เจ้าของช้างของกลาง
ส่งทนายเจรจาทวงคืนช้าง หลังคดีสิ้นสุดเมื่อปลายปี 59
แต่ยังไม่ได้ช้างคืน ด้าน ผอ.สถาบันคชบาลฯ
แจงการอนุมัติส่งคืนเป็นอำนาจของกรมอุทยานฯ ทางสถาบันคชบาลฯ
ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจได้
ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นช้างบ้านหรือช้างป่าให้ชัดเจน
เมื่อวันที่
2 ก.พ.61 เวลา 10.00 น. ที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง นายสุเทพ อุ่นศรี
ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้างประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นช้างสองแม่ลูก
ได้เดินทางมาพบและหารือกับ นายภพปภพ
ลรรพรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง
โดยมีทางพนักงานสอบสวน สภ.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก นำหนังสือยืนยันรับของกลาง จากทาง สภ.แม่ระมาด
ลงนามโดย ผกก.สภ.แม่ระมาด เดินทางเข้าพบครั้งนี้
เพื่อขอให้ทางสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง ดำเนินการคืนช้างของกลางเป็นช้างแม่ลูกสองเชือกให้กับเจ้าของช้าง
ชาวประเทศเมียนมาร์
นายสุเทพ
อุ่นศรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้างประเทศเมียนมาร์ กล่าวว่า
ที่ผ่านมาเจ้าของช้างชาวประเทศเมียนมาร์
และตนเองในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้าง ได้ไปประสานขอรับช้างคืนจากหลายหน่วยงานทั้งกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แต่ก็เงียบ ไม่มีคำตอบว่าจะได้ช้างคืนเมื่อไร ทั้งนี้
คดีนี้ถึงที่สิ้นสุดแล้วเมื่อวันที่ 15ธ.ค.59 ที่ผ่านมา จึงได้ไปติดต่อที่อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ
จ.ตาก ก็มาทราบว่า ช้างของกลางแม่ลูกทั้งสองเชือกนั้น
ได้ถูกส่งมาอยู่ในความดูแลของสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง กระทั่งทางตนเอง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สภ.แม่ระมาด จึงเดินทางมายัง จ.ลำปาง เพื่อเข้าหารือ
และแสดงหนังสือยืนยันในการรับช้างของกลางสองเชือกดังกล่าว
ซึ่งถือว่าเป็นปัญหามานาน ที่เกิดเกิดปัญหายืดเยื้อในการติดต่อขอคืนช้าง
แต่ก็ยังไม่ได้คืน มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้
ในการเข้าพูดคุยกับทางผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง
ได้แจ้งให้ทางตนเองทราบว่า ไม่สามารถที่จะคืนช้างแม่ลูกทั้งสองเชือกดังกล่าวได้
เพราะขึ้นอยู่กับทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณา
นายสุเทพ
ยังกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ถือว่ายืดเยื้อมานาน ทำให้กระทบต่อเจ้าของช้างอย่างมาก
และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งที่คดีก็มาถึงที่สิ้นสุดแล้ว
มีการตรวจสอบชัดเจนว่าช้างทั้งสองเชือก ไม่ใช่ช้างป่า เพราะมีตั๋วรูปพรรณช้างตามกฎหมายที่ออกโดยประเทศเมียนมาร์ชัดเจน
และมีการออกหนังสือระบบรับรองระหว่างประเทศ โนตารีพับบลิค
ซึ่งเป็นการรับรองเอกสารข้อเท็จจริงทางด้านกฎหมาย อย่างถูกต้อง
แต่ทว่ากลับยังคงยึดช้างดังกล่าวไว้ โดยไม่มีความชัดเจนว่า
จะได้ช้างกลับคืนไปเมื่อไร
ด้านนายสุรสิทธิ์
มุทุสาหิม กรรมการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราษฎรกลุ่มคนเลี้ยงช้าง ที่เดินทางมาติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว
ได้กล่าวว่า ตนได้รับข้อร้องเรียนจากเจ้าของช้าง ซึ่งเป็นชาวกระเหรี่ยง
สัญชาติเมียนมาร์ ถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ยึดช้างไป
และเมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว ก็ยังไม่ยอมคืนช้างให้กับเจ้าของ
นับเป็นการกระทำที่ถือว่าสร้างความเดือดร้อนแก่เจ้าของช้าง
ซึ่งเป็นชาวประเทศเมียนมาร์ และอาจจะกระทบถึงความสัมพันธ์ไมตรีระหว่างประเทศได้
ดังนั้น ตนในฐานะที่ดูแลปัญหาเกี่ยวกับช้าง จึงได้ติดตาม
และให้คำปรึกษาทั้งเจ้าของช้าง และทางทนายความผู้รับมอบอำนาจ
เพื่อร่วมกันหาทางออกในเรื่องนี้ พร้อมกับได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมไปยัง
พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ไปก่อนหน้านี้
เพื่อขอให้ตรวจสอบ และขอความเป็นธรรมต่อกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว
นายภพปภพ
ลรรพรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า
กรณีทางสถาบันปฏิเสธคืนช้างให้เจ้าของ เนื่องจากต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่า
เป็นช้างป่าหรือช้างบ้านและยืนยันว่าเป็นอำนาจของกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธ์พืชเท่านั้นที่จะปล่อยคืนช้างให้กับเจ้าของ
สำหรับช้างทั้งสองเชือกนั้น
เมื่อปี 2559 ได้ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ อ.แม่ระมาด จ.ตาก จับกุมขณะเจ้าของช้างชาวประเทศเมียนมาร์นำช้างข้ามเข้ามาหาอาหารกินในเขตประเทศไทย
ฝั่ง อ.แม่ระมาด จ.ตาก กระทั่งถูกจับกุม โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นช้างป่า
ซึ่งทางทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้างจึงได้ดำเนินการต่อสู้ทางกฎหมายในคดีนี้มาอย่างต่อเนื่อง
ว่าช้างทั้งสองเชือกไม่ใช่ช้างป่า แต่เป็นช้างเมียนมาร์ที่มีเอกสารถูกต้องตามกฎหมายของประเทศเมียนมาร์
จนกระทั่งทางอัยการจังหวัดแม่สอด
มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่คืนของกลางเป็นช้างสองแม่ลูกดังกล่าว หลังหลักฐานชี้ว่า
ไม่มีความผิด และช้างเชือกนี้ไม่ได้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1166 วันที่ 9 - 15 กุมภาพันธ์ 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น