กรรมการสอบวินัย
มีมติไล่ออก ผอ.โรงเรียนอนุบาลลำปาง ตัดบำเหน็จบำนาจ ยื่น กศจ.เห็นชอบ ส่งกระทรวงศึกษาฯฟัน หลังเกษียณราชการ ด้าน อดีต ผอ.หายเงียบ
ไม่สามารถติดต่อได้
กรณีนางสุรณี กัลยารัตนกุล อายุ 64 ปี หรือ ครูต้อย ครูเกษียณราชการ และอดีตเลขาส่วนตัวของผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลลำปางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง
และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)ลำปาง เขต 1 ระบุว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักที่ต้องรับหน้าเป็นหนี้แทน
ผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ให้ไปกู้ยืมเงินมากว่า 10 ล้านบาท
และผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวได้นำเงินไปใช้ส่วนตัวมากว่า 40 ล้านบาท
เรื่องดังกล่าวได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1 และผลปรากฏว่า มีความผิดจริง ใน 3 โครงการ ไม่มีการนำเข้าเป็นรายรับของสถานศึกษา คือ โครงการฝากเด็กไว้กับครูตอนเย็น
เก็บรายละ 500 บาท โครงการจัดเรียนพิเศษ
ในช่วงเดือนตุลาคม เก็บรายละ 2,000 ต่อคน
และเรียนพิเศษช่วงเดือนเมษายน เก็บรายละ 2,500 บาทต่อคน พบว่า ทั้ง 2 โครงการ
ไม่มีใบเสร็จและไม่มีการนำเข้าสถานศึกษาอย่างถูกต้อง และ โครงการเตรียมอนุบาล ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 โดยเปิดห้องปกติ 3-5 ห้องเก็บค่าเรียนภาคเรียนละ 20,000 บาท และเปิดห้องมินิอิงลิช โปรแกรม (Mini English Program) ภาคเรียนละ 40,000 บาทต่อเทอม
เงินตรงส่วนนี้มีใบเสร็จ แต่เป็นใบเสร็จที่ไม่ถูกต้อง
สพป.ลำปาง
เขต 1 จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง
และมีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนไปปฏิบัติหน้าที่ สพป.ลำปาง เขต 1 กระทั่งนายประยูร เรียนปิงวัง ได้เกษียณอายุราชการไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย.60
ความคืบหน้าล่าสุด จากรายงานข่าวทราบว่า พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(ศธ.) กล่าวว่า กรณีครูเกษียณอดีตเลขานุการ
ผอ.ร.ร.อนุบาลลำปาง จ.ลำปาง ที่ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนที่ต้องเป็นหนี้แทน
ผอ.โรงเรียน ที่ให้ไปกู้ยืมเงินมากว่า 10 ล้านบาท และ
ผอ.นำเงินไปใช้ส่วนตัว คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ได้สรุปผลสอบแล้วพบว่า
มีความผิดจริง โดยคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเสนอไล่ออกจากราชการ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะเสนอให้ กศจ.ลำปาง เห็นชอบ
และยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังนายประยูร
เรียนปิงวัง อดีต ผอ.โรงเรียนอนุบาลลำปาง ผ่านทางโทรศัพท์มือถือหลายครั้ง
แต่นายประยูรไม่รับโทรศัพท์แต่อย่างใด
แหล่งข่าวระบุว่าหลังเกษียณอายุราชการนายประยูรก็ใช้ชีวิตประจำวันอยู่บ้านตามปกติ
ซึ่งหากมีการฟันธงว่าถูกไล่ออกชัดเจนแล้ว ก็จะถูกตัดเงินในส่วนของบำเน็จบำนาญที่จะได้รับ การจะถูกแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมายหรือการตรวจสอบทรัพย์สินจะเป็นอย่างไรก็คงจะต้องรอตามขั้นตอนต่อไป
ส่วนกรณีการแจ้งความดำเนินคดีกับครูต้อยทั้ง
ทาง ป.ป.ช.ได้รับเรื่องต่อจากพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการต่อ ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างดำเนินการ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1163 วันที่ 19 - 25 มกราคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น