มือบอนเผาป่าลามบ่อขยะ 6 เทศบาล ระดมพ่นน้ำดับไฟ

จำนวนผู้เข้าชม

คนงานเฝ้าบ่อขยะเกาะคาเลิกงานกลับถึงบ้าน แต่ได้กลิ่นควันไฟคลุ้งและสังเกตเห็นควันดำโพยพุ่งทางบ่อขยะ รีบขี่รถออกมาดูพบไฟลุกไหม้ภายในบ่อขยะรุนแรง รีบแจ้งเทศบาลตำบลเกาะคาเข้ามาดับ ร่วมกับอีก 5 เทศบาล ใช้เวลาถึง 2 วัน  ขณะที่ ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง ยังฉีดน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 22 มี.ค. 61 เทศบาลตำบลเกาะคา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟไหม้ที่บ่อกำจัดขยะศูนย์ประสานงานด้านการบริหารจัดการขยะ เขตบ้านเหล่าแม่ปูน หมู่ 7 ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง เป็นวงกว้างและรุนแรง  จึงประสานขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงานในพื้นที่ อ.เกาะคา และ อ.แม่ทะ  6 แห่ง  ประกอบด้วย เทศบาลตำบลเกาะคา เทศบาลตำบลสบยาว เทศบาลตำบลท่าผา เทศบาลตำบลวังพร้าว เทศบาลตำบลศาลา  อ.เกาะคา และเทศบาลตำบลน้ำโจ้ อ.แม่ทะ  เร่งให้การช่วยเหลือระดมฉีดน้ำเพื่อที่จะเร่งดับไฟที่ลุกไหม้บ่อขยะแห่งนี้  โดยรถดับเพลิงได้ทยอยสับเปลี่ยนกันไปเติมน้ำ เพื่อที่จะกลับมาดับไฟอย่างเร่งด่วน ไม่ให้ไฟลุกลามไปมากขึ้น  เบื้องต้นพบว่าไฟไหม้บ่อขยะแห่งนี้ได้ลุกลามไปบริเวณกว้าง คาดว่ากินพื้นที่ประมาณ 2 ไร่

 

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่เฝ้าบ่อขยะ เพราะบ่อขยะแห่งนี้ปิดประตูตั้งแต่ 17.00 น.เป็นต้นไป โดยคนงานที่เฝ้าบ่อขยะ เล่าว่า หลังเลิกงานปิดประตูและล็อกกุญแจทุกครั้ง  กระทั่งในช่วงเวลา 18.40 น.ตนเองพักผ่อนอยู่บ้าน แต่ได้สังเกตเห็นว่ามีกลุ่มควันโพยพุ่งจำนวนมากทิศทางมาจากบ่อขยะ จึงรีบมาดูพบว่าไฟได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง จึงโทรศัพท์แจ้งปลัดเทศบาลตำบลเกาะคา ก่อนที่จะมีรถดับเพลิงเทศบาลตำบลเกาะคามาดับไฟที่ลุกไหม้แต่ไม่สามารถดับได้ เพราะเปลวไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงและออกไปอย่างรวดเร็ว  จึงต้องขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากหลายๆหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟไหม้ป่าหญ้าแห้งแล้วลุกลามเข้ามาติดลุกไหม้ขยะในพื้นที่แห่งนี้

โดยเมื่อเวลา 23.30 น. นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุและได้มีการประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเขต 10 ลำปาง สนับสนุนรถบรรทุกน้ำขนาด 10,000 ลิตร พร้อมด้วย ชุดอุปกรณ์ดับเพลิงควบคุมระยะไกล หรือหุ่นยนต์ดับเพลิง LUF 60 เข้ามาฉีดน้ำไปยังกองขยะที่ติดไฟ รวมทั้งนำรถแบ็คโฮมามาขุดกองขยะทำแนวรอบๆบ่อขยะที่เกิดเหตุ เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังกองขยะอื่นๆจนสามารถสกัดเพลิงไว้ในวงจำกัด และเจ้าหน้าที่ได้ถอนตัวออกมาเช้าตรู่วันที่ 23 ม.ค.61  จากนั้นจะได้มีการะดมกำลังเข้าไปฉีดน้ำ และนำรถแบ็คโฮขุดไปยังจุดที่ยังมีกลุ่มควันและมีไฟบางจุด เพื่อฉีดน้ำอัดเข้าไปให้ไฟดับสนิท

