ปัจจุบันเครื่องสำอางราคาถูกหรือเลียนแบบแบรนด์เนมที่มีราคาถูกเกินจริง
รวมถึงเครื่องสำอางปลอมที่จำหน่ายอยู่ตามตลาดนัดและในสื่อโฆษณาขายสินค้าออนไลน์มักจะเป็นทางเลือกลำดับต้นๆของผู้ที่รักสวยรักงามแต่มีข้อจำกัดด้านเงินทุน
ซึ่งเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะพบสารปรอทหรือสารสเตียรอยด์ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและร่างกายได้
รศ.นพ.ป่วน สุทธิพินิจธรรม นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
กล่าวว่า ปัจจุบันมีเครื่องสำอางปลอมที่ไม่ได้คุณภาพจำหน่ายอยู่เป็นจำนวนมาก การเลือกใช้เครื่องสำอางหรือยา
เพื่อเสริมความงามต่างๆ ก็อาจใช้ได้ดีในระยะเริ่มต้น แต่เมื่อติดตามผลในระยะยาวก็อาจจะเกิดผลเสียได้
ซึ่งโดยทั่วไปเครื่องสำอางที่เราใช้ มี 2 ชนิด ได้แก่ 1.เดกเคอเรทีฟคอสเมติก คือ ชนิดที่เติมแต่งสีสันต่าง ๆให้กับผิวหนัง ซึ่งต้องระมัดระวังเรื่องการแพ้เท่านั้นเอง 2.ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ ซึ่งจะบำรุงได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
เพราะผิวหนังของเราจะนำเลือดมาเลี้ยงจำนวนมาก ซึ่งเมื่อมีการออกกำลังกาย รับประทานอาหารอย่างเหมาะสม
ผิวหนังก็จะดีในระยะยาว และดีกว่าการใช้เครื่องสำอาง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นเซลล์ผิวหนังในระยะสั้น
หากมีการกระตุ้นมากๆ ความเสื่อมก็จะเกิดขึ้นและจะเกิดภูมิแพ้ผิวหนังเรียกว่า
ไฮเปอร์เซ็นส์ซิทีฟสกิน สำหรับเครื่องสำอางที่ได้รับการรับรองจาก
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. บางครั้งเมื่อได้รับการรับรองครั้งที่ 1
แต่เมื่อมีการติดตามผลไปเรื่อยๆ และมีการติดตามผลไปนานๆ
คุณภาพของเครื่องสำอางนั้นๆ จะลดลงไป เมื่อไม่มีการติดตามในระยะยาว
ผลเสียก็จะเกิดกับประชาชนผู้บริโภค จึงขอฝากเตือนว่าให้ธรรมชาติรักษาตัวเองดีที่สุด
ซึ่งจะเห็นว่ามียาบำรุงหรือวิตามินต่างๆออกมาอย่างมากมาย แต่โดยความจริงแล้วเกินความจำเป็น
สิ่งที่เราใช้เป็นการสังเคราะห์ขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายสร้างเอง
นอกจากนี้ ศ.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการเตือนโดยตลอดว่าการซื้อของหรือซื้อเครื่องสำอางออนไลน์ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
เพราะไม่เห็นลักษณะของผลิตภัณฑ์จริง บางครั้งเห็นจากรีวิวของคนดัง
หรือคนที่ไม่รู้จัก ก็รู้สึกอยากใช้ตาม เหมือนการซื้อสินค้าที่ไม่รู้จักและไม่รู้ว่าคุณภาพเป็นอย่างไร
สำหรับการสังเกตเครื่องสำอางปลอมนั้น
ทำได้ยากโดยเฉพาะสินค้าลอกเลียนแบบทั้งหลาย
บางครั้งจะมีสินค้าเหล่านี้อยู่ตามตลาดนัด
หรือมีสินค้าที่ผลิตและทำแบรนด์ยี่ห้อขึ้นมาเองหรือแพ็คเกจจิ้ง
ที่มีลักษณะคล้ายกับยี่ห้อดังแต่ราคาถูกกว่ามาก ซึ่งเป็นสินค้าเครื่องสำอางปลอมแน่นอน
วิธีหนึ่งที่สังเกตได้คือ เมื่อดูรีวิวก่อนใช้และหลังใช้ แล้วดูดีเกินไป
จนเกินความน่าเชื่อถือก็ต้องระวัง หรืออีกเรื่องที่เตือนอยู่เสมอ
คือเรื่องของสรรพคุณของสินค้า ว่าสามารถรักษาได้ทุกอย่างเช่น รักษาสิวฝ้าหน้าขาวกระจ่างใส
ผมขึ้นดกดำ ผิวดูดี เต่งตึงกระชับเกินกว่าที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งจะทำได้ ต้องระวังเช่นกัน
ทั้งนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็เตือนมาตลอดว่ายังคงตรวจพบสารปรอทในยารักษาฝ้าบางตัวที่ทาแล้วหน้าขาวใสในเวลารวดเร็วนั้น
ควรพึงระวังเพราะมีผลต่อ ตับ ไต ปอด ได้ และเรื่องของสีที่ใช้ผสมในเครื่องสำอางที่ลอกเลียนแบบ
สีเหล่านี้จะมีสารพิษปนเปื้อนอยู่เช่น โลหะหนัก เป็นต้น
นอกจากนี้ สารเคมีอีกชนิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศคือ
ไฮโดรควิโนน คือยารักษาฝ้า ซึ่งหากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญก็จะไม่อันตราย
แต่หากมีการนำไปใช้ในลักษณะทำให้ผิวขาว หรือรักษาฝ้าในเปอร์เซนต์ที่สูงจนเกินไป
อาจเกิดอันตรายได้ เช่น ทำให้หน้าขาวเป็นปื้น และสีผิวจะไม่ค่อยคืนมา รวมถึงเครื่องสำอางที่ผสมสารสเตียรอยด์ก็เช่นกัน
เมื่อเข้าไปสู่ร่างกายจะเข้าไปกดการทำงานของร่างกาย ซึ่งสารสเตียรอยด์เมื่อใช้ในทางการแพทย์นั้นมีข้อดีมากมาย
แต่ต้องระวังเพราะอาจทำให้กระดูกบาง กดภูมิคุ้มกัน กดฮอร์โมนต่างๆในร่างกาย
เพราะฉะนั้นหากใช้เครื่องสำอางโดยไม่รู้ว่ามีสาร สเตียรอยด์เมื่อทาบริเวณกว้างและนานเกินไป
ก็จะก่ออันตรายต่อร่างกายด้วยเช่นกัน
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1183 วันที่ 15 - 21 มิถุนายน 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น