การทำความสะอาดรถ
ไม่ใช่แค่ล้างสีดูดฝุ่นเท่านั้น ควรทำความสะอาดห้องเครื่องยนต์บ้างเป็นครั้งคราว
จะได้รู้ว่ามีชิ้นส่วนไหนชำรุดเสียหาย เช่น ปะเก็นต่างๆ ของเครื่องยนต์
ว่ามีคราบน้ำมันเล็ดลอดออกมาหรือไม่ อยู่ที่จุดใด อีกทั้งห้องเครื่องก็ยังน่ามอง
เปิดโชว์คนอื่นได้ ไม่อายใคร
เลี่ยงไม่ได้ แต่ล้างได้
ระบบการทำงานของเครื่องยนต์
มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ต้องเปลี่ยนถ่ายเป็นประจำ
มักมีคราบเปื้อนบริเวณเครื่องยนต์เป็นปกติอยู่แล้ว หรือปะเก็นฝาวาล์ว ที่ทำหน้าที่ป้องกันน้ำมันไหลออกมาอาจเสื่อมได้
เมื่อฝุ่นจับคราบน้ำมันจะก่อตัวหนาขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ระบายความร้อนได้ไม่ดี
เมื่อล้างห้องเครื่องเสร็จ
ยังสามารถทราบถึงตำแหน่งรอยรั่วที่เป็นคราบน้ำมันได้อย่างชัดเจน
รวมถึงกำจัดคราบน้ำ และฝุ่น ให้ห้องเครื่องสะอาดน่ามองอีกด้วย
กันไว้ก่อน ไม่เสียหาย
การล้างห้องเครื่องให้สะอาดสวยงาม
ต้องรู้เรื่องระบบการทำงานของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ต้องทราบว่าชิ้นส่วนตรงไหน
ไม่สามารถโดนน้ำได้ โดยเฉพาะระบบไฟ ระบบจุดระเบิด เช่น จานจ่าย คอยล์ สายหัวเทียน
ไดชาร์จ ขั้วปลั๊กไฟ ขั้วแบตเตอรี กล่องฟิวส์ในรถ และกรองเปลือย
ต้องหุ้มถุงพลาสติก พันด้วยเทปกาวไว้ กันน้ำเข้า
อย่าล้างบ่อย แต่คอยรักษา
ห้องเครื่องไม่ต้องล้างบ่อย
เพราะพลาสติกหรือท่อยางอาจเสื่อมสภาพทำให้แตกได้
หรือมีสนิมขึ้นตามรอยตะเข็บที่เป็นเหล็กและโลหะ อีกทั้งเสี่ยงกับระบบไฟฟ้าช็อตอีก
ดังนั้น หลังจากล้างห้องเครื่องครั้งใหญ่แล้ว ถ้ามีสิ่งสกปรกเลอะห้องเครื่อง
ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดเป็นครั้งคราวไป
พยายามหลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำหรือโคลน
และให้แก้ไขชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่น้ำมันรั่ว
เคล็ดลับเพิ่มพลังขจัดคราบ
– น้ำมันดีเซล ใช้กรณีที่สกปรกน้อย
ช่วยเพิ่มความเงางามในส่วนที่เป็นอลูมิเนียมต่างๆ ผสมกันในอัตราส่วน 2:1 (น้ำยา 2
ส่วน/น้ำมันดีเซล 1 ส่วน)
– น้ำมันเบนซิน ใช้ในกรณีที่สกปรกมากๆ เช่น
น้ำมันจับตัวเป็นคราบแข็งเหนียว แต่ไม่ควรใช้ทากับส่วนที่เป็นพลาสติค
เพราะทำให้เกิดคราบขาว ผสมในอัตราส่วน 3:1 (น้ำยา 3 ส่วน/น้ำมันเบนซิน 1 ส่วน)
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1132 วันที่ 9 - 15 มิถุนายน 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น