
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 30 พ.ค.60 พ.ต.ต.เกรียงไกร รัตนะ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง รับแจ้งจากโรงพยาบาลห้างฉัตรว่าได้รับตัวคนถูกฟ้าผ่าเข้ามารักษาตัว 2 ราย เป็นสามีภรรยากัน แต่ขณะนี้ฝ่ายภรรยาได้เสียชีวิตลงแล้วก่อนที่จะมาถึงมือแพทย์ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ออกไปทำการสอบสวนและร่วมกันชันสูตรพลิกศพ หลังได้รับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สันติภาพ โชติภัทร์ สว.หน.สภ.เมืองยาว พ.ต.ต.วิเชรียร ประมูลสิน รอง.สว.สอบสวน ร.ต.ต.ทะนอง มุกข์ตายน รอง.สว.สส พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เร่งออกไปยังโรงพยาบาลตามที่ได้รับแจ้ง พบศพผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนเตียงคนไข้ภายในห้องฉุกเฉิน ทราบต่อมาชื่อนางบัวผัด แก้วศิริ อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 92/1 ม.10 บ้านเหล่า ต.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร สภาพเนื้อตัวซีดและตรวจสอบตามร่างกายแล้วไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายใดๆ ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายทราบว่าเป็นสามีของผู้ตาย อายุ 57 ปี ซึ่งกำลังนอนให้แพทย์ตรวจอาการอยู่ในห้องซึ่งมีอาการตัวชาและมึนงงอยู่
จากการสอบถามญาติของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทราบว่า
ก่อนเกิดเหตุ
สองสามีภรรยาได้ชวนกันออกไปกลางทุ่งนาเพื่อเร่งไถนาและหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว
เนื่องจากปีนี้ฝนมาเร็ว โดยทั้งสองคนต่างก็แยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเอง
คือฝ่ายสามีได้แยกออกไปไถนา ส่วนนางบัวผัดผู้ตายก็ทำหน้าที่เดินหว่านกล้าในที่นาที่ไถเสร็จแล้ว
ซึ่งขณะทำงานกันอยู่ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก กระทั่งนางบัวผัดทำการหว่านกล้าจนเสร็จก่อน
จึงได้รีบเดินไปยังห้างนาเพื่อนั่งรอสามี ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร
แต่ขณะที่เดินไปจนเกือบจะถึงห้างนาอยู่แล้ว ก็ได้เกิดฟ้าผ่าลงมาตรงที่นางบัวผัดกำลังเดินอยู่พอดี
ทำให้ล้มลงแน่นิ่งไปทันที
ฝ่ายสามีซึ่งกำลังไถนาอยู่ก็ได้รับแรงสั่นสะเทือนและกระแสไฟฟ้าไปบางส่วนจนทำให้เกิดอาการชาไปทั้งตัวและสมองมึนงง
แต่ก็ยังพยายามวิ่งมาที่ร่างของภรรยาที่นอนแน่นิ่งอยู่
แต่เมื่อตัวเองช่วยอะไรไม่ได้ จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากญาติและเพื่อนบ้านใกล้เคียง
ให้รีบพาส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อไปถึงก็ได้รับทราบจากแพทย์ว่า
นางบัวผัดได้เสียชีวิตลงแล้วก่อนที่จะมาถึง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางญาติๆ
ก็พบว่า ก่อนที่ฟ้าจะผ่าลงมานั้นนางบัวผัดได้พกโทรศัพท์มือถือติดตัวไว้ด้วย และเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบมือถือแล้วพบว่า
โทรศัพท์เปียกชุมไปด้วยน้ำและไม่สามารถใช้การได้อีก ซึ่งสันนิษฐานเบื้องต้นว่า
อาจจะเกิดจากโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวที่เป็นสื่อหรือสายล่อฟ้าก็เป็นได้
ส่วนศพของนางบัวผัดทางญาติก็ไม่ติดใจใดๆและจึงรับศพกลับไปจัดการตามประเพณีต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1131 วันที่ 2-8 มิถุนายน 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น