เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนสนธิกำลังเข้ายึดคืนผืนป่าตามคำสั่งของศาลปกครองเชียงใหม่
6 แปลง รวมพื้นที่ 581 ไร่ พบตระกูลดังครอบครองขุดบ่อลูกรัง
มีเอกสารสิทธิ์บางพื้นที่ อ้างพื้นที่ข้างเคียงไม่ทราบเป็นของใครแต่พบว่ามีทางเข้าออกทางเดียว ส่วนแปลงอื่นๆถูกปล่อยทิ้งร้าง
เหลือฟารม์หมูไว้ให้ดูต่างหน้า หมูกว่า 700 ตัว ร้องระงม เร่งประสานส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือและหาทางออก
เมื่อวันที่
13 ธ.ค.60 เวลา 09.00 น. นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ
ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) และ นายสุเทพ
พุทชา ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า พร้อมด้วย พ.อ.สมศักดิ์ เตชะสืบ รอง
ผอ.กอ.รมน.จ.ลำปาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ สารวัตรทหารมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่
สายตรวจป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง
เจ้าหน้าที่ ศูนย์ป้องกันและปราบปราบ ภาคเหนือ กรมป่าไม้ ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ตำรวจ ศปทส.ภ.5 ตำรวจ นปพ.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง
ตำรวจ ตชด.33 เชียงใหม่ ตำรวจ สภ.ทุ่งฝาย
ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.ต้นธงชัย อ.เมือง
จ.ลำปาง เข้าตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ตุ่ยฝั่งซ้าย
(หรือป่าแม่เมาะแปลง 2) โดยการเข้าตรวจยึดเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครองเชียงใหม่
ตามที่ศาลปกครองเชียงใหม่ มีคำสั่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง กรมป่าไม้
ให้ตรวจสอบพื้นที่ครอบครองในส่วนของ บริษัท วนชัยอุตสาหกรรม จำกัด
บริเวณป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย (ป่าแม่เมาะแปลง 2) ตามที่ศาลปกครองเชียงใหม่ได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่
99/2555, 35/2558 คดีหมายเลขแดงที่ 269/2560, 270/2560 ลงวันที่ 16 ส.ค.60 ให้กรมป่าไม้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่พระราชบัญญัติป่าไม้
พุทธศักราช 2484
กำหนดให้ต้องปฏิบัติในการดูแลรักษาและดำเนินการคุ้มครองป้องกันที่ดินป่าแม่ตุ๋ยฝั่งซ้าย
(ป่าแม่เมาะแปลง 2) ในส่วนที่บริษัทวนชัยอุตสาหกรรม จำกัด
ครอบครองโดยฝ่าฝืนตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติ รวมทั้งพื้นที่อื่นๆอีก รวมจำนวน
6 แปลง พื้นที่ป่า 581 ไร่
โดยแปลงที่ 1 อยู่ในท้องที่บ้านแพะกู่คำ
หมู่ที่ 3 ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง คือ ไร่ ณ เณร ในเขตป่าแม่ตุ่ยฝั่งซ้าย
(แม่เมาะแปลง 2) พื้นที่ป่าถูกบุกรุกครอบครอง เนื้อที่ จำนวน
267 ไร่ 2 งาน 32 ตารางวา ทั้งหมดกลายสภาพเป็นบ่อลูกรังขนาดใหญ่
มีเสาหลักปูนซีเมนต์ฝังเป็นแถว เป็นแนวรั้วยาว แสดงแนวเขตที่ดินพื้นที่ครอบครอง
เข้าไปตรวจในแปลงที่ดิน พบร่องรอยการขุดเอาหน้าดิน ขุดดินลูกรังเป็นหลุมบ่อลึก
พบมีอยู่จำนวนมากหลายบ่อ พบนายจักรกฤษณ์ เมืองงาม
แจ้งว่าเป็นผู้ควบคุมดูแลการขุดดินลูกรังให้กับนายวรพจน์ วนชยางค์กูล
ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินตามเอกสารการครอบครองคือหนังสือรับรองการการทำประโยชน์ จำนวน
5 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 73 ไร่
พร้อมนำคณะเจ้าหน้าที่ชี้แนวเขตครอบครองตามเอกสารสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว
ซึ่งในแปลงพื้นที่พบรถแบคโฮลขุดดิน จำนวน 1 คัน
เมื่อนำมาตรวจสอบแล้วพบว่าอยู่ในแปลงที่ดินตามเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และนายจักรกฤษณ์
แสดงใบแจ้งการขุดดิน ตาม
พ.ร.บ.การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 เลขที่ 2/2560
ออกโดยนายกเทศมนตรีตำบลต้นธงชัยอย่างถูกต้อง เนื่องจากพื้นที่ดินที่ นายวรพจน์ วนชยางค์กูล ครอบครองและทำประโยชน์มีเนื้อที่ดินและมีแนวเขตที่ดินติดกับที่ป่าจำนวนมาก
คณะเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบที่ดินตามคำสั่งศาลอีกหลายแปลง ซึ่งจะได้เข้าตรวจสอบหลักฐานการอนุญาตที่เกี่ยวข้องในภายหลัง
ส่วนที่ดินแปลงติดต่อกับแปลงที่ดินของนายวรพจน์
วนชยางค์กูล ตามที่นายจักรกฤษณ์ฯนำชี้นั้น
คณะเจ้าหน้าที่ตรวจพบร่องรอยการขุดดินลูกรังเป็นหลุมเป็นบ่อลึกเป็นจำนวนมาก
มีพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง บ่อขุดดินลักษณะเป็นหลุมลึกและเป็นการขุดใหม่
