สอบเข้ม ปลัดพันไม้เถื่อน หาคนผิดร่วม กอ.รมน.ขยายผล รมต.ลั่นไม่ยกเว้น

จำนวนผู้เข้าชม

รมว.ทรัพย์ฯ ลั่นคนผิดไม่มีละเว้น  บิ๊กตู่ ปลัดมหาดไทยทราบเรื่องแล้ว  หลังมีปลัดอำเภอพัวพันขบวนการไม้เถื่อน จังหวัดสั่งย้ายด่วนช่วยราชการ ตั้งกรรมการ 3 ฝ่ายสอบสวน  ขณะที่ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.ลงพื้นที่สืบข่าวเข้มหาผู้ร่วมขบวนการ ด้านเจ้าหน้าที่อุทยานเข้าลงบันทึกประจำวันเหตุมีภาพปรากฎยืนข้างรถไม้  

จากกรณีเมื่อวันที่15 มิ.ย.61 กำลังเจ้าหน้าที่ ทหารร้อยฝึกรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา นำโดย พ.ต.ศุภกรณ์ พู่จันทร์ ผบ.ร้อยฝึกรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทย นำโดยนายพีระเมศร์ ตื้อตันสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.4บก.ปทส.) ตำรวจ ศปทส.ภ.5 สายที่ 1 ลำปาง  เจ้าหน้าที่ป่าไม้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 โดยการอำนวยการของ นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักฯ นายสุเทพ พุทชา ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้ นายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือกรมป่าไม้  นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หน.สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1  นายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดต่อทรัพยากรป่าไม้ที่ 3  เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ ที่ ลป.11(แจ้ห่ม)  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แจ้ห่ม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแจ้ห่ม นำโดยนายวรายุทธ ค่อยบุญ นายอำเภอแจ้ห่ม  กำนันตำบลปงดอน ผู้ใหญ่บ้าน บ้านเลาสู  ได้ร่วมกันเข้าทำการตรวจยึดไม้ประดู่แผ่น จำนวนมากกว่า 500 แผ่น ไม้ประดู่ท่อน 4 ท่อน ที่ถูกทิ้งกลางหุบเขาเส้นทางระหว่างเข้าออกหมู่บ้าน ที่บริเวณสันดอยหลวงเขตบ้านเลาสู หมู่ 8 ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง จำนวน 2 จุด

หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีกลุ่มมอดไม้เดินทางเข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้ มาเป็นขบวนการโดยใช้รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ 6 คัน ใช้โซ่พันรอบยางรถ เข้ามาชักลากไม้ในหมู่บ้านแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยมีชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวเขาในพื้นที่ สังเกตการณ์อยู่ด้วยความสงสัย โดยกลุ่มมอดไม้อ้างว่าได้จ่ายเงินซื้อไม้ทั้งหมดจากชาวบ้าน นอกจากนี้ยังเข้าไปขนไม้ภายในวัดในหมู่บ้านไปแบบหน้าตาเฉย โดยการขนย้ายไม้ได้มีการขับรถหนักออกจากหมู่บ้าน ทำให้ถนนในหมู่บ้านพังเสียหายเข้าออกลำบาก จึงได้ถ่ายรูปเป็นหลักฐาน ก่อนที่จะรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ  สำหรับการเดินทางเข้าไปยังหมู่บ้าน ต้องเข้าไปในป่าลึกกว่า 30 กิโลเมตร ทำให้กลุ่มมอดไม้ได้เทไม้ทั้งหมดทิ้งจำนวน 5 คันรถ ส่วนอีก 1 คัน สามารถขับหลบหนีออกไปได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจยึดไม้ของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แจ้ห่มดำเนินการตามกฎหมายทันที 

