สร.กฟผ.แม่เมาะแต่งดำร่วมค้านรวม.พลังงาน

จำนวนผู้เข้าชม

ชาว สร.กฟผ.แม่เมาะแต่งชุดดำร่วมค้าน  รมว.พลังงาน ทำบันทึกข้อตกลงกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้ากระบี่-เทพา ให้ถอนการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม  แถลงการณ์แสดงเจตนารมณ์พร้อมสมาชิกทั่วประเทศ 

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.61 ที่ผ่านมา สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) กฟผ.แม่เมาะ ประมาณ 100 คน  ได้ร่วมกันแต่งชุดดำ เดินทางมารวมตัวกันบริเวณหน้าตึกที่ทำการเหมืองแม่เมาะ   เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ และแสดงพลังพร้อมกันทั่วประเทศไปยังกระทรวงพลังงาน  ในการคัดค้าน กรณีที่นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ลงนาม (MOU) กับเครือข่ายปกป้องฝั่งทะเลต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน กระบี่-เทพา โดยให้ถอนการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และให้ศึกษาพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ (SEA) ภายใน 90 วัน  ส่งผลให้การสร้างโรงไฟฟ้าชะลอออกไป นำมาสู่ความสับสนต่อ กฟผ.องค์การที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายและทิศทาง  จึงได้อออกมาแสดงจุดยืนว่า กฟผ. ขอความชัดเจนในนโยบาย และทิศทางพลังงานไฟฟ้าของประเทศ

โดยได้สอบถามใน 4 ประเด็นสำคัญ คือ  1.เข้าใจบทบาทหน้าที่ของ รมว.พลังงานมากน้อยแค่ไหน เพราะแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่และเทพา ได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)แล้ว มีการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม อีไอเอ อีเอชไอเอ ซึ่งการที่สั่งให้ยกเลิกโดยอ้างถึงเอ็มโอยูถือว่าลุแก่อำนาจ ไม่เป็นไปตามหลักการ    2.ท่านได้เห็นความสำคัญกับประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ที่ให้การยอมรับเสมอภาคเท่าเทียมกับกลุ่มคัดค้านหรือไม่ เพราะการดำเนินการให้ความเข้าใจกับกลุ่มประชาชนในพื้นที่ กฟผ. ได้ดำเนินตามที่รัฐบาลสั่งการ ซึ่งท่านก็ล้มแบบไม่สนใจใยดี ซึ่งท้ายที่สุดกลายเป็นความไม่น่าเชื่อถือของกระทรวงพลังงาน    3.การที่ให้ข่าวว่าในช่วง 5 ปีจากนี้ พื้นที่ภาคใต้ไม่จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ อยากทราบว่าท่านมีข้อมูลอะไรหรือเป็นนโยบายรายวัน ในประเด็นเรื่องความมั่นคงในการผลิต หากจะต้องสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เมื่อกำลังการผลิตในภาคใต้ขยายตัวและวิกฤต จะต้องใช้กระบวนการก่อสร้างมากกว่า 5 ปี จะทำอย่างไร   และ  4.กระบวนการผลิตไฟฟ้าในปัจจุบัน ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงมีสัดส่วนเกือบ 70% ซึ่งเป็นความเสี่ยง การใช้เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าต้องมีความสมดุล ซึ่งความมั่นคงและราคาไฟฟ้าที่ไม่เป็นภารต่อประชาชนส่วนใหญ่จะทำอย่างไร

สร.กฟผ.เห็นว่าไม่ถูกต้องตามหลักการ รัฐมนตรีต้องทำหน้าที่ให้ทุกฝ่ายที่เห็นต่างย่อมมีสิทธิแสดงความเห็น รับฟังด้วยความเท่าเทียมด้วยหลักประชาธิปไตย ไม่ใช่บริหารงานแบบเถ้าแก่ที่มุ่งให้ตัวเองเป็นพระเอก แต่หน่วยงานในสังกัดที่รับนโยบายไปปฏิบัติกลับกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาสังคม

ทั้งนี้ หลังจากที่ สร.กฟผ.ทั่วประเทศได้ออกมาแสดงเชิงสัญลักษณ์  ทางประธาน สร.กฟผ. ได้ออกมากล่าวของคุณในการแสดงจุดยืน ในฐานะที่ สร.กฟผ.เป็นตัวแทนผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. ซึ่งทำหน้าที่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติทางด้านพลังงาน และร่วมทำหน้าที่ให้กับ กฟผ.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ในการดูแลความมั่นคงในระบบไฟฟ้าของประเทศไทย และขอให้สมาชิกในทุกพื้นที่ ติดตาม และรอฟังสัญญาณจาก สร.กฟผ.ต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1169 วันที่ 2 - 8 มีนาคม 2561)