
อำเภอแม่ทะประชุมชาวบ้าน
4 หมู่บ้าน เคลียร์ปมโรงเชือดหมูซีพีเอฟ ผู้ใหญ่บ้านน้ำโทก หมู่ 8 ประกาศลาออก ขอแสดงความรับผิดชอบเหตุปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
ลั่นจะขอลงสมัครสู้ต่อ อยู่ที่ศรัทธาชาวบ้าน
ขณะที่ชาวบ้านกว่า 200 คน
ยันยังไงก็ไม่เอาโรงเชือดหมู
เมื่อวันที่
28 พ.ค.61 ที่ผ่านมา ที่ศาลาเอนกประสงค์ วัดแม่ทะหลวง
หมู่ 1 ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง นายปิตุพงศ์ เทพวีระพงศ์
ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่ทะ พร้อมด้วย นายศุภรัช ตุ้ยใจ
นายกเทศมนตรีตำบลแม่ทะ นายอเนก มาใจวงศ์ กำนันตำบลแม่ทะ นายเฉลิมเกียรติ สมณะ ผู้ใหญ่บ้าน้ำโทก หมู่ 8 นายปรีชา คำลือปลูก
ผู้ใหญ่บ้านน้ำโทกหัวดง หมู่ 4 นางบุญศรี วงศ์จักร ผู้ใหญ่บ้านแม่ทะ หมู่ 1 และชาวบ้านจาก หมู่ที่ 1 บ้านแม่ทะ หมู่ที่ 2 บ้านท่าแหน หมู่ที่ 4 บ้านน้ำโทกหัวดง หมู่ที่ 8
บ้านน้ำโทก และ หมู่ที่ 9
บ้านแม่ทะม่วงคำ กว่า 200 คน
ได้เดินทางมาประชุมเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน กรณีปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการที่บริษัทเจริญโภคภัณฑ์
หรือ ซีพีเอฟ
มีแผนจะเข้ามาก่อสร้างโรงเชือดหมูในพื้นที่ ต.แม่ทะ ทางนายอำเภอแม่ทะ จึงมอบหมายให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงดำเนินการจัดประชุมดังกล่าวขึ้นเพื่อ
โดยปลัดอำเภอแม่ทะ
ได้สอบถามในที่ประชุมเพื่อเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้ออกมาพูดคุยแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง
และสอบถามว่ามีใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร
โดยการพูดคุยตามความรู้สึกของตนเอง แต่มีชาวบ้านเพียง 4-5
คนเท่านั้นที่ยกมือเห็นด้วย ส่วนชาวบ้านที่เหลือกว่า 200 คน
ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างดังกล่าว แต่ไม่มีใครออกมาแสดงความคิดเห็น
จึงได้ให้นายศุภรัช ตุ้ยใจ นายกเทศมนตรีตำบลแม่ทะ
กล่าวทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่มาประชุม
นายกเทศมนตรีตำบลแม่ทะ กล่าวว่า เรื่องของโรงงานที่จะมาตั้งเป็นโรงงานเชือดหมู จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าจะนำหมูเข้ามาอย่างไร มีวิธีการฆ่าอย่างไร เกิดกลัวปัญหามลพิษเกิดขึ้นเพราะเรื่องนี้เป็นของใหม่ในพื้นที่ ทางบริษัทจึงได้พาไปดูงาน คนที่เห็นว่าดีก็มี คนที่เห็นว่าไม่ดีก็มี จึงเกิดความเข้าใจกันคลาดเคลื่อน ทำให้มีการจัดเวทีทำความเข้าใจกันในครั้งนี้ ขณะนี้ทางบริษัทยังไม่ได้ยื่นเรื่องมาให้เทศบาลเลย ถ้ามายื่นขอในพื้นที่เทศบาลก็ต้องตรวจสอบเขตผังเมือง ทางจังหวัดก็เป็นห่วง นโยบายของรองผู้ว่าฯ ให้มาทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ทางบริษัทยังไมได้ดำเนินการใดๆ เพียงแต่มีแผนงานที่จะสร้าง และเข้ามาสำรวจแหล่งน้ำบาดาลเท่านั้น ที่ดินก็ยังไม่ได้ซื้อ หากชาวบ้านต้องการอะไร พลังของชาวบ้านเท่านั้นที่มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงของบ้านเรา
