
“จรัล”
ยื้อเก้าอี้มานาน ล่าสุดศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้นายกเทศมนตรีตำบลห้างฉัตรพ้นตำแหน่ง
ขาดคุณสมบัติ เหตุจากยื่นบัญชีรายจ่ายเลือกตั้งไม่ครบ ปลัดเทศบาลขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนทันที
กรณีนายจรัล
วงศ์สวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลห้างฉัตร ถูกยื่นฟ้องต่อศาลปกครองว่ายื่นบัญชีรายจ่ายในการหาเสียงไม่ครบ
กระทั่งศาลชั้นต้น ได้มีคำพิพากษาให้นายจรัญ วงศ์สวัสดิ์
นายกเทศมนตรีตำบลห้างฉัตร มีความผิดตาม
พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ในการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งไม่ถูกต้องครบถ้วนทางความจริง โดยศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือน รอลงอาญา 1 ปี
พร้อมสั่งปรับเป็นเงิน 6,000 บาท
และเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
มีผลตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.59
ต่อมาวันที่
26 ม.ค.59 ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
ได้ออกหนังสือแจ้งคำพิพากษาศาลแขวงลำปาง ถึงนายอำเภอห้างฉัตร ระบุวา
เมื่อศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจึงเป็นเหตุให้นายจรัญ วงศ์สวัสดิ์
พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องหาม ตาม
พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ. 2496
เมื่อนายกเทศมนตรีพ้นจากตำแหน่ง รองนายกเทศมนตรี ที่ปรึกษา และเลขานุการ
ต้องพ้นจากตำแหน่งด้วย แต่ปรากฏว่า นายจรัญ
วงศ์สวัสดิ์ ได้นำหลักฐานใหม่
คือคำสั่งศาลฎีกา ที่ 4247/2558 ลงวันที่ 23 เม.ย.58
ซึ่งเป็นกรณีตัวอย่างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน
แต่ยังคงสามารถดำรงตำแหน่งได้จนกว่าจะสิ้นสุดคดี
ซึ่งเป็นการวินิจฉัยคนละแนวทางกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
และออกหนังสือด่วนที่สุด ที่ ลป 0023.4/5108 เรื่องการทุเลาการบังคับทางปกครอง
ส่งมาถึงนายอำเภอห้างฉัตร ให้ทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครองกรณีให้นายจรัญ
วงศ์สวัสดิ์ พ้นจากตำแหน่ง จนกว่าการสอบสวนจะเป็นที่ยุติ
ทางกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น
กระทรวงมหาดไทย จึงได้หารือไปยังกฤษฎีกาอีกครั้ง เพื่อขอทบทวนความเห็น กระทั่งวันที่
28 ก.ค.59
กระทรวงมหาดไทยได้ตอบหนังสือเรื่องการวินิจฉัยการขาดคุณสมบัติ
หรือมีลักษณะต้องห้ามของผู้บริหารท้องถิ่นกลับมายังจังหวัดลำปาง กรณีของนายจรัญ วงศ์สวัสดิ์
นายกเทศมนตรีตำบลห้างฉัตร
ว่าคณะกรรมการกฤษฎีกายืนยันความเห็นเดิมตามศาลชั้นต้น การขาดคุณสมบัติมีผลตั้งแต่ศาลชั้นต้นพิพากษา
โดยไม่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด
ส่วนเรื่องที่นายจรัญได้อ้างคำสั่งศาลฎีกา ที่ 4237/2558 ลงวันที่ 23
เม.ย.58 มาเป็นหลักฐานประกอบนั้น
ถือว่าคำสั่งศาลฎีกามีผลเฉพาะคู่ความและเฉพาะคดีนั้น
ยกขึ้นมาอ้างเป็นเรื่องเดียวกันไม่ได้
ต่อมาวันที่
8 ส.ค. 59 ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้แจ้งเรื่องการวินิจฉัยการขาดคุณสมบัติดังกล่าว
ส่งไปยังนายอำเภอห้างฉัตร
เพื่อให้แจ้งข้อเท็จจริงไปยังนายจรัญ วงศ์สวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลห้างฉัตร ทราบว่า
ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลห้างฉัตร
ตาม พ.ร.บ.ในกฎหมายการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ประกอบกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
ตั้งแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา วันที่ 19 ม.ค. 59 แต่นายจรัล
ไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ และได้ยื่นอุทธรณ์และฎีกาตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยอ้างว่าระบบการสั่งการยังไม่ถูกต้องครบถ้วน
ยังไม่มีหนังสือคำสั่งให้ออกจากตำแหน่ง
แต่ได้รับหนังสือเป็นการแจ้งคำพิพากษาให้ทราบ ไม่ได้ระบุว่าให้พ้นจากตำแหน่งแต่อย่างใด
ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีคำสั่งให้แจ้งความดำเนินคดีกับนายกเทศมนตรีตำบลห้างฉัตร
ฐานไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานแต่ไปปฏิบัติหน้าที่
ซึ่งกฤษฎีกาได้ตอบกลับมาให้ยืนตามศาลชั้นต้น
ทั้งนี้
ศาลฎีกาได้มีการเลื่อนการพิพากษาถึง 2 ครั้ง เนื่องจากครั้งแรกนายจรัลได้แจ้งว่าติดภารกิจ
และครั้งที่สองได้แจ้งว่าป่วย ล่าสุดศาลได้นัดฟังคำพิพากษา
เมื่อวันที่ 29 ส.ค.60 ที่ผ่านมา
ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ยืนตามศาลชั้นต้น คือ พิพากษาจำคุก 6 เดือน รอลงอาญา 1 ปี
พร้อมสั่งปรับเป็นเงิน 6,000 บาท
และเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
มีผลตั้งแต่วันที่มีคำพิพากษา
แหล่งข่าวแจ้งว่า
นายจรัล วงศ์สวัสดิ์ ได้พ้นจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 29
ส.ค.60 ที่ผ่านมา โดยพันจ่าอากาศเอกณัฐวุฒิ สุวรรณรัตน์ ปลัดเทศบาลตำบลห้างฉัตร
ปฎิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีในทันที
และอยู่ระหว่างรอหนังสืออย่างเป็นทางการแจ้งมาอีกครั้ง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1144 วันที่ 1 - 7 กันยายน 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น