้าไปตัดไม้ในป่าหลังวัด และชักลากออกมาตอนกลางคืนโดยไม่เกรงกลัวใดๆ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบและพบว่า ป่าด้านหลังวัดมีคนงานกำลังทำงานโดยใช้รถคีบไม้ขนาดใหญ่ คีบไม้ชนิดต่างๆเป็นท่อนใส่ท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบและควบคุมตัวทั้งสองคนมาสอบสวน คือนายน้อย แสงมณี  อายุ 52  ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/2 หมู่ 1 ต.บางเคียน อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ คนขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อ และ นายมงคล นันจันทร์ อายุ 48  ปี อยู่บ้านเลขที่ 143/2   บ้านบ่อฮ่อ ต.บ้านแหง อ.งาว  จ.ลำปาง คนขับรถคีบไม้ล้อยาง  เบื้องต้นรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้าง จากชายคนหนึ่ง ชื่อแม๊ค ให้ขับรถไปชักลากไม้ดังกล่าวในพื้นที่แห่งนี้ ราคาเที่ยวละ 300-400 บาท  แล้วแต่ระยะทาง เนื่องจากลากไม้ไกล เพื่อที่จะเอาท่อนเหล่านี้ไปสับให้ละเอียด คาดว่าจะนำไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า และยังอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่ที่ป่า มีโฉนดสามารถเข้าไปตัดและชักลากไม้ได้

และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจะนำผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ออกจากพื้นที่เพื่อไปดำเนินคดี ปรากฏว่า ลึกเข้าไปในป่าประมาณ 2-3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงเครื่องจักรทำงาน จึงได้แบ่งกำลังออกตรวจสอบและพบมีการตั้งเครื่องบดไม้และมีคนกำลังทำงานจริง แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหลบหนีไปไดทั้งหมด  โดยในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ของกลางทิ้งไว้ ตรวจสอบพบเครื่องจักร เป็นเครื่องสับไม้ 1 เครื่อง กองไม้ที่สับแล้วขนาดกองใหญ่อีก 1 กอง ไม้ท่อน ซึ่งประกอบด้วย ไม้หวงห้ามและไม้ชนิดต่างๆเป็นท่อน กระจัดกระจายเป็นจำนวนมาก กว่า 200 ท่อน  ในเบื้องต้นไม่พบตัวผู้กระทำผิดเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษาที่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป. 1 (แม่พริก)   ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนต่อไป เบื้องต้นพบว่ามีการบุกรุกตัดไม้ในพื้นที่แห่งนี้กว่า 100 ไร่แล้วซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจจับพิกัดที่แน่นอนอีกครั้งเพื่อเร่งดำเนินคดีจนถึงที่สุดต่อไป

โดยกล่าวหาว่า  พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484    มาตรา 11 ประกอบ มาตรา 73 ฐาน “ร่วมกันทำไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงาน เจ้าหน้าที่”   มาตรา 69 วรรคสอง (2) ฐาน “ร่วมกันมีไม้อื่นเป็นต้นหรือเป็นท่อน อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง รวมกันเกินยี่สิบต้นหรือท่อน หรือรวมปริมาตรไม้เกินสี่ลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับ  อนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”  , พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507  มาตรา 14  ประกอบ มาตรา 31 ฐาน “ร่วมกัน ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1128 วันที่ 5 - 11 พฤษภาคม)