ทั้งนี้จากการข่าวเบื้องต้น ทราบว่ากลุ่มมอดไม้กลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนมีสีในพื้นที่ อ.งาว จ.ลำปาง ได้เข้ามาซื้อไม้ดังกล่าว โดยมีชาวบ้านบางคนขายไม้ให้อ้างว่าเป็นไม้เรือนเก่า โดยชื้อไว้นานกว่า 3 ปี ก่อนจะมาขนออกพื้นที่ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่พอใจเพราะพบพฤติกรรมข่มขู่ชาวบ้านจึงถ่ายภาพแจ้งเจ้าหน้าที่ ทหารและป่าไม้เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นจากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้ พบว่าไม้ทั้งหมด เป็นไม้ชั้นดีชนิด A ไม่พบว่าเป็นไม้ผ่านการปลูกสร้างมาก่อน และทราบว่าไม้ชุดนี้มีออเดอร์ไปส่งที่ จ.แพร่ แต่มาถูกสกัดเสียก่อนมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท

และหลังจากนั้น พบว่ามีภาพที่แชร์กันออกไปทางแอพพลิเคชั่นไลน์ เป็นภาพก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดนี้จะเข้าไปตรวจยึด มีกลุ่มชาวบ้านสามารถบรรทุกภาพรถบรรทุก 6 ล้อที่บรรทุกไม้ทั้งหมดจอดอยู่กลางหมู่บ้าน และมีการใส่โซ่ยางรถเพื่อที่จะขับขี่ออกจากหมู่บ้าน เนื่องจากทางเข้าออกหมู่บ้านเป็นลูกลังและดินโคลนทำให้ต้องใช้โซ่พันออกไป  โดยมีชายฉกรรจ์สะพายอาวุธปืนสงคราม M16 มีสัญลักษณ์ของทางราชการ ยืนอยู่กับรถหกล้อที่บรรทุกไม้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มีเจ้าหน้าที่บางคนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และการข่าวยังพบว่าไม้ที่ทำการชักลากออกไปครั้งนี้ มีคนมีสีเป็นข้าราชการฝ่ายปกครองในพื้นที่อำเภองาวเข้าไปเกี่ยวข้อง ทำให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว ทั้งเรื่องชายฉกรรจ์ไม่แต่งกายเจ้าหน้าที่ แต่สะพายอาวุธปืนสงคราม M16 มีสัญลักษณ์ของทางราชการ ปค ง.1 (ปกครอง งาว) เจ้าหน้าฝ่ายปกครองงาว เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการขนไม้เถื่อน เพื่อที่จะหาข้อเท็จจริงต่อไป

และการข่าว ยังพบว่ารถบรรทุกไม้ที่เป็นรถยนต์ 6 ล้อ ที่เข้ามาชักลากไม้ในวันดังกล่าว พบว่าทั้งหมดเป็นของชาวบ้านในพื้นที่อำเภองาว ที่ มีอาชีพรับจ้างบรรทุก เข้าไร่ เข้าสวน ทั่วไป โดยได้ค่าจ้างคันละ 3,000 บาทในการขนไม้ในครั้งนี้ บางคันที่มาบรรทุกไม้ในครั้งนี้ ไม่อยากมาแต่ต้องจำใจมาเพราะเกรงใจ และยังพบว่ารถบางคันเป็นรถสวมทะเบียนหรืออาจจะเป็นรถเถื่อน  ทราบตัวและที่อยู่ของทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป 

นอกจากนั้นจังหวัดลำปางได้มีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภองาว  1 นาย  คือ นายนิติธร  อินแฝง ปลัดอำเภองาว เข้ามาช่วยราชการที่ฝ่ายปกครอง ศาลากลางจังหวัดลำปาง หลังสืบทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการขนไม้เถื่อนครั้งนี้  

โดยนายสมเกียรติ ตันตระกูล ปลัดจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า เรื่องมีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภองาว 1 นายเป็นเรื่องจริง โดยมีคำสั่งเป็นหนังสือ ออกเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.61 และได้มีผลในวันที่ 18 มิ.ย.61 และได้ตั้งกรรมการขึ้นมา 3 ฝ่าย เพื่อร่วมกันสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดทันที หากไม่มีความผิดก็ให้ย้ายกลับไปประจำที่อำเภองาวเช่นเดิม

