วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2560

'ทรงพล' เฉือนงบจังหวัด งานซ้ำซ้อนชาวบ้านไม่เอา

จำนวนผู้เข้าชม Counter for tumblr


ผู้ว่าฯเผยการทบทวนและปรับงบพัฒนาจังหวัดเป็นเรื่องปกติ เหตุจากพบโครงการซ้ำซ้อน ไม่ตรงกับความต้องการของชาวบ้าน ต้องทำงานถึงลูกถึงคนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ถามชาวลำปางคาดหวังให้ผู้ว่าฯอยู่เฉยๆหรือต้องการพัฒนา

ระยะเวลาเพียง 2 เดือนกว่า หลังจากนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้มีการกำหนดนโยบาย 12 วาระ ตามแผนงาน ลำปางสร้างสรรค์ ปันสุข 2561 - 2562” โดยทั้ง 12 วาระ จะประกอบไปด้วยแผนการพัฒนาเมือง ชุมชน และทรัพยากรบุคคลในเรื่องต่างๆ อาทิ แผนการพัฒนาอนุรักษ์งานด้านศิลปวัฒนธรรมสืบสานประเพณีพื้นถิ่น, งานด้าน การพัฒนาอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม, แผนการพัฒนาส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวให้ลำปางเป็นเมืองต้องแวะชม, แผนการพัฒนาอาชีพด้านการเกษตร, การพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่ง, การพัฒนาคนสู่ชุมชนฐานรากเข้มแข็ง สร้างเมืองแห่งการเรียนรู้สู่จุดนัดพบของคนรุ่นใหม่ สร้างสวัสดิการให้ทั่วถึงสู่เมืองอารยสถาปัตย์ และส่งเสริมการทำงานแบบ บูรณาการตามหลักประชารัฐ พร้อมกับได้มีการลงพื้นที่ไม่เว้นแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้มีการประชาสัมพันธ์ภาพและข้อมูลต่างๆผ่านทางเฟสบุ๊กส่วนตัวของผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเอง  รวมไปถึงกระแสของการปรับลดงบประมาณในกิจกรรมต่างๆของจังหวัดลำปาง ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู

นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยกับลานนาโพสต์ว่า ก่อนมาลำปางมีโอกาสรู้ข้อมูลของ จ.ลำปางค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะแผนพัฒนาจังหวัดที่ดูละเอียดมาก รวมถึงแผนพัฒนาอำเภอของทุกอำเภอ และภาคเอกชนด้วยเช่นกัน จึงสามารถวางแผนงานได้ออกเป็นการเดินหน้า “ลำปาง สร้างสรรค์ ปันสุข”  ซึ่งเป็นการดึงนโยบายระดับชาติลงมาไปถึงนโยบายในพื้นที่ ค่อนข้างจะครอบคลุมทั้งหมด  แต่สิ่งสำคัญคือการลงพื้นที่ดูของจริง  ดังนั้นในช่วง 2 เดือนที่มา จ.ลำปาง จะเห็นว่าผู้ว่าฯลงพื้นที่ตลอดเวลา  ขณะเดียวกันจะดูในเรื่องของโครงการต่างๆที่สำคัญ การทำงานเน้นเรื่องการบริหารพัฒนา บริหารการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่การบริหารทั่วไป จะทำงานเชิงรุกเพราะถ้าผู้ว่าฯทำแต่งานประจำก็จะไม่สามารถไปพัฒนาในด้านอื่นๆได้ เพราะฉะนั้น ส่วนงานบริหารงานทั่วไปงานประจำจะมอบให้รองผู้ว่าราชการเกือบทั้งหมด  นอกจากนั้นจะเน้นการทำงานตามวาระ

เมื่อสอบถามถึงการปรับลดงบประมาณต่างๆในหลายกิจกรรม  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ในส่วนของระบบงบประมาณ มีงบปกติ งบฟังชั่น งบพัฒนาจังหวัด งบกลุ่มจังหวัด และบางช่วงมีงบกลุ่มจังหวัดเพิ่มเติม ตามแนวทางสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายใน  ปีที่แล้วเริ่มครั้งแรกเป็นงบภาค โดยปกติงบที่จะสามารถปรับเปลี่ยนได้คืองบพัฒนาจังหวัด ซึ่งจะนำมาใช้ในการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงได้จริงคืองบในส่วนนี้ โดยจะมีการจัดทำแผนงบประมาณล่วงหน้า 2 ปี เมื่อถึงปีงบประมาณก็จะมีการทบทวนในเรื่องของโครงการต่างๆ เป็นเรื่องปกติ  ถ้าแต่ละจังหวัดไม่มีสิทธิ์ทบทวนอะไรในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็จะทำอะไรไม่ได้เลย  รัฐบาลมีการปรับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการเชื่อมโยงงบประมาณกันได้ เพราะฉะนั้นกระบวนการส่วนหนึ่งในช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ก็จะมีการทบทวนปรับงบพัฒนาจังหวัด  เช่น โครงการที่ขอมาได้งบอื่นดำเนินการไปแล้ว  เป้าหมายคือจะทำอย่างไรให้ถึงประชาชนมากที่สุดและเกิดการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในเชิงการพัฒนา จึงได้มานั่งทวนกันใหม่ โดยเน้นงานที่เป็นผลสัมฤทธิ์ เน้นบูรณาการ ลดงานค่าใช้จ่ายทั่วไป  ช่วงนี้จึงมีการปรับงบประมาณในหลายเรื่อง เนื่องจากพบหลายโครงการที่มีความซ้ำซ้อนกันมาก เช่น มีการของบสร้างศูนย์บริการ แต่ข้อเท็จจริงจากการลงพื้นที่พบว่ามีการสร้างศูนย์บริการอยู่แล้วแต่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งเป็นการของบประมาณไม่ตรงกับความต้องการของชาวบ้าน แต่สิ่งที่ชาวบ้านต้องการคือการปรับปรุงซ่อมแซมในจุดอื่น จึงต้องมีการปรับงบให้ ถ้าไม่มีเงินดึงมาจะนำงบที่ไหนมาทำให้กับชาวบ้าน   เหตุนี้จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ว่าฯต้องทำงานถึงลูกถึงคน ตามดูโครงการเดิมรวมกับโครงการที่กำลังขอใหม่ เพื่อให้รู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร

ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวอีกว่า เรื่องการเกษตรมีการวางงบประมาณไว้น้อยมาก และที่มีอยู่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการอบรม  การเกษตรจึงได้มีการปรับเยอะมาก บางหน่วยงานมีการขอคืนงบประมาณก็มี รวมทั้งบางพื้นที่ติดปัญหาพื้นที่ป่าไม่สามารถดำเนินโครงการได้ เนื่องจากช่วงที่มีการจัดทำแผนงบประมาณเป็นการวางแผนกว้างๆ เพื่อให้นำมาปรับทบทวนกันอีกครั้ง  ซึ่งผู้ว่าฯได้ลงพื้นที่ไปดูที่ห้างสรรพสินค้าว่านำสินค้าจากที่ไหนมาวางขาย และย้อนกลับไปดูต้นทางว่ามาจากที่ไหน เพื่อต่อยอดและขยายผล ซึ่งพบว่าที่ลำปางมีเกษตรกรที่เก่งๆจำนวนมาก จึงมีแนวคิดที่จะขยายผลให้เกษตรกรที่ลำบากมาเป็นเครือข่าย โดยจะมอบอุปกรณ์สนับสนุนให้ และให้เกษตรกรเจ้าของสวนใหญ่รวบรวมผลผลิตส่งต่อไปให้ห้างสรรพสินค้า  ปีหน้าจะลงไปถึงชาวบ้านทั้งหมดและจะเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น

อีกเรื่องคือ การแก้ปัญหาเรื่องยากจนไม่มีงบแม้แต่บาทเดียว ทั้งที่ จ.ลำปาง เศรษฐกิจแย่ และความยากจนเป็นยุทธศาสตร์ชาติที่จำเป็นต้องจัดการให้ได้  ได้มีการตรวจสอบข้อมูล จปฐ. พบว่ามีตกเกณฑ์อยู่มาก จึงได้เกิดโครงการแก้จนคนเมืองขึ้น สำรวจข้อมูลคนยากจนในเขตเมือง เพราะรู้ว่าคนยากจนในเมืองลำบากกว่าในชนบท อย่างน้อยคนจนในชนบทยังมีที่ดินทำกิน  จึงมีแนวคิดส่งเสริมเรื่องอาชีพ เน้นเรื่องเครื่องมือทำมาหากินให้ทำแล้วมีรายได้เลย  และเน้นการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย  ไม่ใช่การสร้างบ้านแล้วมอบให้แค่หลังเดียว แต่ต้องสำรวจให้หมดว่าความต้องการคืออะไร  นอกจากนั้นให้คลังจังหวัดดูข้อมูลผู้ลงทะเบียนสวัสดิการรัฐ 2 แสนกว่าคน  ให้สถิติจังหวัดไปรวบรวมว่า 2 แสนคนต้องการอะไร ลงรายละเอียดเป็นรายครัวเรือน  สำหรับงบที่ไม่ปรับเปลี่ยนเลยเป็นงบที่เสนอมาจากหมู่บ้านชุมชน การทำถนนหนทาง ระบบน้ำประปา สาธารณูปโภคต่างๆ ยกเว้นให้กลับไปทบทวนว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดไหม เมื่อชาวบ้านยืนยันมาก็อนุมัติไปหมดแล้ว

นายทรงพล กล่าวว่า  ถ้าตั้งเป้าต้องการเพิ่มรายได้ประชากรขึ้นมา ลองกลับไปดูว่าโครงการต่างๆ ตอบโจทย์ตรงนั้นหรือไม่ ซึ่งไม่เห็นส่วนไหนที่จะสร้างรายได้ชาวบ้าน เพราะงบไปหมดในเชิงกระบวนการที่ยังไม่ถึงจุดสุดท้าย แล้วจะปล่อยให้ผู้ว่าฯอยู่เฉยได้อย่างไร

“ถ้าคิดว่าผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ต้องทำอะไรมาก เราก็อยู่เฉยๆใครจะทำอะไรก็ทำไม มีก็เหมือนไม่มีก็เป็นไปได้ แต่เราคาดหวังหรือต้องการให้เป็นแบบนั้นหรือเปล่า หรือต้องการให้มีการพัฒนา” ผู้ว่าฯกล่าว


 (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1160 วันที่ 22 -28 ธันวาคม 2560)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์