เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.60 ที่ผ่านมา ที่โรงแรมบุษย์น้ำทอง อ.เมืองลำปาง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 4 โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย–เชียงใหม่ เพื่อนำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางโครงการที่เหมาะสม รูปแบบโครงสร้างทางรถไฟ ความคุ้มค่า และประโยชน์ของโครงการ การเวนคืนที่ดินและผลกระทบสิ่งแวดล้อม
โดยได้นำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางที่เหมาะสม
มีระยะทางรวม 189
กม. แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเด่นชัย-ลำปาง
ระยะทางประมาณ 104 กม.
เป็นการสร้างทางรถไฟคู่ไปกับแนวเขตทางเดิม พร้อมปรับรัศมีโค้งของทางรถไฟเดิม
เพื่อให้รถไฟสามารถวิ่งได้เร็วขึ้น โดยสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด 120 กม./ชม. และช่วงลำปาง-เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 85 กม.
เป็นการก่อสร้างทางคู่ขนานในแนวเขตทางเดิมบางส่วนและตัดแนวทางรถไฟใหม่บางส่วน
เพื่อให้เป็นแนวเส้นตรงมากที่สุด โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 160 กม./ชม. ตลอดเส้นทาง
สำหรับที่
จ.ลำปางยังคงมีปัญหาชาวบ้านย่านการค้าบริเวณสี่แยกดอนปาน ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง
ยังคงคัดค้านการก่อสร้างทางยกระดับ เพื่อจะรองรับโครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าว
โดยที่ผ่านมาทีวิศวกรโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรถไฟทางคู่
ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ได้มีการลงพื้นที่ประชุมกลุ่มย่อยกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบบริเวณสี่แยกดอนปาน โดยได้มีการปรับเปลี่ยนแบบแปลนใหม่
จากเดิมการทำถนนยกระดับ
4 ช่องทาง ข้ามทางรถไฟรองรับโครงการรถไฟทางคู่
ช่องทางซ้ายสุดแยกเข้าถนนประสานไมตรีไปทางสถานีรถไฟ
และช่องทางขวาสุดแยกเข้าไปถนนพหลโยธินเลี้ยวไปห้างบิ๊กซีลำปาง ส่วนเส้นทางหลัก 2 ช่องจราจร
จะข้ามแยกไฟแดงดอนปานผ่านหน้าสยามทีวี ถนนฉัตรไชย
สิ้นสุดที่สามแยกร้านลำปางเหลี่ยงฮะเฮง ส่วนแปลนใหม่
คือเริ่มจากหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ลาดลงมาถึงสี่แยกดอนปานเลย
โดยไม่ข้ามแยกไฟแดงออกไปเช่นเดิม
แต่ขณะเดียวกันยังคงต้องเวนคืนบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ก่อนจะถึงแยกไฟแดง
จำนวน 19 หลัง ที่ดิน 20 แปลง รวมพื้นที่ 1.9 ไร่
ซึ่งรวมไปถึงพื้นที่ของคลังน้ำมันเชลล์ด้วย
เนื่องจากต้องมีการขยายของทางออกไปอีกด้านละ 6.5 เมตร
ถึงแม้จะมีการปรับเปลี่ยนแบบใหม่แล้ว
ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนใกล้เคียงกับสี่แยกดอนปาน
ก็ยังได้รับผลกระทบอยู่ถึงแม้จำนวนการเวนคืนจะลดลงก็ตาม โดยชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจ ที่บ้านของตนซึ่งอยู่อาศัย
และค้าขายมา 30 ปี กลับต้องโดนเวนคืนเพราะอยู่ติดกับทางรถไฟ ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร
ขณะที่ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งที่
4 ชาวบ้านดอนปานที่เข้าร่วมประชุม
ยังคงยื่นข้อเสนอเดิมคือไม่ต้องการให้มีการสร้างทางยกระดับพาดผ่านหน้าบ้าน และเสนอให้สร้างทางยกทางรถไฟ
หรือสร้างทางรถไฟลอดใต้ถนน เพื่อไม่ให้กระทบกับชาวบ้าน รวมทั้งให้ทบทวนการออกแบบทางยกระดับใหม่
เพราะการทำถนนให้สโลปลงบริเวณไฟแดง อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ชาวบ้านบริเวณดอนปานรายหนึ่ง
กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงที่ต้องโดนเวนคืน
อยากให้เจ้าหน้าที่โครงการลงพื้นที่ไปดูว่า
ชาวบ้านติดป้ายไว้ตลอดเส้นทางว่าไม่เอาถนนยกระดับ แต่ก็ยังมีการออกแบบมาอยู่
ไม่เคยมีใครพูดว่าจะตกลงปัญหานี้อย่างไร จะต้องเวนคืนใช่หรือไม่
วิศวกรโครงการชี้แจงว่า
ได้มีการลงพื้นที่ทั้งกลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อย
ซึ่งในตอนแรกชาวบ้านอาจจะไม่ได้รับทราบข้อมูล แต่เมื่อลงพื้นที่กลุ่มย่อยมา 3 รอบ
ชาวบ้านก็เริ่มรับทราบว่าจะมีการปิดจุดตัดบริเวณแยกดอนปาน
และเสนอวิธีการแก้ไขตามที่ชาวบ้านเรียกร้อง โดยเสนอให้เป็นเครื่องกั้น
และทางยกระดับ ได้มีการนำข้อเสนอต่างๆไปให้คณะกรรมการพิจารณา
และเมื่อมีชาวบ้านออกมาร้องเรียน ก็ส่งไปที่ สนข. เดิมได้มีการยกระดับยาวข้ามแยกไป
ต่อมาก็มาคุยกลุ่มย่อยกันอีกครั้งและมีการเปลี่ยนแบบใหม่
จนได้ทางยกระดับมาลงบริเวณแยกดอนปาน เป็นการแก้ปัญหา 2 จุด
คือทั้งจุดตัดรถไฟและจุดตัดผ่านทางแยก ซึ่งเหมาะสมเป็นไปได้
ซึ่งโครงการจะสำเร็จได้ประชาชนต้องมีส่วนร่วมไม่ให้จุดประสงค์ผิดไปกว่าเดิม และเป็นประโยชน์ของประชาชน
ด้านนายณรงค์ชัย
ลี้เลอเกียรติ ได้ทวงถามถึงความคืบหน้า หลังจากที่ตนเองได้ยื่นหนังสือข้อเสนอแนะและข้อคัดค้านให้กับวิศวกรโครงการไปแล้ว
แต่ในที่ประชุมกล่าวว่า ให้ทำหนังสือยื่นข้อเสนอแนะเข้ามาใหม่ได้
จะรับไปเสนอให้ทาง สนข.พิจารณาต่อไป
นายสุวัฒน์
ตรีมานะพันธ์ ผู้ประสานงานให้กับชาวบ้าน กล่าวว่า หากจะต้องสร้างถนนยกระดับจริงก็จะมีบ้านเรือนประชาชนที่ต้องโดนเวนคืนอยู่
17 หลัง อยากฝากถึงทาง
สนข.ถึงปัญหาค่าที่ดินในการเวนคืน ซึ่งที่ผ่านมาพบปัญหาโดยตลอด
โดยภาครัฐก็จะบอกว่าเวนคืนเป็นธรรมตามราคาประเมิน แต่ข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏว่าใช้ราคาประเมินบวกกับราคา
40 เปอร์เซ็นต์
ขอให้ใช้ราคาประเมินบวกราคาที่ดินจริง ที่เห็นชัดที่สุดพบว่าเอกสารการเวนคืนที่ดินของประชาชนแยกดอนปาน
ใช้ราคาประเมินเพียงตารางวาละ 35,000 บาท
ยืนยันได้ว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวขายได้ราคามากกว่า ถึงแม้จะบวก 40 เปอร์เซ็นต์แล้วก็ได้เพียง 50,000 บาท
ซึ่งไม่เพียงพอและไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน
ถ้าจะต้องเวนคืนที่ดินทำถนนยกระดับบริเวณสี่แยกดอนปาน
ขอให้ใช้ราคาที่ดินจริงในปัจจุบัน ไม่ใช่ราคาประเมินบวก 40
เปอร์เซ็นต์
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1132 วันที่ 9 - 15 มิถุนายน 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น