ต่อมาวันที่ 19 มิ.ย.61  กำลังเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันกว่า 100 นายเดินทางด้วยรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเข้าไปยังบ้านเปียงใจ หมู่ 4 ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ได้เข้าตรวจยึดไม้เถื่อนเพิ่มเติม หลังจากได้รับแจ้งว่าเป็นไม้ล็อตเดียวกันนำมาซุกซ่อนไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณบ้านเรือนชาวบ้านที่พบว่ามีการนำไม้มาซุกซ่อนพบว่ามีการกระทำผิดจริงทั้งหมด 5 จุด พบในบ้าน 2 จุด อำพรางเป็นกระท่อม 1 จุด ซุกซ่อนป่าท้ายหมู่บ้านอี 2 จุดพบเป็นไม้ประดู่ ไม้แดง แปรรูปจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ทางเจ้าหน้าที่ จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายทันที

ขณะที่เจ้าของบ้านซึ่งเป็นชายอายุ 82  ปี  ยอมรับสารภาพว่า มีชายคนหนึ่งทราบชื่อว่านายนิวัฒน์ ไม่ทราบนามสกุล นำไม้มาฝากไว้ และเมื่อถึงเวลาก็จะมาซักชากออกไป ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัว ผู้ใหญ่บ้าน กำนันในพื้นที่ เข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติมและสอบสวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการทางกฎหมาย

ในส่วนของความคืบหน้าเรื่องคดีนั้น พ.ต.ท.มงคล ดีพัฒนกุล รอง ผกก.สภ.แจ้ห่ม กล่าวว่า  ขณะนี้ยังไม่ได้เรียกใครมาทำการสอบสวน เนื่องจากทาง พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.ได้มาลงพื้นที่สืบหาข่าวเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา และทราบตัวคนขับรถบรรทุกทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานส่งให้กับทางพนักงานสอบสวน เพื่อเรียกตัวมาทำการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อหาผู้ร่วมกระบวนการต่อไป

ด้านนายพีระเมศร์ ตื้อตันสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่อุทยานที่ปรากฏในภาพยืนกับรถขนไม้จำนวน 2 คนนั้น ได้ให้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เนื่องจากในวันเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่จริง เนื่องจากพบเห็นรถบรรทุกขนไม้ออกมา แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ให้นำออกจากพื้นที่ ตอนนั้นเจ้าหน้าที่มีเพียง 2  คน ส่วนอีกฝ่ายมีมากกว่า 10 คน และมีอาวุธปืนอยู่ด้วย เลยมีการพูดคุยเจรจากันให้นำไม้ลงไว้ เพื่อไม่อยากให้เกิดเหตุรุนแรงเกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่อุทยานก็ต้องระวังตัวเองไว้ก่อน  จึงมีภาพออกมาในลักษณะเหมือนเจ้าหน้าที่ยืนคุมไม้ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น จึงมีการให้ปากคำและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว

ขณะนี้ พ.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยถึงเรื่องนี้ในโอกาสเดินทางมาลงพื้นที่ จ.ลำปางว่า  เรื่องการตัดไม้ที่มีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการตามกฎหมายไม่มีละเว้นใดๆทั้งสิ้น ต้องดำเนินการตามหลักฐานข้อมูลต่างๆ  และมีการตรวจยึดของกลางได้เพิ่มเติมจำนวนมาก  ขณะที่รัฐบาลพยายามจะเปิดช่องให้ปลูกไม้มีค่าได้อย่างถูกกฎหมาย  แต่เมื่อยังมีคนกระทำผิดก็มีชุดเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในส่วนนี้กวดขันอยู่ต่อไป  ซึ่งในเรื่องนี้ทางนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีก็ทรวงมหาดไทย ก็ทราบเรื่องแล้วตามสื่อที่ปรากฏออกไปต่างๆ ก็ว่าไปตามกฎหมายไม่มีการละเว้นใครทั้งสิ้น  อย่างไรก็ตาม ขอให้ราชการเป็นตัวอย่างให้กับประชาชน เมื่อข้าราชการทำผิดเสียเองก็ต้องได้รับการลงโทษ

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1184 วันที่ 22 - 28 มิถุนายน 2561)