
จำนวนผู้เข้าชม
“ฮักในหลวง ฮักอย่างที่สุด
จะบอกกับเปิ่นว่า ถ้าแลกได้พ่อจะต๋ายแทน” (มีคลิป)
เลา สัตย์มาก
ชาวบ้านบ้านปงดอน
“ถ้าไม่มีพระองค์ชาวบ้านคงลำบากมาก
ไร่นาเขียวชอุ่มได้ทุกวันนี้เพราะพระองค์” เสียงจากชาวบ้าน
ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ที่ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้
หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมราชบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาตรวจเยี่ยมฝายแม่มอน และไปเยี่ยมเยือนราษฎรชาว
ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๑๙ โดยพ่อกำนันวัง ไปเร็ว
ได้ยื่นฎีกาขอสร้างอ่างเก็บน้ำ
เพื่อฟื้นฟูด้านการเกษตรในพื้นที่เนื่องจากประสบปัญหาแห้งแล้งมานาน กระทั่งปี ๒๕๒๒
มีพระราชดำริให้ดำเนินการก่อสร้าง “อ่างเก็บน้ำแม่แมะ” ทำให้ชาวบ้านมีน้ำกินน้ำใช้มาจนถึงปัจจุบัน
พิเดช สัตย์มาก กำนัน ต.ปงดอน
อายุ ๔๗ ปี บอกว่า สภาพพื้นที่ของ
ต.ปงดอน ช่วงเวลานั้นเป็นหมู่บ้านแห้งแล้ง อดอยากปากแห้ง
โดยส่วนใหญ่คนที่มีเงินมีทอง สามารถซื้อที่ดินที่อื่นได้ก็จะย้ายไป
คนที่ไม่มีเงินจะอยู่ในพื้นที่เดิม คนที่ทนไม่ได้ก็ทิ้งบ้านเกิดหนีไปทำมาหากินที่อื่น
เพราะบางวันก็ไม่มีกิน ต้องเลี้ยงลูกด้วยหัวมันหัวกลอย
สมัยนั้นเขาอายุยังไม่ถึงสิบขวบแต่ก็รับรู้ถึงความลำบาก กระทั่งในหลวงรัชกาลที่๙
เสด็จฝายแม่มอนในวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๒๒ กำนันวังได้ทำถวายถวายในหลวงรัชกาลที่๙
หลังจากนั้นไม่นานพระองค์จึงส่งคนมาออกแบบการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แมะ
มูล ปลุกเสก อายุ ๖๙ ปี
เล่าว่า เดิมที่ดินแถบนี้ถ้าไม่มีฝนตกลงมาจะทำนาไม่ได้เลย น้ำในลำห้วยก็ไม่เพียงพอ
ถ้าไม่มีอ่างเก็บน้ำเหล่านี้ชาวบ้านจะลำบากมาก เพราะพื้นที่มีความแห้งแล้ง
ถนนหนทางจะไปบ้านหมู่ 3 ต้องไปตามคันนา ต้องใช้เท้าเดินเท่านั้น
เกวียนหรือรถจักรยานยนต์ก็ยังเข้าไปไม่ได้
“พ่อกำนันวังได้ถวายฎีกาที่ฝายแม่มอน
พอปี ๒๕๒๒ ก็มีข่าวว่าในหลวงรัชกาลที่๙ จะมาสร้างอ่างเก็บน้ำให้ชาวบ้านต่างดีใจ
แต่ก็ประสบปัญหาคือถ้าสร้างอ่างแม่แมะจะดึงน้ำมาได้อย่างไร เพราะต้องข้ามแม่น้ำวัง ในหลวงทรงอัจฉริยภาพมาก
พระองค์มีแนวคิดว่าจะต้องสร้างลอดใต้แม่น้ำวังขึ้นมาให้บ้าน หมู่ ๒ หมู่ ๗ หมู่ ๓
ต.ปงดอน จะได้รับประโยชน์
เมื่อได้อ่างเก็บน้ำนี้มาก็พยายามหางบประมาณสร้างรางริน
ส่งน้ำมาใช้กันจนถึงปัจจุบันนี้”
บางคำของมูล
ร.ต.ท.สมหวัง ไปเร็ว ปัจจุบันประจำอยู่ที่สภ.แจ้ห่ม ซึ่งเป็นลูกชายของกำนันวัง
ผู้ถวายฎีกาเล่าว่า
สมัยนั้นในหมู่บ้านกันดารมากต้องใช้ล้อใช้เกวียนในการเดินทาง
