เจ้าอาวาสวัดต้นธงชัย
อ.เมืองลาปง รับได้เงินสนับสนุน 2 ล้านจริง แต่ไม่มีเงินทอนคืนให้สำนักพุทธแม้แต่บาทเดียว
นำไปสมทบทุนก่อสร้างศาลาการเปรียญที่มีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
ที่ใช้ระยะเวลาสร้างนานกว่า 7 ปี ขณะที่ทางเจ้าอาวาสก็ให้ปากคำเจ้าหน้าที่ไปแล้ว
5 ครั้ง ทั้งตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของวัดและส่วนตัว
แต่ก็ยังถูกระบุเป็น 1 ใน 7
วัดที่มีเงินทอน
กรณี
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
เดินทางมาแจ้งความ ร้องทุกข์กล่าวโทษ คดีเงินทอนวัด เอาผิด 7 วัดที่เหลือ ล็อตที่
3 ที่เกี่ยวข้องการทุจริตงบการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ฯลฯ โดยระบุว่า 1 ใน 7 วัดเป็นวัดในพื้นที่ จ.ลำปาง
และต่อมาได้มีการเปิดเผยรายชื่อของวัดดังกล่าว ทราบว่าคือวัดต้นธงชัย
อ.เมือง จ.ลำปาง
เมื่อวัน
27 เม.ย.61 เวลา
15.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่วัดต้นธงชัย ต.ต้นธงชัย
อ.เมือง จ.ลำปาง หลังมีรายชื่อเป็น 1 ใน 7 วัดที่เข้าข่ายการทุจริตเงินทอนเพิ่มเติม ตามข้อมูลของสำนักงานปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ
(ปปป.) และได้พบกับพระวิสุทธิธรรมพิลาส รองเจ้าคณะจังหวัดลำปาง และเจ้าอาวาสวัดต้นธงชัย
ที่เพิ่งกลับมาจากกิจนิมนต์จากประเทศเมียนมาร์
พระวิสุทธิธรรมพิลาส
เปิดเผยว่า อาตมาได้เดินทางกลับมาจากไปศึกษาพระธรรมที่
ประเทศเมียนมาร์ โดยได้ติดตามข่าวสารการนำเสนอข่าวเรื่องการทุจริตเรื่องงบประมาณในการสนับสนุนวัดต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง
และล่าสุดพบว่าวัดต้นธงชัยแห่งนี้ ก็เป็น 1 ใน 7 วัด
ที่เข้าข่ายการทุจริตเงินทอนวัด ทางอาตมาเองก็ยังงงว่า ทางวัดได้เข้าไปทุจริตในเรื่องใด
แม้ว่าการก่อสร้างศาลาการเปรียญขนาดใหญ่ที่
ทางวัดและคณะศรัทธาได้ร่วมกันริเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2554 โดยการตั้งงบประมาณไว้กว่า 10
ล้านบาท และก็มีการก่อสร้างมาต่อเนื่อง จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา
ได้เสนองบประมาณจากส่วนกลางในการสนับสนุนก่อสร้างให้มา 2 ล้านบาท
โดยโอนเงินผ่านบัญชีสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลำปาง เข้ามายังบัญชีของวัด และได้นำเงินไปใช้จ่าย
โดยมีการจดทำบัญชีรายรับรายจ่ายไว้ทั้งหมด ซึ่งการก่อสร้างศาลาการเปรียญฯแห่งนี้ใช้เวลากว่า
7 ปี ถึงจะแล้วเสร็จด้วยงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท และได้ฉลองศาลาการเปรียญฯ ไปเมื่อเดือน มี.ค.61 ที่ผ่านมา
แต่ระหว่างห้วงปี
2560 ตลอดทั้งปี มีเจ้าหน้าที่ ปปป.และส่วนต่างๆเข้ามาตรวจสอบเอกสารหลักฐานภายในวัดและสอบปากคำอาตมาไปแล้ว
ถึง 5 ครั้ง โดยมาที่วัดต้นธงชัย 3 ครั้ง
และไปให้ปากคำที่กรุงเทพฯ 2 ครั้ง แต่ละครั้งได้นำเอกสารหลักฐานทั้งบัญชีการเงินของวัด
และบัญชีการเงินส่วนตัวของอาตมาไปชี้แจงมาโดยตลอด แต่ผลออกมาว่าวัดกลับถูกระบุอยู่ใน
1 ใน 7 วัดที่อยู่ในประกาศเรื่องทุจริตเงินทอนวัด
ยอมรับว่าได้รับเงินจริง และเงินที่โอนเข้ามา
2 ล้านบาท ก็นำไปสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญฯ ทั้งหมด ทั้งนี้ ก็อยู่ที่พยานหลักฐานต่างๆที่ได้ชี้แจงไปว่าจะออกมาในรูปแบบไหนต่อไป
ส่วนวิหารกุฏิวัด และอาคารต่างๆภายในวัด ทางเจ้าอาวาสรูปเดิมได้ก่อสร้างไว้นานแล้ว
ด้วยแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนได้ร่วมสมทุนในการก่อสร้างทั้งหมด พระวิสุทธิธรรมพิลาส เจ้าอาวาสวัดต้นธงชัย กล่าว.
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1177 วันที่ 4 - 10 พฤษภาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น