นายอำเภอเกาะคาสุดทน นำทีมผู้นำท้องถิ่นเอาผิดผู้บุกรุกที่สาธารณะริมแม่น้ำวัง
พบต่อเติมบ้านไม่ขออนุญาต และยังฉวยโอกาสฮุบที่ดินสาธารณะประโยชน์
เรียกประชุมส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.61 เวลา 10.00 น. บริเวณที่ดินสาธารณประโยชน์ริมแม่น้ำวัง
บ้านท่าผา หมู่ 4 ต.ท่าผา อ.เกาะคา จ.ลำปาง นายมนตรี นาคถาวร
นายอำเภอเกาะคา และ นางสาวเพ็ญภัค รัตนคำฟู นายกเทศมนตรีตำบลเกาะคา
พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมชี้แจง กรณีที่ดินสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ตำบลท่าผา อ.เกาะคา
จ.ลำปาง ถูกบุกรุกมีการนำรั้วลวดหนามเข้ามาล้อม
และปลูกต้นไม้ ประมาณ 3 ไร่เศษ ซึ่งทางเทศบาลตำบลเกาะคาได้เนินการแจ้งวามดำเนินคดีกับผู้บุกรุกไว้แล้ว
หลังจากมีผู้อ้างกรรมสิทธิ์ เป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวติดกับน้ำวัง
ซึ่งก่อนหน้าทางเทศบาลตำบลเกาะคาได้แจ้งให้ผู้บุกรุกนำเอกสารสิทธิต่างๆ
พร้อมหนังสือขออนุมัติในกรณีต่อเติมอาคารลุกล้ำในเขตของรัฐ มายื่นต่อเทศบาลภายใน 15 วัน แต่กลับไม่ได้เอกสารหลักฐานในการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แต่อย่างใด
นายมนตรี นาคถาวร
นายอำเภอเกาะคา เปิดเผยว่า เดิมพื้นที่ตรงนี้เป็นของกรมเจ้าท่า
แต่พื้นที่มี มากจึงได้มอบให้ทางอำเภอดูแล แต่ต่อมามีหน่วยงานท้องถิ่นเกิดขึ้นจึงมีการมอบหมายให้หน่วยงานท้องถิ่นได้เข้ามาร่วมดูแลด้วย
ซึ่งพื้นที่สาธารณะบริเวณนี้มีเทศบาลตำบลเกาะคาดูแลอยู่
หากมีการพัฒนาแล้วก็ไม่อยากให้เทศบาลรับผิดชอบเพียงคนเดียว เมื่อเกิดปัญหามีผู้บุกรุกที่ดิน
จึงต้องหารือกับทุกฝ่ายเพื่อขอความเห็นและร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป
น.ส.เพ็ญภัค รัตนคำฟู
นายกเทศมนตรีตำบลเกาะคา กล่าวว่า เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่มีน้ำท่วมขัง
ทางเทศบาลจึงได้ขออนุญาตทำการการขุดลอกมาและพ่นทรายเข้ามาทับถมในพื้นที่นี้ตั้งแต่ปี
2558
และเมื่อมีการขุดลอกแม่น้ำวังก็จะขอนำทรายมาถมบริเวณนี้ตลอด
ทำให้พื้นที่สูงกว่าจุดอื่นๆ โดยใช้งบของทางเทศบาลถมทรายมาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งทางเจ้าของอาคารด้านหน้าได้มีการต่อเติมอาคารออกมาโดยไม่ได้ขออนุญาตทางเทศบาล
และยังรุกล้ำพื้นที่สาธารณะประโยชน์เข้ามาอีก ในเดือน เม.ย.61
เทศบาลจึงมีหนังสือไปถึงเจ้าของอาคารให้ระงับการก่อสร้างต่อเติมอาคารและห้ามใช้อาคาร
เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาตจากทางเทศบาล แต่ปรากฏว่าทางเจ้าของอาคารยังได้ทำการล้อมรั้วเพิ่มอาณาเขตในที่ดินอ้อมมาด้านหลัง
และมีการปลูกต้นไม้
เทศบาลจึงแจ้งให้นำเอกสารสิทธิ์มาแสดงภายใน 15 วัน
แต่ก็ยังนิ่งเฉย
จึงได้มอบหมายให้ปลัดเทศบาลเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกแล้ว
และจากนี้จะทำการรังวัดพื้นที่ที่มีการบุกรุกทั้งหมด
เพื่อแจ้งให้ผู้บุกรุกรื้อถอนภายใน 30 วัน
หากไม่ดำเนินการใดๆ ทางเจ้าหน้าที่จะทำการเข้ารื้อถอนต่อไป
นายวุฒิกร พิจอมบุตร ปลัดเทศบาลตำบลเกาะคา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีนี้แยกเป็น 2 เรื่องคือ การก่อสร้างต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
และการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ
โดยทางเทศบาลได้แจ้งปิดประกาศให้ทางเจ้าของบ้านแล้วให้ทำการรื้อถอนส่วนที่ต่อเติมออกภายในเวลาที่กำหนด
ซึ่งทราบว่าได้มีการดึงประกาศออก และหากไม่ทำตามวันเวลาที่กำหนด
ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ส่วนกรณีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ
ได้ประสานงานกับที่ดินอำเภอให้เข้าทำการตรวจสอบพิกัดว่ามีพื้นที่ถูกบุกรุกทั้งหมดเท่าไร
คาดว่าจะทราบผลได้ในสัปดาห์หน้า และจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามกฎหมาย
สำหรับกรณีการบุกรุกที่ดินในครั้งนี้
ได้มีการร้องเรียน และเดินขบวนจากประชาชน ชาวอำเภอเกาะคา ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านเพื่อรวมพลังแสดงออกถึงความไม่พอใจในการกระทำของผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะ
และกดดันให้รื้อถอนออกไป แต่ทางผู้บุกรุกเองก็ยังนิ่งเฉย
และได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ด้วย ทั้งนี้ ทางอำเภอเกาะคาจึงได้ร่วมกับเทศบาลตำบลเกาะคา
จึงได้เรียกประชุมผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน โดยจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1180 วันที่ 25 - 31 พฤษภาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น