ส่วนใหญ่ชาวบ้านทำการเกษตร แต่น้ำก็ไม่ค่อยมี ต้องรอน้ำจากฝนเท่านั้น กำนันวัง
บิดาของจึงแก้ปัญหาโดยสร้างฝาย นำกระสอบไปกั้นน้ำไว้เป็นจุด
ให้มีน้ำขังเป็นห้วยเล็กๆ
จากนั้นก็พยายามยื่นถวายฎีกาขอสร้างอ่างเก็บน้ำลำห้วยแม่แมะ
เมื่อครั้งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จมาที่ฝายแม่มอน ก่อนหน้านั้นมีอุปสรรคมากมาย
ถวายครั้งแรกทางอำเภอได้เอาฎีกาไปไม่ให้เข้าใกล้ ครั้งที่ ๒ ก็มีเจ้าหน้าที่กันไว้ กระทั่งครั้งที่ ๓
พ่อกำนันได้นำฎีกาใส่มะขามหวานถวายให้กับพระหัตถ์ของพระองค์
จากนั้นไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจพื้นที่
และเริ่มดำเนินการสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แมะ
เลา สัตย์มาก อายุ ๗๔
ปี ชาวบ้านไฮ หมู่ ๓ ต.ปงดอน
อ.แจ้ห่ม เล่าถึงกำนันวังด้วยท่าทีจริงจังว่า
กำนันเป็นนักพัฒนา วิ่งเต้นช่วยเหลือชาวบ้านมาโดยตลอด พอทราบว่าในหลวงรัชกาลที่๙จะเสด็จมา
กำนันวังทำโครงการเพื่อถวายฎีกา
หลังจากนั้น ๑๕ วัน ก็มีเจ้าหน้าที่มาสำรวจการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แมะ
ตอนนั้นก็มีการมาขอคนงานไปช่วยบอกว่าไปทำแต่ไม่ได้เงิน เขาก็ยอมเข้าไปทำและได้เป็นหัวหน้าคุมคนงาน
มูล ใยสำลี อายุ ๗๖
ปี พูดถึงพ่อกำนันวังว่า
เป็นผู้นำหมู่บ้าน เป็นคนขยัน ถนนหนทางเมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้
พ่อกำนันก็ผลักดันให้มีการทำถนน ทำสะพาน สร้างอ่างเก็บน้ำ
มีการพัฒนาวัดวาอาราม ทำฝายก็ไม่ได้ง่าย
ต้องตัดไม้ไผ่และไปตอกกั้นเป็นฝาย
เมื่อก่อนก็ต้องเอาเหล็กขุดลอกเพื่อนำน้ำเข้ามาในนา
- วันที่
๘ มกราคม ๒๕๒๓ ในหลวงรัชกาลที่๙ เสด็จอ่างเก็บน้ำแม่แมะ
พิเดช สัตย์มาก กำนัน ต.ปงดอน
เล่าว่าตอนนั้นอายุได้สิบขวบ ได้ติดตามแม่ไปรอรับเสด็จ เป็นความตื้นตันของชาว ต.ปงดอน และ
ตำบลใกล้เคียง ตอนนั้นจำความได้มาก เพราะประทับใจที่มีโอกาสได้มารับเสด็จ
แม่จะคอยบอกตลอดว่าเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินจะเสด็จมาบ้านเรา
ขอให้ไปเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต
ชาวบ้านพากันเดินเป็นแถวเป็นแนวไปรับเสด็จที่อ่างแม่แมะ อยู่ห่างหมู่บ้านประมาณ ๓
กิโลเมตร เดินเท้าไปนั่งรอแต่เช้า ไม่มีใครบ่นใครพูด
จนกระทั่งบ่ายได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ก็รู้ว่าพระองค์เสด็จมาแล้ว
ชาวบ้านต่างนั่งรออย่างใจจดใจจ่อ เพราะกว่าพระองค์จะเสด็จมาถึงประรำพิธี
ต้องเดินประมาณ ๑ กิโลเมตร
พอพระองค์ข้ามสะพานไม้แม่น้ำวัง ทุกคนพร้อมใจกันก้มลงกราบก้มหน้าลงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
ด้วยความเป็นเด็กก็แอบเงยหน้ามอง เห็นพระองค์ก็คิดว่าพระองค์รูปงามมาก