ไม่พบอุปกรณ์เครื่องจักรการขุดดินอยู่ในพื้นที่แต่อย่างใด ไม่พบกองดิน
มูลดินกองอยู่ในบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด สอบถามนายจักรกฤษณ์ อ้างว่า
ไม่ทราบว่าผู้ใดมาขุดดินบริเวณดังกล่าว
แต่เจ้าหน้าที่สังเกตพบว่ามีการขุดนำเอาดินลูกรังออกไปยังพื้นที่ภายนอกแปลงขุดดิน
และพบว่ามีเส้นทางเข้า-ออก ได้เพียงเส้นทางเดียว คือ
ผ่านที่ดินติดต่อกับที่ครอบครองของนายวรพจน์
ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนและตรวจสอบกับเทศบาลต้นธงชัย
ว่าที่ดินบริเวณดังกล่าว มีผู้ใดหรือบุคคลใดมาทำการขุดดิน
มีการขออนุญาตหรือมีการอนุญาตให้กับบุคคลใดมาทำการขุดดินก่อนหน้านี้หรือไม่
อย่างไร และการขุดดินของ นายจักรกฤษณ์
เมืองงาม ซึ่งมีที่ดินแปลงติดต่อกันได้ขออนุญาตขุดตักดินมาตั้งแต่เมื่อใด อย่างไร
มีเนื้อที่ขุดดิน เท่าใด ปริมาณการขุดดินลูกรังมีความสมดุลสัมพันธ์กับระยะเวลาการอนุญาตหรือไม่อย่างไร
คณะเจ้าหน้าที่จะได้เข้าตรวจสอบความถูกต้องในโอกาสต่อไป
จุดที่
2 บริเวณสวนยูคาลิปตัส จำนวน 14 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา พบสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 1 หลัง
ลักษณะบ้านปลูกสร้างชั้นเดียว ไม่มีหลังคามุง
มีต้นยูคาลิปตัสปลูกประปรายขึ้นอยู่เต็มพื้นที่ มีการล้อมรั้วลวดหนามไว้เพื่อแสดงแนวเขตที่ดิน
ไม่พบบุคคลแต่อย่างใด ซึ่งนางอำพร
พุทธิชาติ ผู้ใหญ่บ้านแพะกู่คำ นายณรงค์ ฟองคำ และนายสุรเชษฐ์ วงค์นันตา
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฯ หมู่ที่ 3 ต.ต้นธงชัย
แจ้งว่าพวกตนเองไม่ทราบว่า
ผู้ใดมาบุกรุกป่าและปลูกสร้างบ้านหลังดังกล่าวไว้ตั้งแต่เมื่อใด จุดที่ 3 สวนติดหนองน้ำ พื้นที่ 40
ไร่ 2 งาน53 ตารางวา พบเพียงบ้านร้างไม่พบตัวผู้กระทำผิดเช่นกัน จุดที่ 4 สวนและพื้นที่ขุดดินลูกรัง
ไม่พบอุปกรณ์เครื่องจักรการขุดดินอยู่ในพื้นที่แต่อย่างใด
พื้นที่ป่าถูกบุกรุกครอบครอง เนื้อที่ จำนวน 136 ไร่ 3 งาน 09
ตารางวา จุดที่ 5 สวนริมน้ำ 75 ไร่ จุดนี้พบบ้าน 1 หลัง และมีการปรับพื้นที่ปลูกเป็นสวนมะขาวหวานและผลไม้ต่างๆ
แต่ไม่พบตัวผู้กระผำผิด
และ จุดที่ 6 ฟาร์มหมู
ท้องที่บ้านศรีดอนไชย หมู่ 5 ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง จุดนี้
เจ้าหน้าที่พบว่าน่าจะมีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินและคนงานทั้งหมดก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง
เพราะมีบ้านพักคนงานมีการขนย้ายที่นอนหมอนมุ้งไปทั้งหมด และในพื้นที่มีฟาร์มเลี้ยงหมูระบบปิดขนาดใหญ่หลายโรงเรือน
และพบว่า มีอยู่ 1 โรงเรือนที่ ยังมีหมูรุ่นอยู่มากว่า 700
ตัวที่อยู่ภายในฟาร์ม คาดว่าเจ้าของและคนงานขนย้ายไม่ทันจึงทิ้งไว้
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ประสานส่วนทีเกี่ยวข้องเพื่อให้การดูแล
และหาทางออกในการดูแล หมูรุ่นเหล่านี้ต่อไป
พื้นที่ความเสียหายของผืนป่าครั้งนี้มากถึง
581 ไร่เศษมูลค่าความเสียหายของรัฐกว่า 33 ล้านบาท
เบื้องต้นได้ประสาน รองสารวัตร สอบสวน สภ.ทุ่งฝาย เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหากมีผู้มาแสดงตัว ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484
มาตรา 54 ประกอบ ๗72 ตรี
ฐาน “ก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า
หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” และประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 มาตรา 9 มาตรา 108 ทวิ
ฐาน “เข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่นสร้าง
หรือเผาป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน
ที่กรวด หรือที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน"
ไว้แล้วในขณะนี้
สำหรับ
บริษัท วนชัยอุตสาหกรรม จำกัด ตั้งอยู่เลขที่
540/1 หมู่ที่ 15 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง จดทะเบียนเมื่อวันที่ 30
ก.ค. 2516 โดยจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลดิบ และน้ำตาลทรายขาว ทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท มี นายณัฐิ
วนชยางค์กูล เป็นประธานกรรมการ และกรรมการ คือ นายนพ วนชยางค์กูล นายวรพจน์ วนชยางค์กูล นายนคินทร์ วนชยางค์กูล นายบุญทอง อ่างทอง และนายบุญส่ง อินต๊ะสุวรรณ ปัจจุบันล้มละลายแล้ว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1159 วันที่ 15 - 21 ธันวาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น