วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

กราบหัวใจ คนหลังม่าน

จำนวนผู้เข้าชม

ารกิจตามหา 13 นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียงรอน้ำลด ให้นำตัวทั้ง 13 คนออกมาด้วยการเดินเท้า ไม่ต้องเสี่ยงกับการดำน้ำออกมา หลังบรรลุเป้าหมาย หลายคนก็เริ่มคิดถึงคนที่มีบทบาทสำคัญ ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย ปฏิเสธไม่ได้ว่าหมายเลขหนึ่ง คือ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย

นอกจาก นายณรงค์ศักดิ์ แล้ว บรรดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แม่ทัพนายกอง ที่ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าในการช่วยเหลือ ก็เป็นที่รู้จักคุ้นเคยของคนหน้าจอ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนอีกจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะ แต่ก้มหน้าก้มตา ทำงานตามหน้าที่ ตามความมุ่งมั่น โดยไม่ใส่ใจว่าจะมีใครเห็นหรือไม่
ลานนาโพสต์ เรียกคนเหล่านี้ว่า “คนหลังม่าน” และสมควรบันทึกไว้เป็นเกียรติประวัติ แม้จะยังไม่ครบถ้วนก็ตาม

ในสถานการณ์เช่นนั้น ไม่มีใครรู้ว่า ผู้ชายผมเกรียนร่างสันทัด ที่เดินปะปนไปกับผู้คนหน้าบริเวณถ้ำหลวง หลังปฏิบัติค้นหา เจ้าหมูป่าอะคาเดมีขั้นต้นสำเร็จลงคือใคร เมื่อนักข่าวบางคนจำเขาได้ และขอสัมภาษณ์ เขาปฏิเสธ ไม่ต้องการเป็นข่าว

ตลอดระยะเวลา 9 วันในการค้นหา เขาอยู่ที่ปากปล่องบนดอยสูง กินข้าวกล่อง นอนกลางดิน กินกลางทรายกับลูกน้อง ใบหน้าเคร่งเครียด ด้วยหัวใจที่เป็นห่วงทั้ง 13 ชีวิตเบื้องล่าง มุ่งมั่นตั้งใจทำงาน ไม่พูด ไม่คุย ไม่วางท่า ทั้งที่เขาคือคนสำคัญยิ่งคนหนึ่งในปฏิบัติการครั้งนี้

ใครจะเชื่อว่า นี่คือ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หมายเลขหนึ่ง ของข้าราชการที่ทรงอิทธิพลยิ่งในสังคมนี้

หันไปมองผู้ช่วยเหลือที่ต่างความเชื่อ แต่มีหัวใจเป็นคนไทยอย่างเต็มเปี่ยม เช่นมุสลิมที่อาสามาสูบน้ำบาดาล ก็เป็นคนหลังม่าน ที่หัวใจของเขาน่านับถือเช่นกัน

ในฐานะมุสลิม นายสุทิน ไชยชมภู นายกสมาคมน้ำบาดาลแห่งประเทศไทย ย่อมเข้าใจคำว่า อิคลาศซึ่งเป็นแนวคิด และปรัชญาแบบอิสลามที่ว่า ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เพื่อใคร จะต้องทำด้วยความทุ่มเท ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ นอกจากความโปรดปรานของอัลลอฮ์ (ซบ.)เท่านั้น

แม้ทั่วร่างกายจะเปรอะเปื้อนไปดินโคลนหนา มองคล้ายเป็นหุ่นปั่น ต้องอดหลับอดนานหลายคืน แต่สิ่งที่เขาปรารถนา ไม่แตกต่างไปจากคนเล็กคนน้อยคนอื่นๆอีกมากมาย ในบริเวณถ้ำหลวง ซึ่งไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครรู้เห็น ไม่ได้อยู่หน้ากล้องโทรทัศน์ แต่พวกเขาต่างทำงานด้วยหัวใจ และก็อาจเป็นเช่นที่สุทิน กล่าว

‘..ผมจะเจาะเพื่อหาตาน้ำจนกว่าจะเสร็จ จนกว่าจะสำเร็จ โดยที่ขอค่าแรงเป็นเด็ก 13 คน และผมจะทำงานของผมจนกว่างานจะสำเร็จ โดยที่อย่าไปกลัวว่าถ้ำนี้จะพัง ผู้ที่ทำการเจาะพูดว่า ถ้ำกับชีวิตคนสิ่งไหนที่สำคัญกว่า ควรนึกถึงหัวอกของคนเป็นพ่อแม่ที่คอยเฝ้ารอลูก ถ้าถ้ำพังผมรับผิดชอบเอง

ยังมี “พอ วัชรดล” อาสาซักเสื้อผ้า ทีมเก็บรังนกจากเกาะลิบง จังหวัดตรัง คนเล็กคนน้อยเหล่านี้ คือคนหลังม่าน ที่น่ากราบที่หัวใจของพวกเขาอย่างยิ่ง


(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1186 วันที่ 6 - 12 กรกฎาคม 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์