แต่ก่อนพอเข้าหน้าฝนจะมีคนบอกว่าเป็นช่วงโลว์ซีซันการท่องเที่ยว
แต่ขอบอกเลยนะว่าหน้าฝนประเทศไทย ก็มีเสน่ห์การท่องเที่ยวในตัวมันเองเพราะจะเป็นช่วงที่
ทุ่งหญ้า ป่าไม้ กำลังเขียวขจี สร้างความสดใสสดชื่นได้แน่นอน อาจจะติดตรงที่การขับรถการเดินทางอาจจะไม่สะดวก
เพราะหากเจอฝนตกถนนลื่นอาจเกิดอันตรายได้
แต่เรามีเคล็ดลับสำหรับชาวกรีนทริป (Green Trip) มาแนะนำคนที่ชอบการท่องเที่ยวในหน้าฝนกัน
1.ขณะที่ฝนตกหรือหลังฝนหยุดตก
บางจุดของผิวถนนมีน้ำท่วมขัง การขับต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น การขับด้วยความเร็วสูงผ่านจุดที่มีน้ำขังเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
อาจทำให้รถยนต์แฉลบหรือเสียการทรงตัวได้ง่าย นอกจากนั้น
อาจทำให้น้ำพุ่งกระจายขึ้นมาเต็มกระจกบังลมหน้า และไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้
ซึ่งอันตรายมาก
2.
หากจุดที่มีน้ำท่วมขังอยู่ใกล้ทางเดินเท้า การใช้ความเร็วต่ำและความระมัดระวัง
เพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นไปโดนคนเดินบนทางเท้า เป็นมารยาทที่ควรปฏิบัติ
3.
ขณะที่กำลังขับลุยน้ำ ควรใช้ความเร็วต่ำ ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าสู่ระบบจุดระเบิดจนเครื่องยนต์ดับ
และขับทิ้งระยะจากรถคันหน้าพอสมควร เมื่อต้องขับสวนกันควรชะลอความเร็ว
โดยเฉพาะสวนกับรถยนต์ขนาดใหญ่
เพื่อป้องกันไม่ให้ระลอกคลื่นเข้าปะทะด้านหน้าจนทำให้เครื่องยนต์ดับ
และถือเป็นมารยาทที่ควรปฏิบัติ
4.
หลังผ่านการลุยน้ำหรือผิวถนนที่มีน้ำท่วมขัง ประสิทธิภาพของระบบเบรกจะลดลงจากเดิม
การแตะเบรกเบาๆ ขณะขับ ช่วยไล่ความชื้นออกจากดิสก์หรือดรัมเบรก รวมถึงผ้าเบรก
แต่ข้อควรระวัง คือ ระมัดระวังรถยนต์ที่ตามมาข้างหลัง ควรเลือกจังหวะเบรกให้ดี
ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุได้
5.
เมื่อหมดหน้าฝนควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกใหม่ หรือเปลี่ยนทุก 1 ปี เพราะความชื้นที่เพิ่มขึ้น
1% โดยน้ำหนัก ทำให้จุดเดือดของน้ำมันเบรกลดลง 30-50 องศาเซลเซียส
เสียค่าน้ำมันเบรก 100-200 บาท แต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเบรกได้มาก
เพียงแค่นี้ก็จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝนที่น่าอันตรายกลายเป็นการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ แถมยังสนุกกับการเดินทางในทริปนี้ได้แน่นอน
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1133 วันที่ 16 -22 มิถุนายน 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น