สำหรับ บ่อขยะที่เปิดใช้งานมาแล้วกว่า 30 ปี และมีหน่วยงานท้องถิ่นในเขตพื้นที่ อ.เกาะคา 5 แห่ง นำขยะมาทิ้ง โดยจะใช้ระบบฝังกลบเป็นชั้นๆและทำแนวคันดินกั้นระหว่างเส้นทางเข้าไปจุดทิ้งขยะเพื่อป้องกันการลุกไหม้ลุกลามหากเกิดไฟไหม้บ่ขยะ แต่ที่ผ่านมาปริมาณขยะที่มีจำนวนมาก อีกทั้งส่วนใหญ่จะเป็นถุงพลาสติกและขวดน้ำพลาสติก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงติดไฟง่าย เมื่อเกิดประกายไฟ จึงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง ยังคงออกฉีดละอองน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและสลายฝุ่นควันในอากาศอย่างต่อเนื่องวันละ 2 ครั้ง ถึงแม้ว่าปัญหาหมอกควันจะคลี่คลายลงแล้ว

 

เมื่อเวลา 13.30 วันที่ 27 มี.ค. 61 นายคมสัน สุวรรณอัมพา ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง นำเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง ได้นำชุดอุปกรณ์ดับเพลิงควบคุมระยะไกล หรือหุ่นยนต์ดับเพลิง LUF 60 ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี เข้ามาฉีดพ่นละอองน้ำขึ้นไปยังอากาศและฉีดพ่นไปตามต้นไม้รอบๆ บริเวณสวนสาธารณะเขลางค์นคร  อ.เมือง จ.ลำปาง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นในพื้นที่ และเพื่อให้ละอองน้ำได้ดักจับกลุ่มฝุ่นและหมอกควันที่ปลิวมาให้ลดปริมาณลงไป  แม้ในพื้นที่จังหวัดลำปางในขณะนี้ ปัญหาด้านมลพิษยังอยู่ในสภาวะปกติ แต่เนื่องจากสภาพโดยรอบพื้นที่ จังหวัดลำปาง มีไฟไหม้ป่าหลายแห่ง และยังคงมีกลุ่มควันไฟจำนวนมาก ซึ่งหากปล่อยไว้อาจส่งผลทำให้เกิดปัญหามลพิษตามมาได้

นายคมสัน สุวรรณอัมพา ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต10 ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง กล่าวว่า หุ่นยนต์ดับเพลิงระยะไกล ที่ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง มีจำนวน 3 เครื่อง ขณะนี้ได้ไปประจำการในพื้นที่ จังหวัดลำพูน จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เรียบร้อยแล้ว เพื่อไปพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื่นในพื้นที่จังหวัดเหล่านี้  ส่วนจังหวัดลำปาง ได้รับการสนับสนุน หรือหุ่นยนต์ดับเพลิง LUF 60 จาก ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี เข้ามาประจำพื้นที่ โดยจะทำการพ่นละอองน้ำทุกวันตั้งแต่เวลา 13.00 น.ทุกวัน วันละ 2 จุด ในพื้นที่ชุมชนและเขตเมืองลำปาง จนกว่าสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันจะคลี่คลาย

ขณะที่ล่าสุดสถานการณ์ไฟไหม้ป่า ดอยพระบาททางทิศตะวันตกคือระหว่างเขตตำบลพิชัย ตำบลบ้านเสด็จ ตำบลพระบาท ได้สงบลงแล้ว แต่ทางฝั่งทางด้านทิศตะวันออก เขตติดต่อระหว่างอำเภอแม่เมาะ และอำเภอเมือง ลำปาง ยังคงเกิดไฟไหม้ป่าเป็นแนวยาวเป็นระยะ ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการดับไฟและทำแนวป้องกันไฟไหม้ป่าอย่างต่อเนื่อง

 (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1173 วันที่ 30 มีนาคม - 5 เมษายน 25561)