นานปีแล้ว
ที่เราได้ยินข่าวความโหดของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์
พณิชญ์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย
และนักแสดงภาพยนตร์ไทยหลายเรื่อง ที่มีต่อภรรยาและครอบครัวของเขา
จนถึงขนาดนางปวีณา หงสกุล พาภรรยาและมารดา
แจ้งความจับเอ็กซ์ฐานใช้ความรุนแรงในครอบครัว
ในที่สุดก็จบลงด้วยความตายของเอ็กซ์
หลังจากตำรวจสถานีตำรวจมีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบยิงเขา
ขณะอยู่ในรถยนต์ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ สีดำ
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2556 บริเวณหน้าวัดบำเพ็ญใต้ ถนนรามคำแหง เขตมีนบุรี
คดีดำเนินมานานหลายปี
โดยหมอนิ่ม พ.ญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ และน.ส.สุรางค์ ดวงจินดา แม่หมอนิ่ม ตกเป็นจำเลย
ฐานจ้าง วาน ใช้ คดีจ้างวานใช้นั้น
หากผู้ถูกใช้ได้กระทำความผิดผู้ใช้ต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการ แปลว่า
เมื่อผู้ถูกใช้ยิงเอ็กซ์ตาย หมอนิ่มและแม่ก็ต้องรับผิดเท่ากับผู้ยิง
การฆ่าคนตาย
มีโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี ซึ่งถ้าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
เช่นกรณีเอ็กซ์ มีโทษประหารชีวิตสถานเดียว หมอนิ่มและแม่
หมอนิ่มจึงต้องได้รับโทษประหารชีวิต เช่นเดียวกัน หากฟังได้ว่าคนใดคนหนึ่ง
หรือทั้งสองคน เป็นผู้ใช้จ้างวาน
ศาลจังหวัดมีนบุรี
เชื่อว่า หมอนิ่มคนเดียวที่เป็นคนสั่งฆ่าเอ็กซ์ จึงพิพากษาให้ประหารชีวิตหมอนิ่ม
และยกฟ้องแม่หมอนิ่ม แต่คล้ายโลกหมุนกลับ หมอนิ่มคงหัวเราะมิได้ ร่ำไห้มิออก
เมื่อศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง แต่ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแม่หมอนิ่ม
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว
เห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า น.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 มารดา ของ พ.ญ.นิธิวดี จำเลยที่ 3 เป็นผู้จ้างวาน ให้
นายสมจิตร หรือทนายอิ๊ด ติดต่อให้ นาย จีรศักดิ์ จำเลยที่ 1 มือปืน
และนายธวัชชัย จำเลย4 คนขี่จักรยานยนต์มาฆ่าผู้ตายจริง
เนื่องจาก
น.ส.สุรางค์ ยังโกรธแค้นที่ผู้ตาย ทำร้ายร่างกาย หมอนิ่ม ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเดียว และทำร้ายหลานสาวได้รับบาดเจ็บหลายครั้งหลายหน
และเชื่อว่า ผู้ตายไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมได้
ส่วนหมอนิ่ม
ศาลเห็นว่า ยังมีความรักใคร่ผู้ตาย ทั้งระหว่างที่เกิดเรื่องก็ยังเคยมีเพศสัมพันธ์
รวมทั้ง เคยพาบุตรสาวไปเยี่ยมที่เรือนจำทหาร และไม่คัดค้านการประกันตัวผู้ตายของศาลทหาร
ที่ทำร้ายร่างกายหมอนิ่ม คดีเสพยาเสพติด้วย
ศาลอุทธรณ์
จึงพิพากษาแก้ ให้ประหารชีวิต น.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 2 ฐานใช้จ้างวานให้ฆ่าเอ็กซ์
จักรกฤษณ์ ผู้ตาย
อย่างไรก็ตามคำให้การของ
น.ส.สุรางค์ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1ใน 3
คงจำคุกไว้ตลอดชีวิต และให้ร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน
2.5 ล้านบาท ร่วมกับจำเลยที่ 1,4 และ5
สำหรับจำเลยที่
1, 4 และ 5 ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนพญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม จำเลยที่ 2 พิพากษากลับยกฟ้อง
ฟังเหตุผลในการวินิจฉัยยกฟ้องหมอนิ่ม
ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิตนั้น คงไม่อาจก้าวล่วงไปได้ แต่ฟังเอาความว่า
การที่เอ็กซ์ และหมอนิ่มยังมีเพศสัมพันธ์กันอยู่
ในระหว่างมีความขัดแย้งรุนแรงในครอบครัวนั้น ชาวบ้านชาวช่อง คงแปลกใจ และมีคำถาม
เพราะในความเป็นจริง
การมีเพศสัมพันธ์กัน มิใช่หลักฐานที่จะบอกว่า คนสองคนยังรักใคร่กันดีอยู่
ไม่มีเหตุที่ต้องไปฆ่า ไปแกงกัน หลายคนมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ผูกพันรักใคร่
บางคนมีเพศสัมพันธ์เพื่อให้ตายใจ คล้ายนิยายพิศวาสฆาตกรรม ซึ่งอาจมีปมเงื่อนลึกลับ
ซับซ้อนเกินคาดเดา
ในทางตรงกันข้าม
เมียฆ่าผัว ผัวฆ่าเมีย แทบจะเป็นเรื่องปกติในสังคมไทย และยิ่งเคยรักกัน
เคยผูกพันกันมากๆ เมื่อแปรเปลี่ยนไปตรงกันข้าม ก็เพิ่มความรุนแรงขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
เหมือนที่เราเคยฟังว่า รักมากก็เกลียดมาก
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์
เรื่องนี้ จึงยังต้องรอชมภาคต่อไป และควรเขียนติดข้างฝาไว้ด้วยว่า
คำพิพากษาศาลฏีกา อาจพลิกกลับมาอีกตลบหนึ่ง เพราะการที่คนสองคนมีเพศสัมพันธ์กัน
ไม่ได้แปลว่าจะสั่งฆ่ากันไม่ได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1191 วันที่ 10 - 16 สิงหาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น