อดีตผู้ใหญ่บ้าน
ซื้อเสาไม้สักเถื่อน ขนาดใหญ่มาทำซุ้มประตูบ้าน
สุดท้ายเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอายัดดำเนินคดี จนล่าสุดศาลจังหวัดลำปาง พิพากษา
ว่ามีความผิดจริง ตัดสินจำคุก 2 ปี ปรับเป็นเงินอีก 2 แสนบาท ขณะที่ผู้ต้องหา สารภาพลดโทษครึ่งหนึ่ง
เมื่อวันที่
1 พ.ย. 60 กำลังเจ้าหน้าที่
สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดทรัพยากรป่าไม้ และธรรมชาติ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่
3 (ลำปาง) เจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.13
(บ้านแลง) เจ้าหน้าที่ สารวัตรทหารมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสรุศักดิ์มนตรีเจ้าหน้าที่ ศูนย์ป้องกันและปราบปราบ ภาคเหนือ
กรมป่าไม้ ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ตำรวจ ศปทส.ภ.5 ตำรวจ นปพ.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง นำคำสั่งศาลจังหวัดลำปาง
ที่พิพากษาคดีถึงที่สุด ให้ริบของกลาง เป็นเสาไม้สักท่อน จำนวน 2 ท่อน โครงสร้างที่เป็นไม้สักแผ่นจำนวน 30 แผ่น
เหลี่ยม ที่ทำเป็นซุ้มประตูหน้าบ้าน เลขที่ 75 หมู่ 10
บ้านวังยวม ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ลำปาง เข้าไปหาเจ้าของบ้าน
คือนายอำนาจ ฝั้นธรรมครั้ง
ในเบื้องต้นทางเจ้าของบ้านได้
อำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการรื้อถอน ยึดไม้ของกลางทั้งหมดเป็นอย่างดี เพราะได้ยอมรับสารภาพและเสียค่าปรับแล้ว
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้รื้อถอนโครงสร้างเอาเฉพาะไม้ของกลางที่ได้ระบุไว้เท่านั้น
คือเสาไม้สัก 2
ท่อน ไม้สักแปรรูป 30 แผ่นเหลี่ยม แต่กว่าจะรื้อถอนโครงสร้างและชักลากไม้ทั้งหมดได้ใช้เวลานานกว่า
3 ชั่วโมง
ก่อนจะนำของกลางทั้งหมดเก็บรักษาที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.13 (บ้านแลง) ต่อไป
สำหรับการเข้ารื้อถอนและตรวจยึดเสาซุ้มประตูในครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ตลอดช่วง 2-3
ปีที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้
สืบสวนและติดตามพฤติกรรมการลักลอบค้าไม้เถื่อนในพื้นที่และพบว่า เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวมีพฤติกรรมบ่อยครั้งแต่จับไม่ได้คาหนังคาเขาสักที
จนกระทั่งอาศัยอำนาจ มาตรา 44 เข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวเมื่อปี
2559 ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไม้เถื่อนไปหลายรายการและพบว่า
ที่เสาซุ้มประตูบ้านมีลักษณะแปลกคาดว่าจะสร้างอำพราง เพราะตั้งเสาโดยการเอาโคนต้นไม้ขึ้นด้านบนและเอาปลายต้นไม้มาลงด้านล่าง
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้อายัดและตรวจสอบเบื้องต้น
ทางเจ้าของอ้างว่าตัดมาจากพื้นที่หัวไร่ปลายนาและทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วไม่เป็นไปดังที่แจ้งเบื้องต้นสุดท้าย
ถูกส่งดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดลำปาง กระทั่งศาลมีคำพิพากษาว่ามีความผิดจริง
มีโทษจำคุก 2 ปีปรับ 1 แสนบาท
แต่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ในชั้นศาล ศาลจึงลดโทษครึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1
ปี ปรับ 1 แสน บาท
แต่ผู้ต้องหาไม่พบว่ามีประวัติในการกระทำผิด โทษจำคุกจึงลงอาญาไว้ก่อน
ทั้งนี้
ผู้ต้องหาสารภาพทีหลังว่าได้ซื้อไม้เถื่อนมาจากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จริง
เพราะราคาถูก แต่สุดท้ายก็ต้องมาจ่ายเงินเพิ่มและไม้ก็ไม่ได้ครอบครอง
ด้านเจ้าหน้าที่คาดว่าไม้สักทั้งสองท่อนนี้ น่าจะเป็นไม้สักที่ถูกมอดไม้ลักลอบตัด
ที่เขตอนุรักษ์สักทองแห่งเดียวในจังหวัดลำปาง คือที่บริเวณ บ้านจำปุย หมู่ 4 ตำบลบ้านดง
อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เมื่อปี 52 ที่ผ่านมา
ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามคืนมาได้แล้วบางส่วน
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1153 วันที่ 3 - 9 พฤศจิกายน 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น