วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ทวงคืนช้างของกลางคดีจบปีกว่าไม่รู้ป่าหรือบ้าน

จำนวนผูู้เข้าชม my widget for counting

เจ้าของช้างของกลาง ส่งทนายเจรจาทวงคืนช้าง หลังคดีสิ้นสุดเมื่อปลายปี 59 แต่ยังไม่ได้ช้างคืน  ด้าน ผอ.สถาบันคชบาลฯ แจงการอนุมัติส่งคืนเป็นอำนาจของกรมอุทยานฯ ทางสถาบันคชบาลฯ ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นช้างบ้านหรือช้างป่าให้ชัดเจน

เมื่อวันที่ 2 ก.พ.61 เวลา 10.00 น. ที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง นายสุเทพ อุ่นศรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้างประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นช้างสองแม่ลูก ได้เดินทางมาพบและหารือกับ นายภพปภพ  ลรรพรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง โดยมีทางพนักงานสอบสวน สภ.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก  นำหนังสือยืนยันรับของกลาง จากทาง สภ.แม่ระมาด ลงนามโดย ผกก.สภ.แม่ระมาด เดินทางเข้าพบครั้งนี้ เพื่อขอให้ทางสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง ดำเนินการคืนช้างของกลางเป็นช้างแม่ลูกสองเชือกให้กับเจ้าของช้าง ชาวประเทศเมียนมาร์

นายสุเทพ อุ่นศรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้างประเทศเมียนมาร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าของช้างชาวประเทศเมียนมาร์ และตนเองในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้าง ได้ไปประสานขอรับช้างคืนจากหลายหน่วยงานทั้งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แต่ก็เงียบ ไม่มีคำตอบว่าจะได้ช้างคืนเมื่อไร ทั้งนี้ คดีนี้ถึงที่สิ้นสุดแล้วเมื่อวันที่ 15ธ.ค.59 ที่ผ่านมา จึงได้ไปติดต่อที่อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ จ.ตาก ก็มาทราบว่า ช้างของกลางแม่ลูกทั้งสองเชือกนั้น ได้ถูกส่งมาอยู่ในความดูแลของสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง  กระทั่งทางตนเอง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ระมาด จึงเดินทางมายัง จ.ลำปาง เพื่อเข้าหารือ และแสดงหนังสือยืนยันในการรับช้างของกลางสองเชือกดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นปัญหามานาน ที่เกิดเกิดปัญหายืดเยื้อในการติดต่อขอคืนช้าง แต่ก็ยังไม่ได้คืน มาจนถึงปัจจุบัน  ทั้งนี้ ในการเข้าพูดคุยกับทางผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ ในพระอุปถัมภ์ฯ จ.ลำปาง ได้แจ้งให้ทางตนเองทราบว่า ไม่สามารถที่จะคืนช้างแม่ลูกทั้งสองเชือกดังกล่าวได้ เพราะขึ้นอยู่กับทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณา

นายสุเทพ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ถือว่ายืดเยื้อมานาน ทำให้กระทบต่อเจ้าของช้างอย่างมาก และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งที่คดีก็มาถึงที่สิ้นสุดแล้ว มีการตรวจสอบชัดเจนว่าช้างทั้งสองเชือก ไม่ใช่ช้างป่า เพราะมีตั๋วรูปพรรณช้างตามกฎหมายที่ออกโดยประเทศเมียนมาร์ชัดเจน และมีการออกหนังสือระบบรับรองระหว่างประเทศ โนตารีพับบลิค ซึ่งเป็นการรับรองเอกสารข้อเท็จจริงทางด้านกฎหมาย อย่างถูกต้อง แต่ทว่ากลับยังคงยึดช้างดังกล่าวไว้ โดยไม่มีความชัดเจนว่า จะได้ช้างกลับคืนไปเมื่อไร

ด้านนายสุรสิทธิ์ มุทุสาหิม กรรมการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาราษฎรกลุ่มคนเลี้ยงช้าง  ที่เดินทางมาติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ได้กล่าวว่า ตนได้รับข้อร้องเรียนจากเจ้าของช้าง ซึ่งเป็นชาวกระเหรี่ยง สัญชาติเมียนมาร์ ถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ยึดช้างไป และเมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว ก็ยังไม่ยอมคืนช้างให้กับเจ้าของ นับเป็นการกระทำที่ถือว่าสร้างความเดือดร้อนแก่เจ้าของช้าง ซึ่งเป็นชาวประเทศเมียนมาร์ และอาจจะกระทบถึงความสัมพันธ์ไมตรีระหว่างประเทศได้ ดังนั้น ตนในฐานะที่ดูแลปัญหาเกี่ยวกับช้าง จึงได้ติดตาม และให้คำปรึกษาทั้งเจ้าของช้าง และทางทนายความผู้รับมอบอำนาจ เพื่อร่วมกันหาทางออกในเรื่องนี้ พร้อมกับได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมไปยัง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ไปก่อนหน้านี้ เพื่อขอให้ตรวจสอบ และขอความเป็นธรรมต่อกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว

นายภพปภพ ลรรพรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า กรณีทางสถาบันปฏิเสธคืนช้างให้เจ้าของ เนื่องจากต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่า เป็นช้างป่าหรือช้างบ้านและยืนยันว่าเป็นอำนาจของกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธ์พืชเท่านั้นที่จะปล่อยคืนช้างให้กับเจ้าของ

สำหรับช้างทั้งสองเชือกนั้น เมื่อปี 2559 ได้ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ อ.แม่ระมาด จ.ตาก จับกุมขณะเจ้าของช้างชาวประเทศเมียนมาร์นำช้างข้ามเข้ามาหาอาหารกินในเขตประเทศไทย ฝั่ง อ.แม่ระมาด จ.ตาก กระทั่งถูกจับกุม โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นช้างป่า ซึ่งทางทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้างจึงได้ดำเนินการต่อสู้ทางกฎหมายในคดีนี้มาอย่างต่อเนื่อง ว่าช้างทั้งสองเชือกไม่ใช่ช้างป่า แต่เป็นช้างเมียนมาร์ที่มีเอกสารถูกต้องตามกฎหมายของประเทศเมียนมาร์ จนกระทั่งทางอัยการจังหวัดแม่สอด มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่คืนของกลางเป็นช้างสองแม่ลูกดังกล่าว หลังหลักฐานชี้ว่า ไม่มีความผิด และช้างเชือกนี้ไม่ได้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1166 วันที่ 9 - 15 กุมภาพันธ์ 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์