นอกจากนี้ชาวบ้านได้เรียกร้องให้นายเฉลิมเกียรติ
สมณะ ผู้ใหญ่บ้านน้ำโทก หมู่ 8 ให้ออกมาแสดงความคิดเห็น หลังจากที่ผู้ใหญ่บ้านได้มีการจัดประชุม
โดยอ้างว่าเป็นการจัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อเอื้อให้บริษัทเข้ามาตั้งในพื้นที่
โดยที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่ได้รับรู้ เป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกกันในหมู่บ้านขึ้น
นายเฉลิมเกียรติ สมณะ ผู้ใหญ่บ้านน้ำโทก หมู่ 8 กล่าวว่า ตนเองโดนร้องเรียนมาโดยตลอด ทั้งเรื่องการจัดประชุมไม่เป็นธรรม การพนันในหมู่บ้าน ซึ่งตนก็อยากให้พ่อแม่พี่น้องลดการขัดแย้ง เพราะต่างคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง พี่น้องก็ยังคิดต่างกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือเสียงส่วนใหญ่ ถ้าเสียงออกมาเป็นอย่างไรก็ขอให้ชาวบ้านยอมรับ สำหรับตนเองโดนร้องเรียนมาหลายเรื่อง จึงขอยุติการเป็นผู้ใหญ่บ้านในสมัยนี้ แต่จะขอลงสมัครในสมัยหน้าเพื่อสู้ต่อ อยู่ที่ศรัทธาของชาวบ้านถ้ารักถ้าชอบ ยังเห็นว่าตนมีประโยชน์ก็เลือก ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องเลือก ตนเองทำงานมาครบ 7 ปี ถือว่าเป็นผู้ใหญ่มานาน หลายเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความขัดแย้ง การทำประชาคมไม่ถูกต้อง ผู้ใหญ่ต้องรับผิดชอบ การทำงานปล่อยปละละเลยในหมู่บ้าน ผู้ใหญ่ก็ต้องรับผิดชอบ
“ผมเป็นคนทั่วไปเช่นเดียวกับทุกคน
แต่ก็มีคนไม่เคารพความคิดเห็นของตน มีการด่าทอกันอย่างหยาบคาย ฉะนั้นขอรับผิดชอบด้วยการลาออก
โดยจะยื่นหนังสือลาออกในวันที่ 4 มิ.ย.61
ในวันประชุมของหมู่บ้าน” นายเฉลิมเกียรติ กล่าว
ด้านนายปรีชา
คำลือปลูก ผู้ใหญ่บ้านน้ำโทกหัวดง หมู่ 4 กล่าวว่า ตามที่นายกฯพูด ได้ถามประชาชนแล้วส่วนใหญ่ไม่เอา ก็ทำให้สบายใจไปครึ่งหนึ่ง
สำหรับโรงงานจะมาตั้งได้หรือไม่นั้น ตอนนี้คงคิดหนักแล้วเพราะชาวบ้านไม่ต้องการ การประชุมนี้ถือเป็นเวทีประชาธิปไตย
ตนไม่เห็นด้วยเหมือนพี่น้องประชาชน ถ้าดีทำไมบ้านอื่นเขาไม่เอาแล้วแม่ทะเราจะเอามาทำไม
สุดท้ายนี้ชาวบ้านได้ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า
ไม่เอาก็คือไม่เอา ไม่มีอะไรที่จะมาเปลี่ยนใจชาวบ้านได้
ก่อนจะเลิกการประชุมและแยกย้ายกันกลับอย่างสงบ
ปลัดอำเภอแม่ทะ
กล่าวว่า จากที่เกิดความขัดแย้งความไม่เข้าใจกันในหมู่บ้าน
จึงได้จัดประชุมร่วมกันระหว่างชาวบ้านเกิดขึ้น
เพื่อเปิดโอกาสให้ต่างฝ่ายต่างได้รับฟังความเห็นของกันและกัน หลังจากการประชุมแล้วก็ทราบว่าเป็นไปในทางที่ดีขึ้น
ไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้อีก ต่อจากนี้เป็นดุลยพินิจของทางบริษัทว่าจะดำเนินการอย่างไร
ถ้าชาวบ้านไม่เอาก็มั่นใจว่าบริษัทเองก็คงไม่เดินต่อ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น