เมื่อวันที่
17 ส.ค.60 ที่บริเวณกลางป่าเหนือหมู่บ้านบ้านแจ้คอนหมู่ 2 ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
กำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งจากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และในจังหวัดลำปาง ประกอบด้วย
เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ลำปาง ร้อยฝึกรบพิเศษที่ 3
ค่ายประตูผา ตำรวจชุดสืบสวนปราบปราม กก.4 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภ.5
เจ้าหน้าที่ ตชด 33 เชียงใหม่ สายตรวจป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพย์กรป่าไม้ที่
3 ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ภ.จว.ลำปาง ตำรวจ สภ.แห้ห่ม
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่า ลป.10
(แม่สุก) ฝ่ายปกครองอำเภอแจ้ห่ม กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ตำบลทุ่งผึ้งกว่า 100
นาย ได้ร่วมประชุมเพื่อรับทราบแนวทางการเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่า
และทำการตรวจยึดคืนพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อทำการเกษตรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และทำการเกษตรอื่นๆในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนวังแปลง
1 เนื้อที่กว่า 1
พันไร่
จากการเข้าตรวจสอบพบว่าสภาพพื้นที่ป่าในบริเวณดังกล่าว
ถูกแผ้วถางผ่าจนเหี้ยนเตียน บางจุดมีการกานลำต้นไม้ขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นไม้หวงห้าม
ไม้สัก ไม้แดง ประดู่ และกระยาเลยหลากหลายชนิด ทำให้ยืนต้นตายเกือบทั้งหมดหลายร้อยต้น
และมีบางส่วนที่ถูกตัดลำเลียงออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
โดยพื้นที่โดยรอบได้ปรับเปลี่ยนเป็นแปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพื้นที่กว้าง
เจ้าหน้าที่จึงต้องนำกำลังเข้าตรวจสอบและตรวจยึดในครั้งนี้
ขณะทำการตรวจสอบพื้นที่
ได้มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากเดินทางเข้ามายังจุดที่เจ้าหน้าที่กำลังทำงาน ตอนแรกเจ้าหน้าที่คาดว่าจะมาขัดขวางการทำงาน
แต่ปรากฏว่าชาวบ้านทั้งหมดได้เข้ามาให้กำลังใจ
และมอบน้ำดื่มอาหารแก่เจ้าหน้าที่ในการเข้าตรวจยึดครั้งนี้ ทางกลุ่มชาวบ้าน กล่าวว่า แม้จะมีอาชีพการเกษตรแต่ไม่เคยเข้าไปในป่าเพื่อบุกรุกแผ้วถางป่าแต่อย่างใด
โดยให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เพราะมีการทำข้อตกลงกับทางอำเภอและจังหวัดลำปางไปแล้ว แต่ระยะหลังกลุ่มทุนเข้ามาว่าจ้างชาวบ้านบางคนเข้าไปแผ้วถางป่าครอบครองพื้นที่เพื่อหวังเอาเงินชดเชยจากการเวนคืนที่ดิน
เนื่องจากมีข่าวว่า บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งจะเข้ามาสัมปทานเหมืองแร่ในพื้นที่
แต่พบการต่อต้านจากชาวบ้านจนไม่สามารถทำการได้ หลังจากนั้นก็มีการตรวจสอบและพบว่าป่าของหมู่บ้านถูกแผ้วถางเป็นพื้นที่กว้าง
จึงร้องเรียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการ เพื่อไม่ให้ป่าต้นน้ำถูกทำลายไปมากกว่านี้
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบแนวพื้นที่รุกป่าในครั้งนี้ คาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกหลายวันเพราะมีพื้นที่กว้างขวางมากกว่า
1 พันไร่
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1142 วันที่ 18 - 24 สิงหาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น