เป็นความภาคภูมิใจของชาวปงดอนที่พระองค์ได้มาเหยียบแผ่นดินนี้
ขณะที่ลุงเลา
บอกว่า ได้เห็นในหลวง
ภูมิใจมากที่สุด
ตอนนั้นทำหน้าที่ถ่อแพอยู่ในอ่างเก็บน้ำ ๕ ลำ พระองค์มาทอดพระเนตรตอนที่ถ่อแพผ่านในหลวงไปที่ตัวอ่าง
และรอรับเสด็จ พระองค์ได้เสด็จไปที่ประตูน้ำพร้อมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย
ก็เดินตามไปด้วยไปรวมกับกลุ่มชาวบ้านที่รอรับเสด็จอยู่
มีชาวบ้านมาเฝ้ารออย่างล้นหลาม
ในหลวงเดินไปดูทุกจุดที่สำคัญของอ่างเก็บน้ำ ใช้เวลาอยู่นานเกือบทั้งวัน
ประมาณ ๑ ทุ่มก็เสด็จกลับโดยขึ้นเฮลิคอปเตอร์
ชาวบ้าน
ต.ปงดอน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอนทำพิธีเปิดอ่างเก็บน้ำแม่แมะ
ชาวบ้านต่างมากันไปเข้าเฝ้าพระองค์ท่าน ด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ
เมื่อสร้างอ่างเก็บน้ำแล้วเกิดความเปลี่ยนแปลงมากมาย ชาวบ้านได้ทำการเกษตรทั่วถึง
ชาวบ้านดีใจมาก
เมื่อปลูกข้าวออกรวงออกเม็ดก็จะนำมาแบ่งปันกันเพื่อเป็นการขอบคุณในหลวงส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง
ชาวบ้านก็ปลูกผัก เลี้ยงปลาขึ้นมา มีรายได้เพิ่มขึ้นอีก ถ้าไม่มีพระองค์ชาวบ้านจะลำบากมาก
ทำไร่นาคงไม่ได้ แต่ตอนนี้ไร่นาเขียวชอุ่มได้เพราะพระองค์
จากวันนั้นถึงวันนี้ความเป็นอยู่ของราษฎรดีขึ้นเรื่อยๆ ทำการเกษตรได้
ปัจจุบันนี้ยิ่งดีขึ้นมากเพราะมีเขื่อนและอ่างเก็บน้ำหลายแห่งเกิดขึ้นในพื้นที่
น้ำอุดมสมบูรณ์มาก
- ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ วันที่พ่อไม่อยู่
ลุงเลา
กลั่นหัวใจพูดว่า คงไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่ในหลวงจะมาใกล้ชิดกับราษฎรขนาดนี้
เกิดมาชาติใดก็ขอให้พบพระองค์ตลอด
จะทำตามรอยเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่๙ตลอดไป
“ภูมิใจที่สุดที่พระองค์มาทำความเจริญให้กับชาวบ้าน
จะไม่ทิ้งคำสอนของพระองค์
วันที่ได้ข่าวร้าย ถึงกับน้ำตาไหลว่าพ่อของเราไปแล้ว
ทุกวันนี้ถ้าคิดถึงก็จะน้ำตาซึม
รักในหลวงรักอย่างที่สุด
ถ้าแลกได้จะขอตายแทน”
มูล กล่าวว่า คิดถึงอยู่ทุกลมหายใจ
ขอให้พ่อหลวงไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้า ไม่ต้องห่วงราษฎรอีกแล้ว จะจำคำพ่อสั่งสอนตลอดไป
“ จะทดแทนความดีของพระองค์ที่ให้ทุ่มเทให้กับราษฎร
จะเดินตามรอยพ่อ สร้างศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน เป็นต้นแบบให้ ต.ปงดอน
และชาวบ้านใกล้เคียง จะทำให้สุดกายสุดใจ “
พิเดช ให้คำมั่นสัญญาจะเดินตามรอยพ่อ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1152 วันที่ 27 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น